จับวุ่น!ชายป่วยจิตหนี รพ.คลั่งอาละวาดถือมีดทำลายข้าวของตลาดสด

เมื่อช่วงเย็น วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 พ.ต.อ.สมพร รักแก้ว ผกก.สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดเทศบาลตำบลหัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ว่า มีผู้ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่งอาละวาดทุบทำลายข้าวของแผงขายของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยชายป่วยจิตมีอาวุธมีดจำนวน 2 เล่มถือแกว่งไปแกว่งมาตลอดเวลาน่าหวาดเสียวและเกรงว่าผู้คนและพ่อค้าแม่ค้าจะได้รับอันตรายได้ จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจ นำโดย ร.ต.ท.บัญญัติ ไชยทองงาม รอง สว. (ป.) สภ.หัวไทร และตำรวจสายตรวจรถยนต์ และจนท.กู้ภัยใต้เต็กตึ้งหัวไทร เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบความวุ่นวายทั้งตลาด และพบชายคลุ้มคลั่งอายุ 35 – 40 ปี มีอาวุธมีด กำลังรื้อแผงขายของ และโยนข้าวของลงพื้นเกลื่อนตลาด แต่ไม่มีใครกล้าไปห้ามปราม ตอนแรกชายคลุ้มคลั่งสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งผ้าขนหนูสีเหลือง ส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดเวลาพูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่นานได้ถอดเสื้อจนเปลือยกายล้อนจ้อน ถือมีดเดินรอบตลาด บรรดาพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่ไปจับจ่ายซื้อของไม่กล้าเข้าใกล้วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง

โดยตำรวจพยายามเกลี่ยกล่อมให้วางอาวุธมีดมอบตัวนาน 1 ชม.แต่ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจใช้เหล็กง่ามบุกชาร์จจับชายคลุ้มคลั่งได้อย่างทุลักทุเล ก่อนคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ รพ.หัวไทร สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าชายคลุ้มคลั่งคนดังกล่าว มีอาการป่วยจิต ถูกตัวส่งรักษาที่ รพ.หัวไทร ก่อนจะหนีออกจาก รพ.แล้วคลุ้มคลั่งอาละวาดที่ตลาดสด โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

นางพัชราพร อายุ 45 ปี แม่ค้าตลาดสดเทศบาลตำบลหัวไทร เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุชายเร่ร่อนคนดังกล่าว ได้เดินเข้ามาในตลาดแล้วเดินเปิดผ้าคลุมแผงขายต่างๆโดยอ้างว่า แผงที่ไปเปิดผ้าคลุมสินค้าเป็นของญาติเขา แต่แม่ค้าที่พบเห็นได้เข้าไปเตือนว่าอย่าเปิดของเขาเดี่ยวสินค้าจะเสียหาย ทำให้ชายเร่ร่อนมีอาการโกรธแค้น ถืออาวุธมีด2เล่มส่งเสียงเอะอะโวยวาย จะเข้าทำร้ายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจนต้องวิ่งหนีตายกันชุลมุน แล้วยังแก้ผ้าเปลือยกายล้อนจ้อนโชว์อวัยวะเพศอีก เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากกการคลุ้มคลั่งจากสารเสพติดและถูกนำส่งบำบัดรักษาที่ รพ.หัวไทร จนหนีออกขจากรพ.คลุ้มคลั่งอาละวาดดังกล่าว โชคดีที่ตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้านและจนท.กู้ภัยใต้เต๊กตึ้ง เดินทางมาระงับเหตุจับกุมชายคลุ้มคลั่งได้ดังกล่าว ก่อนที่จะมีการสูญเสียมากกว่านี้.