“ฟิล์ม รัฐภูมิ” โพส! ความจริงค่อยๆ เผย สิ่งที่พ่อแม่เจ็บ ใครจะรับผิดชอบ?
เมื่อความจริงเปิดเผย…! “นายเกียรติพงษ์” โพสต์ขอโทษ “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” ปมหมิ่นประมาท ปมดราม่าระหว่าง “ฟิล์ม รัฐภูมิ - หนุ่ม กรรชัย - อี้ แทนคุณ” เริ่มคลี่คลาย
กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในแวดวงสื่อและสังคมออนไลน์ เมื่อ “นายเกียรติพงษ์ ไพโรจน์” ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษ “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” ทนายความชื่อดัง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการโพสต์ข้อความซึ่งเข้าข่าย “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ต่อทนายคนดังรายนี้ กรณีที่ทนายประมาณทำหน้าที่เป็นทนายความของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” นักแสดงและนักร้องชื่อดัง ในคดีที่มีข้อพิพาทกับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรชื่อดัง และ “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” นักการเมืองคนดัง
โดยข้อความขอโทษดังกล่าว ได้ถูกโพสต์ขึ้นในรูปแบบของแถลงการณ์ ที่แสดงถึงความสำนึกผิด และการยอมรับว่าได้กล่าวคำที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แท้จริง ทั้งยังระบุชัดว่า ทนายประมาณนั้น เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพกฎหมาย ไม่ได้มีการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และมีคุณธรรมทางวิชาชีพที่พึงเคารพอย่างยิ่ง
ถ้อยคำขอโทษที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา
ใจความสำคัญของโพสต์จากนายเกียรติพงษ์ มีดังนี้:
“ข้าพเจ้า นายเกียรติพงษ์ ไพโรจน์ ได้กระทำการดูหมิ่นและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต่อทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ในกรณีที่ทนายประมาณทำหน้าที่เป็นทนายความกรณีของนายฟิล์ม รัฐภูมิ ซึ่งมีข้อพิพาทกับนายหนุ่ม กรรชัย และนายอี้ แทนคุณ จนส่งผลให้ทนายประมาณได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
ขณะนี้ ข้าพเจ้าได้ทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้องแล้วว่า ทนายประมาณไม่ได้เป็นบุคคลอย่างที่ข้าพเจ้ากล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ทนายประมาณได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความอย่างมีเกียรติ และอยู่ในกรอบแห่งจรรยาบรรณ…
ข้าพเจ้าขอสำนึกผิด และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ”
ข้อความดังกล่าวไม่เพียงแสดงถึงการขอโทษเท่านั้น แต่ยังแสดงออกถึงการยอมรับความผิด และให้เกียรติแก่บุคคลที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ที่ได้รับผลกระทบด้านชื่อเสียงจากการกล่าวหาดังกล่าว
ฟิล์ม รัฐภูมิ โพสต์อินสตาแกรมสะท้อนความรู้สึก “แล้วใครรับผิดชอบความเสียใจของครอบครัวผม?”
ไม่เพียงแต่จะมีการขอโทษผ่านเฟซบุ๊กเท่านั้น แต่กรณีนี้ยังได้รับการพูดถึงอีกครั้งเมื่อ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ได้นำภาพแคปหน้าจอโพสต์ขอโทษดังกล่าว ไปโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความในเชิงตัดพ้อและสะท้อนความรู้สึกว่า:
“พอความจริงเริ่มปรากฏก็เริ่มออกมาขอโทษกัน แล้วสิ่งที่พ่อ แม่ แฟนๆ ที่รักผมเสียใจไป ใครรับผิดชอบดี? เดี๋ยวยังมีออกมากันอีกนะครับ ดูกัน…ผมบอกแล้วครับ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ผมรอได้เสมอ”
โพสต์นี้ของฟิล์มเรียกเสียงสนับสนุนและความเห็นใจจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม เพราะตลอดระยะเวลาที่เกิดข้อพิพาทและดราม่าผ่านหน้าสื่อ ฟิล์มเองมักจะใช้ถ้อยคำสุขุมและไม่ตอบโต้แบบรุนแรง แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากกระแสสังคมที่เข้าใจผิดหรือได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน
ย้อนความดราม่า “ฟิล์ม - หนุ่ม - อี้” จุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิด
หลายคนอาจยังไม่ทราบต้นตอของเหตุการณ์ที่นำไปสู่การกล่าวหาในโลกออนไลน์ ซึ่งต้องย้อนกลับไปยังข้อพิพาททางกฎหมายระหว่าง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” กับ “หนุ่ม กรรชัย” และ “อี้ แทนคุณ” ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาส่วนตัวและการดำเนินการทางกฎหมาย โดยทนายประมาณได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นทนายของฝ่ายฟิล์มในกรณีนี้ ซึ่งในโลกโซเชียลได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทนายประมาณในเชิงลบอย่างรุนแรง โดยมีการเข้าใจผิดว่าเขาเลือกข้างหรือมีอคติต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป และข้อมูลจริงเริ่มถูกเผยแพร่ ผู้ที่เคยกล่าวหาโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงจึงเริ่มออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงนายเกียรติพงษ์ ที่เป็นผู้หนึ่งในกลุ่มที่เคยวิจารณ์ทนายประมาณอย่างไม่เหมาะสม
ทนายประมาณ: ตัวแทนทนายความมืออาชีพ ที่ยึดมั่นในจริยธรรม
การที่มีผู้กลับมาขอโทษเช่นนี้ ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ทนายประมาณทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางและยึดมั่นในจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในยุคที่กระแสข่าวลือในโลกออนไลน์สามารถทำลายชื่อเสียงของคนคนหนึ่งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
ทนายประมาณเป็นที่รู้จักกันดีในวงการกฎหมายไทย ด้วยบุคลิกสุขุม พูดจามีเหตุมีผล และมักจะยืนหยัดอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ ผู้ที่เคยติดตามผลงานหรือการออกความเห็นทางกฎหมายของทนายท่านนี้ จะทราบดีว่าเขาไม่ใช่คนที่ใช้วิธีโจมตีฝ่ายตรงข้ามผ่านสื่อ แต่เลือกที่จะใช้ข้อกฎหมายและเหตุผลเป็นหลัก
บทเรียนของโลกโซเชียล: ก่อนแชร์ ควรคิดให้ดี
กรณีของนายเกียรติพงษ์ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของผลกระทบจาก “การพูดหรือแชร์โดยไม่รู้ข้อเท็จจริง” ในโลกยุคดิจิทัล เพราะแม้จะเป็นเพียงโพสต์สั้น ๆ แต่ก็อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อบุคคลอื่นได้อย่างไม่คาดคิด
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการคิดไตร่ตรองก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง และอย่าด่วนตัดสินใครเพียงเพราะกระแสหรือคำกล่าวหาจากบางฝ่าย เพราะสุดท้ายแล้ว “ความจริง” จะเป็นสิ่งที่เปิดเผยด้วยตัวมันเองเสมอ
ความจริงที่ปรากฏ และคำขอโทษที่อาจยังไม่เพียงพอ
แม้จะมีคำขอโทษจากนายเกียรติพงษ์แล้ว แต่เสียงจากฟิล์ม รัฐภูมิ ก็สะท้อนให้เห็นว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเขาเอง หากแต่ยังรวมถึงครอบครัว แฟนคลับ และบุคคลใกล้ชิดที่ต้องแบกรับความเศร้าและความผิดหวัง
ดราม่านี้อาจยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เพราะเจ้าตัวยังทิ้งท้ายว่า “เดี๋ยวยังมีออกมากันอีก” ซึ่งอาจหมายถึงจะยังมีอีกหลายคนที่ทยอยออกมาขอโทษหลังความจริงเริ่มปรากฏ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
สารพิษในร่าง 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา'! ตำรวจเร่งสอบพยาน ตรวจบ้านพักซ้ำ รอญาติจากเชียงราย
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
เสกโลโซ เขียนจดหมายส่งออกจากเรือนจำ โดยขอยุติหน้าที่ที่จะต้องออกไปทำงานนอกเรือนจำทุกประเภท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 



