มหาวิทยาลัยในเนเธอร์แลนด์จัด “งานศพจำลองให้ตัวเอง” นักศึกษาแห่ร่วมประสบการณ์ตายก่อนตาย
ที่มหาวิทยาลัย Radboud University เมืองไนเมเกน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เปิดหลักสูตรเสริมสุดแปลกแต่เป็นที่นิยมอย่างสูงชื่อว่า “The Coffin Experience” หรือ “ประสบการณ์ในโลงศพ” โดยให้นักศึกษาเข้าไปนอนในโลงจริง พร้อมเพลงบรรเลงช้าๆ ไฟสลัว และมีการอ่านคำไว้อาลัยที่เขียนถึงตัวเอง
จุดประสงค์ของหลักสูตรนี้ไม่ใช่เพื่อความสยองหรือสร้างไวรัล แต่เป็นกิจกรรมเชิงจิตวิทยาและปรัชญาที่พยายามให้คนรุ่นใหม่เข้าใจความตาย และกลับมาตั้งคำถามกับความหมายของการมีชีวิตอยู่
ศาสตราจารย์แฟรงค์ เดอ วิต ผู้ริเริ่มกิจกรรมนี้กล่าวว่า
“ในยุคที่ชีวิตหมุนเร็ว จิตใจคนจมหายไปกับหน้าจอ เราพบว่านักศึกษาจำนวนมากรู้สึก ‘ว่างเปล่า’ ทั้งที่มีทุกอย่างครบ การได้เผชิญหน้ากับความตายเชิงสัญลักษณ์ จะดึงให้เขากลับมาเห็นค่าของลมหายใจแต่ละวัน”
กิจกรรมนี้ใช้เวลา 30 นาที ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องเขียน "จดหมายลาตาย" ถึงตัวเอง เลือกเพลงไว้อาลัย และเข้านอนในโลงไม้แบบเรียบง่ายที่ถูกออกแบบมาให้ปิดฝาได้สนิท (แต่มีระบบอากาศถ่ายเท) โดยไม่มีเสียงรบกวนจากโลกภายนอก นักจิตวิทยาอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย
ผลลัพธ์ของการทดลองนี้น่าทึ่งมาก – นักศึกษาส่วนใหญ่รายงานว่ารู้สึก “ตื่น” ทางความคิด มีแรงจูงใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น กล้าทำสิ่งที่เคยกลัว รู้คุณค่าของคนรอบตัว และลดความเครียดจากเป้าหมายในโลกโซเชียล
กิจกรรมนี้ยังถูกนำไปต่อยอดใช้กับคนวัยทำงานที่ภาวะหมดไฟ (burnout) และผู้ป่วยซึมเศร้าบางกลุ่ม ซึ่งพบว่ามีผลทางจิตใจในเชิงบวก แม้จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
มีนักศึกษาคนหนึ่งกล่าวว่า
“ฉันเคยคิดว่าเกรดต่ำคือจุดจบของโลก แต่ในโลงนั้น ฉันกลับคิดถึงแม่ คิดถึงสิ่งดีๆ ที่เคยทำ และนั่นทำให้ฉันรู้ว่า ยังมีอะไรสำคัญมากกว่าคะแนน”
แม้บางฝ่ายจะวิจารณ์ว่าแนวคิดนี้ดู “หลอน” และอาจกระทบจิตใจคนบางกลุ่ม แต่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์กลับเห็นว่าเป็นนวัตกรรมเชิงจิตวิทยาที่ควรศึกษา และกำลังพิจารณาให้ทุนสนับสนุนเพื่อขยายการใช้ในสถาบันอื่นๆ ทั่วประเทศ










