มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นเปิดหลักสูตร “วิทยาศาสตร์แห่งการนั่ง” – ศึกษาเชิงลึกท่านั่ง เก้าอี้ และความสัมพันธ์กับสมองมนุษย์
มหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวหลักสูตรใหม่สุดแปลกภายใต้คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชื่อว่า “ศาสตร์แห่งการนั่ง (Sitting Science)” โดยเป็นการบูรณาการระหว่างวิศวกรรมศาสตร์ สรีรวิทยา จิตวิทยา และประวัติศาสตร์ เพื่อศึกษา “การนั่ง” ในแง่มุมที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนอย่างจริงจัง
ศาสตราจารย์เคนจิ ยามาดะ ผู้ริเริ่มหลักสูตรนี้ กล่าวว่า “มนุษย์ใช้เวลามากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันในการนั่ง แต่เราไม่เคยเรียนรู้เลยว่าท่านั่งไหนดีที่สุด ท่าไหนกระทบสมอง ท่าไหนทำให้คิดสร้างสรรค์มากขึ้น หรือท่าไหนทำให้เราใจร้อนโดยไม่รู้ตัว”
หลักสูตรนี้ใช้เก้าอี้หลากหลายแบบ ตั้งแต่เก้าอี้โบราณสมัยเอโดะ ไปจนถึงเก้าอี้อวกาศของนาซ่า มาทดลองกับนักศึกษาจริง มีการติดตั้งเครื่องสแกนสมองเพื่อตรวจคลื่นสมองขณะนั่งในท่าต่างๆ เช่น ท่าชันเข่า ท่าไขว่ห้าง ท่านั่งยองแบบญี่ปุ่นโบราณ และท่านั่งหลังค่อมแบบพนักงานออฟฟิศ
ผลการศึกษาระยะแรกพบว่า:
– ท่าไขว่ห้างนานเกิน 15 นาที ทำให้สมองซีกซ้ายทำงานช้าลง (ซึ่งเกี่ยวกับการใช้เหตุผลและภาษา)
– ท่าหลังตรงเกินไปกลับสร้างความเครียดมากกว่าท่าผ่อนคลายเล็กน้อย
– ท่านั่งยองที่ชาวญี่ปุ่นเคยใช้ในการนั่งรับประทานอาหาร ทำให้เกิดคลื่นสมองอัลฟา ซึ่งสัมพันธ์กับความสงบและความคิดสร้างสรรค์
– เก้าอี้ที่เอียงลงด้านหน้าเล็กน้อย 5-7 องศา ช่วยกระตุ้นการจดจำระยะสั้นได้ดีขึ้นถึง 18%
ความน่าทึ่งของหลักสูตรนี้ไม่ใช่แค่เรื่องท่านั่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “ประวัติศาสตร์ของเก้าอี้” เช่น การศึกษารูปทรงของเก้าอี้จักรพรรดิในราชวงศ์จีน หรือ “เก้าอี้ประจำตำแหน่ง” ของผู้บริหารยุคใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้นั่งตัวสูงขึ้นกว่าคนอื่นในห้อง เพื่อเสริมอำนาจเชิงจิตวิทยา
นักศึกษาในชั้นเรียนยังต้องออกแบบ “เก้าอี้เพื่ออารมณ์” เช่น เก้าอี้ที่ทำให้นั่งแล้วใจเย็น เก้าอี้ที่นั่งแล้วตื่นตัว หรือแม้แต่เก้าอี้ที่ป้องกันการนินทา (!?) ด้วยดีไซน์ที่แยกเสียงให้ชัดเจน
ตอนนี้มีบริษัทเฟอร์นิเจอร์หลายเจ้ากำลังจับตาหลักสูตรนี้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โต๊ะเรียนที่มีท่านั่งเฉพาะสำหรับวิชาคณิตศาสตร์ หรือเก้าอี้ที่นั่งแล้วกระตุ้นสมาธิให้พนักงานในออฟฟิศ
ศาสตราจารย์เคนจิกล่าวทิ้งท้ายว่า
“มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อยืนหรือนอนอย่างเดียว… เราคือสิ่งมีชีวิตที่ ‘นั่ง’ มากที่สุดในโลก แต่กลับไม่เคยรู้เลยว่าเราควรนั่งอย่างไรให้ชีวิตดีขึ้นจริงๆ”










