หนุ่มอิตาลีปลอมตัวเป็นรูปปั้นเพื่อหาเงิน

กลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี ชายคนหนึ่งวัย 57 ปีชื่อว่า “อันโตนิโอ รอสซี่” กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อเขาถูกตำรวจจับได้ในข้อหา “ปลอมตัวเป็นรูปปั้น” แล้วขโมยเงินนักท่องเที่ยวอย่างแนบเนียน เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ขณะที่อันโตนิโอกำลังตกงานจากบริษัททำความสะอาดที่เขาทำมาเกือบ 20 ปี เขามีหนี้สินล้นตัว บ้านกำลังจะถูกยึด และไม่มีรายได้พอแม้แต่จะซื้อข้าวให้แม่ที่แก่ชราซึ่งป่วยติดเตียง
อันโตนิโอเล่าว่า เขาเริ่มสังเกตว่ารูปปั้นมีชีวิตหรือ “มนุษย์รูปปั้น” ที่ยืนแสดงตามจัตุรัสใหญ่ของโรมสามารถหาเงินได้จากการแค่ “อยู่นิ่งๆ” ซึ่งดูเหมือนจะง่ายและไม่ต้องพูดอะไรเลย ด้วยความหมดหวัง เขาจึงลองทาสีเงินทั่วร่างกาย ใส่ชุดเก่าของทหารโรมัน และไปยืนเป็นรูปปั้นอยู่หน้าโคลอสเซียม เขายืนอยู่นิ่งๆ นานกว่า 4 ชั่วโมง โดยไม่มีใครสงสัยอะไร เขาบอกว่า “ผมสั่นไปหมด เพราะกลัวโดนจับ แต่ผมก็ได้เงินจากนักท่องเที่ยวคนแรกที่โยนเหรียญลงถาด… แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไป”
ตลอด 3 ปีหลังจากนั้น อันโตนิโอพัฒนาทักษะการเป็น “รูปปั้นที่สมบูรณ์แบบ” เขาสามารถอยู่เฉยได้ครั้งละหลายชั่วโมงไม่กระพริบตา เขาฝึกควบคุมการหายใจ ฝึกการวางท่าให้สมดุล เขายังลงทุนทาสีร่างกายด้วยสีที่ไม่ลอกแม้เหงื่อออก มีเทคนิคพ่นสีซ้ำทุกคืนหลังเลิกงาน แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้ก็คือ...เขามี “วิธีขโมยเงินคืน” จากกล่องบริจาคอย่างแนบเนียนโดยใช้เทคนิคแอบวางเหรียญหลอกและใช้แท่งแม่เหล็กดูดเหรียญยูโรกลับมาใส่กระเป๋าในเวลาที่ไม่มีคนสังเกต
อันโตนิโอหาเงินได้ถึงวันละ 200 ยูโร (ราว 8,000 บาท) และสามารถส่งเงินกลับบ้านทุกวันโดยไม่มีใครรู้ เขากลายเป็น “รูปปั้นคนโปรด” ของนักท่องเที่ยว เพราะไม่เคยขอเงิน แต่กลับได้รับเสมอด้วยความนิ่งระดับเทพเจ้าโรมัน เขายืนอยู่ในตำแหน่งเดิมทุกวันจนกลายเป็นหนึ่งใน “แลนด์มาร์กมนุษย์” ที่นักท่องเที่ยวบอกกันปากต่อปาก
แต่แล้ววันหนึ่ง ตำรวจสายสืบที่คอยตรวจสอบแก๊งขอทานในเมืองได้เฝ้าสังเกตว่าเหรียญจากกล่องของอันโตนิโอ “หาย” มากกว่าที่ควรจะเป็น และกล้องวงจรปิดก็บันทึกวินาทีที่เขาใช้แท่งแม่เหล็กยาวขนาดเล็กซ่อนไว้ในถุงผ้าทำมือ แอบรูดเหรียญกลับเข้ากระเป๋าอย่างแยบยล แม้มือจะยังไม่ขยับตัวเลยด้วยซ้ำ!
เมื่อถูกจับได้ เขาไม่ได้หนี เขากลับนั่งลงอย่างสงบ และพูดแค่ว่า “ผมไม่ได้อยากโกง ผมแค่ไม่อยากให้แม่อดข้าว”
หลังถูกจับ อันโตนิโอกลายเป็นกระแสในโซเชียลอย่างรวดเร็ว หลายคนเห็นใจเขา บางคนยื่นมือขอช่วยเรื่องกฎหมาย บางบริษัทเสนอให้เขาเป็น “พรีเซ็นเตอร์ความอดทน” ให้กับแคมเปญโฆษณา และที่น่าแปลกที่สุด — มหาวิทยาลัยศิลปะในโรมได้เชิญเขาไปเป็นอาจารย์พิเศษในหัวข้อ “ศิลปะกับการเอาตัวรอดในสังคมเมือง”
ทุกวันนี้อันโตนิโอไม่ได้เป็นรูปปั้นอีกแล้ว เขาดูแลแม่อย่างเปิดเผย รับงานพูดในโรงเรียนและรายการโทรทัศน์ บอกเล่าถึงชีวิตที่ “นิ่งยิ่งกว่ารูปปั้น แต่ใจต้องแข็งยิ่งกว่าหิน”






















