“เจ้าสาวเวียดนามลวงรัก!หนุ่มเกาหลีแฉวีรกรรมชีวิตหลังแต่ง พบเบื้องหลังค้าบริการชายกว่า 600 ราย”
สร้างความตะลึงไปไม่น้อย สำหรับข่าวเกาหลีใต้ในขณะนี้ เกิดจากการเปิดเผยของชายชาวเกาหลีใต้นามสมมุติ นายเอ วัย 42 ปี ที่ได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ ในการออกมาเล่าเรื่องราวความรักสุดช้ำผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย หลังจากที่พบว่าอดีตภรรยาชาวเวียดนามมีเบื้องหลังที่ไม่น่าเชื่อ
นายเอ อาศัยอยู่ในเมืองนัมยางจู จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า หลังจากที่เลิกรากับแฟนสาวที่คบกันมายาวนานถึง 12 ปี เขาได้ตัดสินใจใช้บริการของเอเจนซี่ในการจัดหาคู่ชาวต่างชาติในเดือนกันยายน 2022 และเลือกหญิงสาวชาวเวียดนามวัย 20 ปี ซึ่งพูดภาษาเกาหลีได้คล่องและมีชื่อสมมุติว่า นางสาวบี ทั้งคู่พบกันที่เมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นไวมาก โดยออกเดทและหมั้นกันภายใน 1 เดือน ก่อนที่จะแต่งงานกันในเดือนธันวาคม 2022 และย้ายมาใช้ชีวิตร่วมกันที่เกาหลีใต้ในเดือนมีนาคม 2023
แต่เพียง 7 เดือนหลังแต่งงาน ในเดือนตุลาคม 2023 นางสาวบีเริ่มมีอาการปวดท้องน้อยและได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ถึง 4 ชนิด ซึ่งในภายหลังพบว่าสามีก็ได้รับเชื้อเดียวกัน ทั้งที่ผลตรวจสุขภาพก่อนย้ายเข้าประเทศไม่พบโรคใดๆ
แต่ไม่นานเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายปมที่เกิดขึ้น เมื่อครั้งหนึ่งภรรยาขออนุญาตออกไปค้างกับ “เพื่อนสนิท” แต่กลับหายตัวไปถึง 2 คืน 3 วัน และปฏิเสธไม่ให้สามีดูโทรศัพท์มือถือหลังกลับมา ก่อนที่จะมีการทะเลาะและภรรยาพยายามจะทำร้ายร่างกายตัวเอง ในภายหลัง นายเอกลับพบว่า “เพื่อนสนิท” ที่ว่าคือคนรักของภรรยาและอดีตภรรยายอมรับว่าเคยค้าบริการทางเพศ โดยชายคนดังกล่าวคือหนึ่งในลูกค้าประจำของเธอ และตัวเธอเองยังเปิดเผยอีกว่าให้บริการกับชายมากกว่า 600 ราย ระหว่างเวลา 14.00-21.00 น. 6 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 โดยหลอกสามีว่าออกไปเรียนหรือทำงานพาร์ทไทม์
ท้ายที่สุดนายเอจึงตัดสินใจยื่นฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหาย ซึ่งอดีตภรรยายอมรับและสัญญาจะชดใช้ด้วยการทำงานในสถานบันเทิง แต่เพียงไม่นานเธอก็หลบหนีและตัดการติดต่อทุกช่องทาง
หลังจากไม่สามารถติดตามตัวได้ นายเอจึงเลือกเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดต่อสาธารณะ เพื่อเตือนภัยให้กับผู้ชายเกาหลีรายอื่นๆ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกัน
กับตน เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วในสื่อออนไลน์ของเกาหลีใต้ ขณะที่ชาวเน็ตจำนวนมากก็ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการเนรเทศหญิงต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อค้าบริการทางเพศอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้จากการหลอกลวงในลักษณะนี้อีกในอนาคต






















