ประกาศคณะสงฆ์ภาค 10 ธรรมยุต ‘ห้ามภิกษุสวดปาติโมกข์ภาษาไทย’ ทำพระธรรมวินัยวิปริต
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 พระราชบัณฑิต เจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) ได้ลงนามในประกาศสำคัญ เรื่อง “ห้ามภิกษุสวดปาติโมกข์ด้วยเสียงคำแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอื่นใด” เพื่อรักษาข้อบัญญัติในพระธรรมวินัยตามแนวทางของคณะสงฆ์เถรวาทอย่างเคร่งครัด
เนื้อหาของประกาศดังกล่าวอ้างอิงหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่
1. ภาษาที่ใช้ในการสังคายนา – คณะสงฆ์เถรวาทได้สังคายนาและบันทึกพระธรรมวินัยไว้ด้วย ภาษาบาลี มาโดยตลอด มิใช่ภาษาไทยหรือภาษาอื่นใด
2. ภาษาที่ใช้ในการอุปสมบท – ญัตติจตุตถกรรมวาจา ซึ่งใช้ในพิธีอุปสมบทตามพระพุทธบัญญัติ ได้กำหนดไว้เป็นภาษาบาลีเท่านั้น
3. ภาษาที่ใช้ในสังฆกรรม – พระพุทธเจ้าได้ทรงอนุญาตให้ประกอบสังฆกรรมต่าง ๆ เช่น กรานกฐิน เป็นภาษาบาลีเท่านั้น
4. การสวดปาติโมกข์ – พระพุทธองค์ทรงบัญญัติให้การสวดปาติโมกข์ต้องดำเนินไปด้วยภาษาบาลี อันเป็นภาษาดั้งเดิมแห่งพระธรรมวินัย เพื่อมิให้หลักธรรมถูกแปลความผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์เดิม
ในประกาศยังได้อ้างอิงถึงกรณีของภิกษุในอาวาสแห่งหนึ่งที่ไม่รู้วิธีสวดปาติโมกข์ และถูกกำชับให้เดินทางไปศึกษาจากอาวาสที่มีพระภิกษุรู้อุโบสถหรือปาติโมกข์ให้ชัดเจน หากไม่กระทำเช่นนั้น จะถือว่าต้องอาบัติทุกกฎ
ด้วยเหตุนี้ เจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) จึงมีมติกำหนดให้การสวดปาติโมกข์ในเขตปกครองของภาค 10 ต้องกระทำด้วย ภาษาบาลี เท่านั้น ห้ามมิให้สวดด้วยเสียงคำแปลเป็นภาษาไทยหรือภาษาอื่นใดโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถือว่าเป็นการวิปริตพระธรรมวินัย มิใช่ผู้ทำสังฆกรรมตามมติเถรวาท
ประกาศฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาความบริสุทธิ์ของพระธรรมวินัยตามแนวทางดั้งเดิมของพระพุทธศาสนา และเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สังคมพุทธควรให้ความสนใจ และพิจารณาด้วยความเข้าใจอย่างรอบด้าน





















