ด่วน!ศาลยกฟ้อง “แซน-กระติก-ภีม” คดีแตงโม ตกเรือ “จ๊อบ” รอดแต่รอลงอาญา!
ศาลอาญาจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง 3 จำเลย คดีแตงโมตกเรือเสียชีวิต - จ๊อบโดนรอลงอาญาคดีทิ้งขยะลงแม่น้ำ
เป็นเวลาผ่านมาเกือบ 3 ปีเต็มแล้วสำหรับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่หลายคนยังไม่ลืม กับกรณีการเสียชีวิตของดาราสาวชื่อดัง “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อค่ำคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ กลายเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสังคมในวงกว้างและยืดเยื้อมายาวนาน
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ทางศาลอาญาจังหวัดนนทบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว โดยมีจำเลยทั้งหมด 4 ราย ได้แก่
1. นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ “กระติก” ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม
2. นางสาววิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ “แซน” เพื่อนร่วมวงการที่อยู่บนเรือในคืนเกิดเหตุ
3. นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ “เอ็ม” ซึ่งถูกกล่าวถึงในกระบวนการสอบสวน
4. นายนิทัศน์ กีรติสุทธิ หรือ “จ๊อบ” อีกหนึ่งบุคคลที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ในคืนนั้น
ผลคำพิพากษา: ยกฟ้อง 3 จำเลยหลัก - จ๊อบรับโทษฐานทิ้งขยะ
จากการรายงานของเพจ “ดาวแปดแฉก” ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ติดตามข่าวสารทางกฎหมายและคดีความของคนดัง ได้เปิดเผยว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 3 ได้แก่ “แซน”, “กระติก” และ “ภีม” ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ที่ชัดเจนพอจะยืนยันได้ว่า ทั้งสามกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ในขณะที่ “จ๊อบ” ซึ่งถูกตั้งข้อหาในคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่อง คือการแจ้งความเท็จ และการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน และปรับเป็นเงิน 16,000 บาท สำหรับข้อหาแจ้งความเท็จ และจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท สำหรับข้อหาทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้ “รอลงอาญา” โทษจำคุกเป็นระยะเวลา 1 ปี
แม้จะไม่มีใครถูกลงโทษในข้อหาใหญ่ซึ่งเป็นประเด็นสังคม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คดีนี้ยังทิ้งคำถามและบาดแผลไว้ในใจของประชาชนไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันแรก
ย้อนรอยเหตุการณ์: คืนแห่งความมืดมนบนเรือสปีดโบ๊ท
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 โดย “แตงโม นิดา” ได้ไปร่วมทานอาหารและล่องเรือสปีดโบ๊ทกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งรวม 5 คน ซึ่งประกอบไปด้วย “แซน”, “กระติก”, “จ๊อบ”, “เอ็ม” และอีกหนึ่งบุคคลที่เป็นเจ้าของเรือ ระหว่างการล่องเรือซึ่งอยู่บริเวณสะพานพระราม 7 มีรายงานว่า แตงโมพลัดตกน้ำและหายตัวไป
ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังค้นหาหลายชั่วโมง จนพบร่างของแตงโมลอยอยู่ในแม่น้ำในอีก 2 วันถัดมา ใกล้กับท่าเรือพิบูลสงครามในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของข้อสงสัยมากมาย ทั้งเรื่องบาดแผลที่ขาบริเวณต้นขาของแตงโม ลักษณะการตกน้ำ และพฤติกรรมของบุคคลที่อยู่บนเรือ
ความเคลื่อนไหวของครอบครัวและกระแสสังคม
ตลอดระยะเวลาการสืบสวนและดำเนินคดี ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก และครอบครัวของแตงโม โดยเฉพาะ “แม่ของแตงโม” ได้ออกมาเคลื่อนไหวหลายครั้ง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนในสังคมที่ออกมาแสดงความเห็นต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และกระบวนการยุติธรรมในคดีนี้ บางคนเชื่อว่าความยุติธรรมยังไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง และมองว่าคดีนี้อาจมีเบื้องหลังมากกว่าที่เห็น
ขณะเดียวกัน ในโลกโซเชียลมีเดียก็มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์สดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ต้องสงสัย ไปจนถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บบนร่างกายผู้เสียชีวิต
บทสรุป: ความยุติธรรมในสายตาของใคร?
แม้ศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย 3 รายในคดีใหญ่ และให้รอลงอาญาจ๊อบในคดีรอง แต่ก็ยังมีคำถามมากมายที่ยังคงค้างคาใจของประชาชน
บางคนมองว่า การที่ศาลตัดสินเช่นนี้คือความยุติธรรมตามหลักฐานและพยานที่มีอยู่จริง ขณะที่อีกกลุ่มอาจมองว่า ความยุติธรรมในสายตาประชาชน ยังไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เนื่องจากมีข้อสงสัยในหลายประเด็นที่ไม่ได้รับการชี้แจงอย่างชัดเจน
ไม่ว่าใครจะมีมุมมองอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ “แตงโม” ได้กลายเป็นบทเรียนสำคัญของสังคม ทั้งในเรื่องความปลอดภัย การใช้ชีวิต และกระบวนการยุติธรรมที่ทุกคนมีสิทธิ์ตั้งคำถาม
คดีนี้อาจจบลงในทางกฎหมาย แต่ในหัวใจของหลายคน เรื่องราวของแตงโมอาจยังไม่จบ และจะยังคงเป็นหนึ่งในคดีตัวอย่างของสังคมไทยอีกนาน

















