วัดไร่ขิง อมเงินบริจาค
ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตตินฺธโร) หรือ "สมีแย้ม" อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และอดีตเจ้าคณะภาค 14 หลังพบว่ามีการยักยอกเงินวัดไปเล่นการพนันออนไลน์และโอนให้หญิงคนสนิทกว่า 300 ล้านบาท
ตรวจสอบบัญชี 53 บัญชี พบความผิดปกติ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าสมีแย้มมีบัญชีธนาคาร 53 บัญชี ในจำนวนนี้ 2 บัญชี เป็นบัญชีที่ใช้รับเงินบริจาคในนาม มูลนิธิเมตตาประชารักษ์ เพื่อสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ แต่กลับพบว่าทางวัดไม่ได้โอนเงินสนับสนุนโรงพยาบาลมานานกว่า 3 ปีแล้ว และเงินคงเหลือในบัญชีทั้งสองมีเพียงหลักล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่
โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์เคยได้รับเงินสนับสนุนจากวัดไร่ขิงผ่านมูลนิธินี้อย่างสม่ำเสมอ แต่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564-2565 เป็นต้นมา เงินสนับสนุนเริ่มลดลงจนหยุดไป ทำให้โรงพยาบาลต้องจัดตั้งมูลนิธิใหม่เพื่อรับเงินบริจาคเอง เนื่องจากสมีแย้มเป็นประธานมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม และเป็นผู้มีอำนาจเบิกถอนเงิน
ความซับซ้อนของบัญชีและการเบิกถอนเงิน
นอกจาก 2 บัญชีดังกล่าว ยังพบว่ามีบัญชีธนาคารที่เปิดในชื่อของสมีแย้มอีกหลายบัญชี ซึ่งมีเงินคงเหลือรวมกันกว่า 1 ล้านบาท และมีเส้นทางการโอนเงินเข้าออกที่ซับซ้อนน่าสงสัย เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาความผิด โดยยังไม่มีการออกหมายจับผู้ใดเพิ่มเติม
แม้ว่าระบบบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดไร่ขิงจะถูกจัดเก็บไว้อย่างรัดกุมในช่วงก่อนหน้า แต่หลังจากสมีแย้มเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ. 2551 การเดินบัญชีก็เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น
การตรวจสอบประเด็นวิ่งเต้นตำแหน่ง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังจะขยายผลตรวจสอบประเด็นที่สมีแย้มเคยยืมเงินจากเจ้าอาวาสวัดอื่น ๆ โดยอ้างว่าจะนำไปวิ่งเต้นเพื่อรับตำแหน่งเจ้าคณะภาค 14 หากพบว่ามีการทุจริตจริง หรือมีการเรียกรับเงินจากวัดอื่นเพื่อสนับสนุนการกระทำความผิด ก็จะต้องตรวจสอบย้อนหลังและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความ
ผิดต่อไป





















