พิษเหมือง “ปลา-ช้าง ติดเชื้อ” คนเริ่มป่วย วิกฤตสารพิษเปื้อน ในแม่น้ำกก
ข่าวนี้หลายคนอาจได้เห็นกันมาสักพักกับ สารพิษเปื้อนในแม่น้ำกก ซึ่งตอนนี้ ยังคงรุนแรง โดยล่าสุดมีรายงานว่า ปลา-ช้าง ติดเชื้อ การท่องเที่ยวย่ำแย่ รวมถึงอาจกระทบต่อสุขภาพคนในชุมชน จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ด้านองค์กรแม่น้ำนานาชาติ และสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไข
สำนักข่าวชายขอบ เปิดเผยสถานการณ์สารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก โดยรายงานว่า นักท่องเที่ยวหายไปจากปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ราว 80% ตั้งแต่มีประเด็นสารพิษปนเปื้อน ซึ่งสีทน คำแปง ผู้จัดการปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตร บอกว่าขณะนี้รายได้ของปางช้างไม่เพียงพอ แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะช้างที่เลี้ยงเป็นเหมือนคนในครอบครัว
ตอนเดือนเมษายน มีควาญช้างนำช้างไปอาบน้ำในแม่น้ำกก ตอนที่ผมไม่อยู่ พอขึ้นมาปรากฏว่าผิวหนังของช้างติดเชื้อเป็นผื่นและตุ่มใสๆ ขึ้น และกลายเป็นแผล ขณะที่ควาญช้างก็ติดเชื้อเป็นผื่นและแผลที่หัวเข่า ตอนนี้ทั้งควาญและช้างแผลเพิ่งตกสะเก็ด เชื้อในน้ำรุนแรงมาก สีทนกล่าวกับสำนักข่าวชายขอบ
เขาบอกอีกว่า น้ำกกที่ไหลผ่านบริเวณปางช้างมีสารหนูเกินค่ามาตรฐาน จึงต้องห้ามช้างลงน้ำ อีกทั้งยังต้องลดปริมาณน้ำที่ช้างกิน จากที่เคยกินวันละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งกินราว 12-15 คำ (ราว 8-10 ลิตรต่อคำ) ปัจจุบันเหลือครั้งละ 5-6 คำ ทั้งนี้เพราะช้างต้องเปลี่ยนแหล่งน้ำจากในแม่น้ำกก มากินน้ำจากประปาภูเขาแทน
สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ยังชี้ถึงปัญหาเดียวกันในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเผยแพร่ภาพปลานานาชนิด ที่ติดเชื้อจากแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง ในพื้นที่ จ.เชียงราย
สาเหตุของสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก คือการทำเหมืองแรร์เอิร์ธ ซึ่งดำเนินการที่ต้นแม่น้ำกก มีผลกระทบต่อน้ำที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทย ทั้งแม่น้ำบริเวณ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงราย
ภาพถ่ายดาวเทียมของเหมืองแรร์เอิร์ธ บริเวณต้นแม่น้ำกก ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งห่างจากชายแดนไทย ราว 20 กิโลเมตร และห่างจากแม่น้ำกก 2-3 กิโลเมตร พร้อมระบุว่าในกระบวนการขุดเจาะแร่แรร์เอิร์ธ จะมีการใช้กรดฉีดเข้าไปในภูเขา เพื่อสกัดแร่ออกมา ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรง อย่างการทำให้น้ำและดินปนเปื้อนสารอันตรายหลายชนิด จนส่งผลกระทบต่อชุมชนในที่สุด
เหมืองแรร์เอิร์ธที่ทำในเมียนมา ถูกระบุว่าเป็นเหมืองเถื่อน ไม่มีกฎหมายใดๆ กำกับ คำถามที่สำคัญ ถ้าเกิดขึ้นแบบนี้ประเทศไทย มีกฎหมายที่ค่อนข้างรัดกุม และการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่รับรองสิทธิของประชาชน คุณภาพสิ่งแวดล้อม การลงทุนของจีนที่อยู่นอกประเทศไทย และอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ที่อยู่ในภาวะสงคราม ถ้าปล่อยไปแบบนี้ การทำเหมืองที่ไม่มีการควบคุม คนที่อาศัยอยู่ลุ่มน้ำจะลำบากแน่นอน
ปัจจุบันยังไม่มีการเจรจาระหว่างประเทศ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำเหมืองต้นน้ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ถ้าปล่อยไปแบบนี้เราก็ยังได้รับผลกระทบ แบบนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ และจะมีการแก้ไขปัญหา หาทางออกได้อย่างไรบ้าง ? ก่อนที่ผลกระทบจะกว้างมากกว่านี้






















