สรรพากร รื้อใหม่ เปิดทาง นำเงินได้ต่างประเทศเข้าไทยภายใน 2 ปี ไม่ต้องเสียภาษี
ตามที่กรมสรรพากรได้เปิดเผยแนวนโยบายล่าสุดเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเงินได้ที่เกิดจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้คนไทยที่มีรายได้ในต่างประเทศนำเงินกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ล่าสุด นายภาณุวัฒน์ เหลืองวิไล รองอธิบดีกรมสรรพากร และโฆษกกรมสรรพากร ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ กำลังพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อผ่อนคลายหลักเกณฑ์ภาษีสำหรับเงินได้จากต่างประเทศ
สาระสำคัญของแนวทางใหม่นี้ คือ บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้จากต่างประเทศ หากนำเงินดังกล่าวกลับเข้ามาในประเทศไทย ภายใน 2 ปีนับจากปีที่เกิดรายได้ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่น หากมีเงินได้ในปี พ.ศ. 2568 และนำเงินเข้ามาภายในปี 2568 หรือ 2569 ก็จะไม่ต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตาม หากนำเงินเข้ามาหลังจากนั้น จะต้องเสียภาษีตามอัตราปกติ
แนวทางใหม่นี้สอดคล้องกับนโยบายของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ โดยการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีรายได้ในต่างประเทศสามารถนำเงินกลับเข้ามาโดยไม่ต้องแบกรับภาระภาษีในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศของไทยยังคงอิงตาม หลักถิ่นที่อยู่ ซึ่งหมายความว่า บุคคลที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วัน และมีเงินได้จากต่างประเทศ จะเข้าข่ายต้องเสียภาษี หากไม่มีข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
ในภาพรวม กรมสรรพากรได้รับมอบหมายให้จัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2568 จำนวน 2.37 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82 ของรายได้รัฐบาล โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา กรมสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีได้สูงกว่าเป้าหมายประมาณ 17,900 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงว่าการจัดเก็บภาษีในปีนี้อาจต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ทั้งนี้ การผ่อนปรนกฎเกณฑ์ด้านภาษีดังกล่าว ถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยจูงใจให้ทุนจากต่างประเทศไหลกลับเข้าสู่ประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ต้องการแรงสนับสนุน






















