หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แฉขบวนการ! "หมอเตย-พ.จ.อ." เก็บค่าที่งานวัด ส่งเงินตรง "ทิดแย้ม" ไม่ผ่านบัญชีวัด

โพสท์โดย zzz1111

จ่อดำเนินคดี “หมอเตย-สามี” ฐานร่วมสนับสนุนยักยอกเงินวัดไร่ขิง – ปมร้อนเงินสดค่าเช่าหายไร้ร่องรอยในบัญชีวัด

ความคืบหน้าล่าสุดในคดีอื้อฉาวที่เขย่าวงการพระพุทธศาสนาและสั่นสะเทือนสังคมไทย กรณีการยักยอกเงินวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เริ่มชัดเจนขึ้นอีกขั้น เมื่อเจ้าหน้าที่พบข้อมูลสำคัญที่อาจนำไปสู่การดำเนินคดีกับ “หมอเตย” หรือ นางพชรพร พัศรานุวัฒ และสามี พ.จ.อ.ฉัตรชัย อินทร์มี ในข้อหามีส่วน “สนับสนุน” การยักยอกเงินของวัดร่วมกับอดีตเจ้าอาวาส “ทิดแย้ม” หรือ พระครูสิริกิจจานุกูล (แย้ม) ที่ขณะนี้ถูกปลดจากตำแหน่งและถูกดำเนินคดีอยู่ก่อนหน้านี้

 

วัดไร่ขิงถูกตรวจสอบรอบใหม่ – เปิดตู้บริจาค 185 ตู้ เงินไหลเวียนหลักล้านต่อวัน

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการ ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ลงพื้นที่วัดไร่ขิงอีกครั้ง โดยเป้าหมายสำคัญคือการตรวจสอบบัญชีธนาคารต่าง ๆ ของวัดอย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์กระแสเงินเข้า-ออกในแต่ละวัน พร้อมทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหลายรายมาสอบถามเพื่อประกอบข้อเท็จจริง

 

ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า วัดไร่ขิงมีระบบการบริหารจัดการบัญชีที่ไม่เป็นระบบชัดเจน บัญชีธนาคารถูกแยกออกเป็นหลายส่วน โดยไม่มีการเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความสับสนว่าแท้จริงแล้ววัดมีบัญชีทั้งหมดกี่บัญชี และบัญชีใดบ้างที่มีเงินหมุนเวียน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือจากธนาคารต่าง ๆ ในการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตรวจสอบตู้บริจาคทั้งหมดภายในวัด พบว่ามีอยู่ถึง 185 ตู้ โดยในช่วงวันปกติ มีเงินบริจาคจากพุทธศาสนิกชนไม่ต่ำกว่า 50,000 บาทต่อวัน ขณะที่ช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ วันพระใหญ่ หรือวันมาฆบูชา เงินบริจาคอาจพุ่งสูงถึง หลักล้านบาท เลยทีเดียว

 

เงินค่าเช่าหายปริศนา – หมอเตยหอบเงินสดเสิร์ฟถึงกุฏิทิดแย้ม แต่ไม่เข้าบัญชีวัด

หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของการขยายผลคดีนี้ คือการตรวจสอบพบว่า “เงินสด” จากค่าเช่าร้านค้าภายในงานประจำปีของวัด ที่ถูกจัดเก็บโดยหมอเตยและสามี ถูกนำไปส่งถึงกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส “ทิดแย้ม” โดยตรง แต่กลับไม่พบยอดเงินดังกล่าวในระบบบัญชีของวัดแต่อย่างใด

เหตุการณ์นี้สร้างข้อสงสัยให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมากว่า การนำเงินสดจำนวนมากไปมอบให้กับอดีตเจ้าอาวาสโดยตรงโดยไม่มีหลักฐานการนำเงินเข้าบัญชีธนาคาร อาจเป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงเจตนาแอบแฝง และอาจเข้าข่ายการ “สมรู้ร่วมคิด” หรือ “สนับสนุน” การยักยอกเงินของวัด

 

บทบาทของหมอเตยและสามีในวัดไร่ขิง – ผู้มีอิทธิพลต่อระบบการเงินและทรัพย์สิน

จากแนวทางการสืบสวนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่พบว่าหมอเตยและสามี มีบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อการบริหารจัดการภายในวัด ไม่เพียงแค่เป็นผู้ดูแลเรื่องการจัดเก็บเงินค่าเช่าร้านค้าในงานวัดต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังพบว่า รถยนต์หลายคันของวัดมีชื่อ พ.จ.อ.ฉัตรชัย เป็นผู้ครอบครอง สะท้อนถึงความไว้วางใจระดับสูงจากเจ้าอาวาสในอดีต และอาจสะท้อนถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งในเชิงผลประโยชน์

พฤติกรรมดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มพิจารณาว่า สองสามีภรรยานี้ไม่ใช่เพียง “ผู้รับคำสั่ง” จากเจ้าอาวาสเพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนในการตัดสินใจและดำเนินการในลักษณะที่อาจมีผลต่อทิศทางการใช้จ่ายหรือจัดเก็บทรัพย์สินของวัดอย่างมีนัยสำคัญ

 

เปิดเส้นทางเงินวัดไร่ขิง – จากศรัทธาสู่ความคลางแคลง

กรณีของวัดไร่ขิง ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนปัญหาโครงสร้างการจัดการด้านการเงินของวัดในประเทศไทย ซึ่งมักพึ่งพาระบบแบบ “ภายใน” โดยไม่มีการควบคุมหรือกลไกตรวจสอบภายนอกอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เงินที่มาจากศรัทธาของญาติโยมสามารถกลายเป็นช่องทางให้บุคคลบางกลุ่มหาผลประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อบัญชีธนาคารของวัดไม่โปร่งใส การเงินไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานกลาง การหายไปของเงินจำนวนมหาศาลจึงไม่ใช่เรื่องแปลก และเมื่อผู้บริหารภายในมีเครือข่ายใกล้ชิด องค์กรศาสนาอาจกลายเป็นแค่ฉากหน้าของการกระทำที่ขัดต่อหลักธรรม

 

เจ้าหน้าที่เดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน – จ่อเข้าสู่ที่ประชุมคลี่คลายคดีชุดใหญ่

ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานคลี่คลายคดีระดับใหญ่ โดยหากผลสรุปชี้ชัดว่า หมอเตยและสามีมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงหรือมีเจตนาสนับสนุนการกระทำผิด ก็จะมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเร็วที่สุด

ในเบื้องต้น การพิจารณาอาจมุ่งเน้นไปที่ความผิดฐาน สนับสนุนการยักยอกทรัพย์ หรือ สมคบคิดในการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัด ซึ่งหากถูกพิสูจน์ว่าเป็นจริง โทษที่ตามมาอาจไม่ต่างจากตัวผู้กระทำหลัก

 

เสียงสะท้อนจากสังคม – ศรัทธาในพระศาสนาต้องมีระบบคุ้มครอง

กรณีนี้ไม่เพียงแต่เป็นคดีอาญาที่สังคมจับตามองเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่า ระบบการบริหารวัดในประเทศไทยต้องมีการปฏิรูป ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งหน่วยงานกลางด้านบัญชี การออกกฎหมายควบคุมทรัพย์สินวัด หรือแม้แต่การอบรมเจ้าอาวาสและผู้เกี่ยวข้องให้มีความรู้ด้านการเงิน การจัดการ และธรรมาภิบาล

ความศรัทธาของประชาชนในพระพุทธศาสนา เป็นรากฐานที่มั่นคงของสังคมไทยมาช้านาน แต่หากไม่มีระบบป้องกันและตรวจสอบ การศรัทธานั้นอาจกลายเป็นเหยื่อของความโลภและอำนาจอีกต่อไป

 

การเปิดโปงเครือข่ายทุจริตภายในวัดไร่ขิงไม่เพียงเป็นเรื่องของการคืนความยุติธรรมให้แก่เงินบริจาคจากศรัทธาของพุทธศาสนิกชน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ในใจของประชาชนอย่างมั่นคงต่อไป

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: paktronghie, worldtravel
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สูตรคำนวณงวด 16/11/68
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โดนอ่วม แม่ค้าตลาดน้ำดำเนินฯโก่งราคา "พี่จอง-คัลแลน"กัมพูชาปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ “ฮุน มาเน็ต” สั่งห้ามเรียนไทย – ปลูกฝังชาติ สกัดสมองไหลเขมรยัน "ระเบิดที่ระเบิดเป็นระเบิดเก่า"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
นพ.เชียง ฮั่นเซิง แพทย์ชื่อดังของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคาทอลิกฟู่เจิ้น ถูกชายแซ่เจิ้งวัย 30 ปีทำร้ายด้วยมีดขณะดูแลคนไข้นักร้องวง Perfume แต่งงานกับแฟนคลับแล้ว!!ศูนย์หลอกลวงในเมียนมาร์ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ ถึงแม้จะมีการปราบปรามครั้งใหญ่ก็ตามหญิงไทยรายหนึ่งเข้าร่วมการแข่งขันสักลายที่จังหวัดสระบุรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ขณะเต้นในชุดเดรสสีดำเซ็กซี่ อวัยวะเพศของเธอถูกเปิดเผยเนื่องจากไม่ได้สวมชุดชั้นใน
ตั้งกระทู้ใหม่