แฉยับ! “ทิดแย้ม” ละเมิดนักเรียนหญิง ซ้ำอ้างเป็นเรื่องปกติที่ชอบทำ
อดีตคนขับรถแฉ! พฤติกรรม “ทิดแย้ม” ลวนลามนักเรียนหญิงตั้งแต่ยังไม่เป็นเจ้าอาวาส – เหยื่อเพียบ สังคมสะเทือนใจ
กลายเป็นข่าวร้อนแรงและสร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมไทยอย่างมาก เมื่ออดีตพระผู้ใหญ่ชื่อดังของวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งถึงระดับ “เจ้าอาวาสวัด” และ “เจ้าเขตคณะภาค 14” กลับมีประวัติที่น่าตกใจซ่อนอยู่ภายใต้จีวรสีเหลืองทองอันเป็นเครื่องหมายของศาสนา กรณีนี้ไม่เพียงแต่โยงถึงการทุจริตยักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์เท่านั้น แต่ยังลากไปถึงพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนหญิงในอดีต ซึ่งตอนนี้มีเหยื่อจำนวนมากเริ่มออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
พฤติกรรมที่ซ่อนอยู่ของ “ทิดแย้ม” อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร
จากรายงานข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 มีการเปิดเผยโดยนายดำ (นามสมมติ) อดีตคนขับรถสองแถวรับ-ส่งนักเรียนโรงเรียนวัดไร่ขิง ว่าในอดีต เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน ขณะที่อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ “ทิดแย้ม” ยังดำรงตำแหน่งเพียง “รองเจ้าอาวาส” และเป็นครูสอนพระพุทธศาสนาในโรงเรียนประจำวัด เขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับนักเรียนหญิงหลายราย โดยอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจจากศิษย์และครอบครัว ใช้อำนาจและตำแหน่งเพื่อเข้าถึงเหยื่ออย่างง่ายดาย
หนึ่งในเหตุการณ์ที่นายดำเปิดเผยคือ กรณีของอดีตแฟนสาวของตน ซึ่งขณะนั้นยังเรียนอยู่ระดับมัธยม ได้เข้าไปส่งงานที่กุฏิของทิดแย้มตามคำสั่งของโรงเรียน วันนั้นเพื่อนของแฟนเดินทางกลับก่อน เหลือเพียงเธออยู่กับทิดแย้มตามลำพัง และระหว่างที่กำลังช่วยทิดแย้มนับเงินทำบุญอยู่นั้น ทิดแย้มได้เข้ากอดจากทางด้านหลัง ก่อนจะพยายามปลุกปล้ำอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปหรือศีลธรรมใดๆ โชคดีที่หญิงสาวคนนั้นพยายามดิ้นรนและหนีออกมาได้
นายดำยังเผยอีกว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เดียว เพราะในช่วงเวลานั้นมีนักเรียนหญิงอีกหลายรายตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมเช่นนี้ และทิดแย้มมักใช้วิธีให้เงินเป็น “ค่าปิดปาก” เพื่อไม่ให้เรื่องแพร่งพรายออกไป สร้างบาดแผลทางใจที่ยากจะลบเลือนแก่ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น
ผู้หญิงคนสนิท และเส้นทางพนันออนไลน์
ความอื้อฉาวของทิดแย้มไม่ได้จบแค่ในเรื่องเพศเท่านั้น แต่ยังขยายวงไปถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายขั้นร้ายแรง ในด้านการยักยอกเงินวัดจำนวนมหาศาล เพื่อไปเล่น “บาคาร่าออนไลน์” ผ่านเว็บพนัน โดยมีผู้ร่วมขบวนการประกอบด้วย น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันชื่อดัง และอดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระคนสนิทของทิดแย้ม
จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของวัดไร่ขิง พบว่าเงินถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของทิดแย้มมากกว่า 847 ล้านบาท โดยไม่มีเอกสารชี้แจงการใช้จ่ายที่โปร่งใส ซึ่งเงินจำนวนนี้ถูกนำไปเล่นพนันในเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายของน.ส.อรัญญาวรรณ
ที่น่าตกใจกว่านั้น คือ นายดำระบุว่าเคยเห็นน.ส.อรัญญาวรรณเดินจูงสุนัขของทิดแย้มออกมาจากกุฏิในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างทิดแย้มกับหญิงสาวรายนี้ และอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เงินวัดรั่วไหลไปถึงเครือข่ายพนันออนไลน์อย่างรวดเร็ว
เส้นทางจากพระนักปกครองสู่ “นักพนัน”
ชื่อเสียงของทิดแย้มในอดีตถือว่าโด่งดังและได้รับการยกย่องจากวงการพระสงฆ์และญาติโยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและต่อมาขึ้นเป็นเจ้าเขตคณะภาค 14 ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสูงมากในสายการปกครองของคณะสงฆ์
อย่างไรก็ตาม อำนาจและความไว้เนื้อเชื่อใจที่ได้รับกลับกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้ไปในทางที่ผิด ทั้งการหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากทรัพย์สินของวัด การล่วงละเมิดศิษย์เด็กผู้หญิง รวมถึงการนำเงินที่ควรจะไปสู่กิจกรรมทางศาสนาไปใช้ในการพนันอย่างมักง่ายและไร้ความละอาย
เหยื่อกำลังกล้าออกมา – สังคมควรรับฟัง
หลังจากที่มีการจับกุมและข่าวเริ่มแพร่ออกไป สื่อหลายสำนักรายงานว่า มีเหยื่อจำนวนมากเริ่มติดต่อขอความช่วยเหลือ และเปิดเผยข้อมูลที่เคยปิดไว้มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยเป็นนักเรียนของโรงเรียนวัดไร่ขิงในอดีต ซึ่งเคยถูกลวนลามหรือคุกคามโดยทิดแย้มในช่วงที่เขายังดำรงตำแหน่งอยู่
นี่คือสัญญาณว่า สังคมไทยกำลังตื่นตัวและพร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างเหยื่อ ไม่ว่าจะเหตุการณ์จะผ่านมากี่สิบปีก็ตาม และยังสะท้อนให้เห็นว่าไม่มีใครควรได้รับการยกเว้นจากกระบวนการยุติธรรมเพียงเพราะตำแหน่งหรือศักดิ์ศรีในทางศาสนา
กรณีของ “ทิดแย้ม” หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร คือหนึ่งในตัวอย่างของการใช้ตำแหน่งและความไว้วางใจในทางที่ผิดอย่างร้ายแรง ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับตัวบุคคล แต่ยังทำลายภาพลักษณ์ของพุทธศาสนาไทยในสายตาสาธารณชนอีกด้วย
ด้วยจำนวนเงินมหาศาลที่ถูกยักยอก การล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ – คดีนี้สมควรได้รับความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและต้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับเหยื่อ และฟื้นฟูความศรัทธาของประชาชนที่หล่นหายไป
หากคุณหรือคนใกล้ตัวเคยประสบกับเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน อย่าลังเลที่จะติดต่อหน่วยงานช่วยเหลือทางกฎหมาย หรือสายด่วนความรุนแรงในครอบครัวและเพศ เพื่อขอคำปรึกษาและรับความคุ้มครองตามสิทธิ์ที่พึงมี

















