เกิดเหตุสลด! คนงานตกบ่อรถไฟฟ้าลึก 10 เมตร ก่อนดินถล่มซ้ำ กู้ภัยลุยเต็มที่
ระทึกกลางกรุง! คนงานรถไฟฟ้าใต้ดินพลัดตกบ่อก่อสร้างลึกกว่า 10 เมตร ดินถล่มซ้ำ เจ้าหน้าที่เร่งระดมทีมกู้ภัยทางสูงแข่งกับเวลาเพื่อช่วยชีวิต
เกิดเหตุสุดระทึกใจกลางกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายของวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เมื่อศูนย์วิทยุของมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งเหตุเร่งด่วนว่ามีคนงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินพลัดตกลงไปในบ่อขุดเจาะที่ลึกถึงกว่า 10 เมตร และโชคร้ายยิ่งกว่านั้น ดินบริเวณปากบ่อเกิดการทรุดตัวและถล่มลงมาทับร่างของผู้ประสบเหตุซ้ำอีกครั้ง ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดอย่างฉับพลัน เหตุเกิดบริเวณถนนหลานหลวง ซอย 6 แขวงสี่แยกมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังมีการดำเนินงานขุดเจาะเพื่อรองรับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินในอนาคต
เปิดปฏิบัติการกู้ชีพเต็มกำลัง! ทีมกู้ภัยทางสูงระดมกำลังถึงที่เกิดเหตุในเวลาเร่งด่วน
หลังจากได้รับสัญญาณแจ้งเหตุ ทีมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิร่วมกตัญญูไม่รอช้า รีบประสานงานระหว่างหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วและทีมกู้ภัยทางสูง โดยเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างครบครัน ทั้งสายช่วยชีวิต รอกดึงตัว รถพยาบาล และอุปกรณ์สนับสนุนการเจาะหรือขุดค้นใต้ดินอีกหลากหลายชนิด ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ และหวังว่าจะสามารถนำตัวผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาได้โดยเร็วที่สุด
พื้นที่โดยรอบได้มีการปิดกั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งป้องกันอันตรายเพิ่มเติมจากการทรุดตัวของดินและเศษวัสดุที่อาจร่วงหล่นลงไปในบ่อได้ทุกเมื่อ
เจาะลึกเหตุการณ์ – วินาทีชีวิตของคนงานในปล่องลึก
จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า คนงานชายรายหนึ่งซึ่งยังไม่สามารถระบุชื่อและอายุได้แน่ชัด ได้พลัดตกลงไปในหลุมลักษณะเป็นปล่องแนวดิ่ง ลึกกว่า 10 เมตร ขณะกำลังปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้าง โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตก หรือระบบกันตก (Fall Protection) ที่เพียงพอ
ช่วงจังหวะที่คนงานพลัดตกนั้น เพื่อนร่วมงานที่อยู่บริเวณปากหลุมต่างส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่เหตุการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง เมื่อดินบริเวณปากบ่อเกิดการทรุดตัวและพังถล่มลงมาทับร่างของคนงานที่อยู่ด้านล่าง ทำให้ร่างของเขาถูกฝังอยู่ใต้ดินที่พังถล่มลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องขอความช่วยเหลือเงียบหายไปอย่างน่าหวาดหวั่น และกลายเป็นสถานการณ์สุดระทึกที่ต้องแข่งกับเวลา
การกู้ภัยที่ท้าทายที่สุดในเมือง – ความลึกและความไม่เสถียรของดินคืออุปสรรคใหญ่
ทีมกู้ภัยที่ลงพื้นที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างสูงในการวางแผนเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากหลุมดังกล่าวมีลักษณะลึกชัน พื้นที่โดยรอบเป็นดินทรุดที่เปียกชื้น และมีความเสี่ยงที่จะถล่มซ้ำตลอดเวลา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งผู้ประสบเหตุและทีมกู้ภัยเอง
เจ้าหน้าที่ต้องใช้เทคนิคการโรยตัวลงไปพร้อมกับการใช้กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว รวมถึงการนำอุปกรณ์วัดก๊าซและอุณหภูมิเข้ามาช่วยเพื่อประเมินความปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่ลึกใต้ดินอาจมีก๊าซอันตรายสะสม หรือระดับออกซิเจนต่ำซึ่งเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจ
นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมอุปกรณ์ขุดเจาะเพื่อเร่งขุดดินที่ถล่มทับร่างคนงานโดยระมัดระวังสูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนที่อาจทำให้สภาพของผู้ประสบภัยแย่ลง
ชาวบ้าน – คนในละแวกใกล้เคียงเฝ้าลุ้นด้วยใจระทึก
ขณะปฏิบัติการช่วยเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ ได้มีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงออกมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก หลายคนแสดงสีหน้าเคร่งเครียดและภาวนาให้คนงานรายนั้นรอดชีวิต บางคนกล่าวว่า “ได้ยินเสียงโวยวายก็รีบออกมาดู เห็นทีมกู้ภัยมาถึงเร็วมาก ดีใจที่เจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่”
บางคนสะท้อนมุมมองเกี่ยวกับความปลอดภัยในโครงการก่อสร้างในเมืองหลวงที่มักจะขาดมาตรการดูแลแรงงานอย่างจริงจัง และแสดงความหวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกับมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น
เจ้าหน้าที่รัฐ-ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทันที
หลังเหตุการณ์แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงผู้แทนจากโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน สำนักการโยธา และสำนักการจราจรและขนส่ง ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและประสานงานด้านข้อมูลกับทีมกู้ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อประเมินสาเหตุของการทรุดตัวของดิน รวมถึงตรวจสอบระบบความปลอดภัยที่ใช้อยู่ในโครงการ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง ได้รวบรวมพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ รวมถึงเพื่อนคนงานของผู้เคราะห์ร้ายเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับอุปกรณ์เซฟตี้ ระบบป้องกันอุบัติเหตุ และความบกพร่องในขั้นตอนการทำงานของผู้รับเหมาหลัก
เสียงจากแรงงาน – ความกลัวที่ฝังลึกแต่พูดไม่ได้
หลังเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวสามารถพูดคุยกับแรงงานอีกคนในพื้นที่ก่อสร้างเดียวกัน ซึ่งกล่าวอย่างไม่เปิดเผยชื่อว่า “ตรงจุดนั้นไม่มีเชือกกันตก ไม่มีอะไรเลย ถ้าเดินพลาดนิดเดียวก็หล่นได้เหมือนกัน โชคร้ายเพื่อนเราเจอก่อน แต่อยากให้ผู้รับเหมาใส่ใจความปลอดภัยให้มากกว่านี้”
คำพูดดังกล่าวเป็นสัญญาณชัดเจนที่สะท้อนถึงปัญหาความปลอดภัยในสถานที่ทำงานของแรงงานไทยที่ยังคงต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน
บทเรียนที่ต้องจำ – ความปลอดภัยแรงงานคือเรื่องเร่งด่วน
เหตุการณ์ในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเหตุระทึกที่ทุกคนภาวนาให้จบลงด้วยความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญที่ควรสั่นสะเทือนหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และผู้รับเหมาทุกระดับให้หันมาให้ความสำคัญกับชีวิตแรงงานอย่างจริงจัง การมีระบบความปลอดภัยที่ดีไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่คือความรับผิดชอบต่อชีวิตมนุษย์ที่อุทิศตนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของชาติ
ขอให้ผู้เคราะห์ร้ายปลอดภัย – ทีมกู้ภัยยังคงเดินหน้าเต็มที่
ณ เวลานี้ (18.30 น.) ทีมกู้ภัยยังคงดำเนินภารกิจช่วยเหลืออย่างไม่ย่อท้อ ท่ามกลางเสียงเครื่องจักรที่ดังเป็นระยะ ๆ และความหวังจากประชาชนที่มองด้วยความลุ้นระทึก ขอให้ความพยายามของทุกฝ่ายสัมฤทธิ์ผล และขอให้ชายผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ปลอดภัยกลับสู่อ้อมอกของครอบครัวโดยเร็วที่สุด















