แฉยับ! คลิปเซ็กส์โฟนทํา “ทิดแย้ม” ตบะแตก ก่อนถูกซัดกลับด้วยคลิปแบล็กเมล์
“คดีเงินวัดไร่ขิง” ไม่หมู! สาวไส้เส้นทางเงินกว่า 300 ล้าน พยานกลับคำ-วางแผนเบี่ยงเบนคดี แฉสัมพันธ์ฉาว “ทิดแย้ม-สีกาเกิด”
หนึ่งในคดีที่กำลังเป็นที่จับตามองของสังคมและสื่อมวลชนขณะนี้ คือ คดียักยอกเงินวัดไร่ขิงที่มีอดีตเจ้าอาวาส "พระแย้ม" หรือ "ทิดแย้ม" และหญิงสาวที่ถูกระบุว่าเป็นโบรกเกอร์สาวเว็บพนัน "น.ส.อรัญญาวรรณ" หรือ "สีกาเกิด" พัวพันในเส้นทางการเงินกว่า 300 ล้านบาท โดยล่าสุดตำรวจได้ออกมาเปิดเผยว่า คดีนี้มีความซับซ้อนอย่างมาก และมีพยานบุคคลจำนวนไม่น้อยที่กลับคำให้การ อีกทั้งยังพยายามเบี่ยงเบนคดีจากการพนันออนไลน์ให้เป็นเพียงการ "กู้ยืมเงิน"
แผนการเบี่ยงเบนคดีของ “ทิดแย้ม-สีกาเกิด”
ตำรวจเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและผู้ต้องหาร่วมอย่าง "น.ส.อรัญญาวรรณ" วางแผนจัดฉากหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารสัญญากู้ยืม และสลิปการโอนเงินจำนวนมาก เพื่อสร้างภาพว่าเงินที่โอนให้นั้นไม่ใช่การเล่นพนัน แต่เป็นการกู้ยืมธุรกิจ
แผนเบี่ยงเบนนี้ถือว่าเป็นความพยายามในการลดระดับความผิดจาก "ผู้จัดให้มีการเล่นพนัน" ไปเป็น "ผู้เล่นพนัน" หรือ "ผู้กู้ยืมเงิน" ซึ่งตามกฎหมายจะได้รับโทษเบากว่า และมีโอกาสนำทรัพย์สินที่ถูกอายัดคืนได้มากขึ้น
หลักฐานทางการเงินชัด! เส้นทางเงินกว่า 300 ล้านบาท
การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าในช่วงปี 2563-2567 มีเส้นทางการเงินโยงไปยังบัญชีของ “น.ส.อรัญญาวรรณ” จากอดีตพระแย้ม รวมแล้วกว่า 300 ล้านบาท แบ่งเป็น:
โอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้มไปยังบัญชีของน.ส.อรัญญาวรรณ กว่า 80 ล้านบาทในปี 2566
นายเอกพจน์ (พระลูกวัดคนสนิท) โอนเงินและนำเงินสดไปฝากตู้เอทีเอ็มต่าง ๆ อีกกว่า 200 ล้านบาท
บัญชีบุคคลอื่นที่โอนเงินให้อีก 60 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังพบบัญชีเฉพาะกิจของวัดมากกว่า 20 บัญชี และมีบัญชีที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของวัด เช่น การบูชาพระเครื่อง ซึ่งหลายบัญชีถูกนำไปใช้โอนเงินออกนอกวัดอย่างไม่เหมาะสม
คลิปความสัมพันธ์ฉาว จุดเริ่มขู่แบล็กเมล์?
อีกประเด็นที่ทำให้สังคมตื่นตะลึง คือ การที่เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสว่า "น.ส.อรัญญาวรรณ" ได้นำคลิปส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ฉาวกับอดีตเจ้าอาวาส มาใช้แบล็กเมล์ ข่มขู่เพื่อรีดเงินเพิ่มเติมจาก "ทิดแย้ม"
มีรายงานว่า อดีตเจ้าอาวาสถึงขั้นเรียกเธอมาเจรจาไกล่เกลี่ย แล้วทุบคลิปทำลายต่อหน้าด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นเส้นทางเงินที่เชื่อมโยงไปถึงกันในภายหลัง
พยานกลับคำ-ไม่ให้ความร่วมมือ แต่หลักฐานแน่น
แม้การสอบปากคำพยานกว่า 10 ราย รวมถึง “น.ส.เตย” เจ้าของร้านกาแฟที่อดีตเจ้าอาวาสลงทุนให้ และแฟนหนุ่มทหารที่มีชื่อเป็นเจ้าของรถหลายคันของวัด ยังไม่สามารถให้ข้อมูลชัดเจน ทว่าจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินเอกสาร และสเตทเม้นต์ธนาคารกลับพบหลักฐานชัดเจนที่ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา
ตำรวจยังตั้งข้อสังเกตว่า หลักฐานบางชิ้น เช่น เอกสารการกู้ยืม ดูเหมือนจะถูก "จัดฉาก" ไว้รอเจ้าหน้าที่ตรวจค้น เป็นความพยายามเปลี่ยนทิศทางคดีให้เบาแรงขึ้นสำหรับผู้ต้องหา
หนีไม่พ้น! เงินวัดคือเงินสาธารณะ ใช้ผิดวัตถุประสงค์ยังไงก็ผิด
แม้จะพยายามเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง แต่การนำเงินของวัด ซึ่งเป็นทรัพย์สินของส่วนรวมไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้ในทางที่ผิดจุดประสงค์ ก็ถือเป็นความผิดชัดเจนตามกฎหมาย และอาจเข้าข่ายทุจริต ยักยอกทรัพย์ และฟอกเงิน
การเชื่อมโยงคดีเว็บพนัน “LAGALAXY911” จุดเปลี่ยนสำคัญ
ย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2567 น.ส.อรัญญาวรรณ ถูกจับกุมคดีพนันออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเธอมีบทบาทเป็นมากกว่าแค่ผู้เล่นธรรมดา แต่เป็นโบรกเกอร์สาวที่รับผลประโยชน์จากเว็บพนันชื่อดัง "LAGALAXY911"
การเปิดโปงในครั้งนั้น ทำให้ “ทิดแย้ม” หวั่นเกรงจะถูกสาวไส้ จึงสั่งให้นายเอกพจน์ สละสมณเพศและหลบหนีไปซ่อนตัวในจังหวัดสุโขทัย
ปมลึก-ซับซ้อน อาจไม่จบง่ายๆ
คดีนี้ยังไม่ถึงบทสรุป แต่ที่ชัดเจนคือความซับซ้อนในการเบี่ยงเบนคดีของผู้ต้องหา, พยานไม่ให้ความร่วมมือ, การใช้เอกสารเท็จ และความพยายามชักใยเครือข่ายทางการเงินให้ดูถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งหมดล้วนเป็นการต่อสู้เพื่อหวังลดโทษในอนาคต
แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า หลักฐานที่รวบรวมได้ ทั้งจากสเตทเม้นต์ การสอบปากคำ และพฤติกรรมในอดีต จะนำไปสู่การเอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้อย่างแน่นอน
















