ลามไม่หยุด! แฉทิดแย้มเปย์สาว 40 ล้าน พ่วงคลิปสุดวาบหวิว
“ทิดแย้ม” อดีตพระชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ถูกออกหมายจับคดีโกงเงินวัด 300 ล้าน ล่าสุดรวบคนสนิทสาวคนสนิทเคยขอยืมเงิน 40 ล้าน – เจอคลิปเด็ดอาบน้ำขณะยังเป็นพระ
ยังคงเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการสงฆ์และสังคมไทย สำหรับกรณีที่ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทิดแย้ม” เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริต ยักยอกเงินวัดไปเป็นจำนวนมหาศาล โดยล่าสุดมีการเปิดเผยว่ามีการโอนเงินจากบัญชีวัดเข้าบัญชีส่วนตัวเพื่อนำไปเล่น พนันออนไลน์ โดยเฉพาะบาคาร่า มากกว่า 300 ล้านบาท
เหตุการณ์นี้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม ทั้งในแง่ศีลธรรมและการบริหารจัดการขององค์กรสงฆ์ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดเผยว่า ทิดแย้มได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเช้า พร้อมทั้งขอชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินจำนวนมหาศาลที่หายไป
คนสนิทสาวโผล่ ยืมเงินจากพระ 40 ล้าน – ตำรวจพบคลิปเด็ดอาบน้ำ
ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังเพ่งเล็งไปที่เส้นทางการเงินของอดีตเจ้าอาวาส ล่าสุดเกิดอีกหนึ่งประเด็นร้อนขึ้นมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม หญิงสาวคนสนิทของทิดแย้มได้ในช่วงเย็นของวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
หญิงสาวรายนี้คือ นางสาวอรัญญาวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเธอมีความสนิทสนมกับทิดแย้มมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่โรงเรียนวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ในเวลาต่อมากลายเป็นเรื่องซับซ้อนเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
โดย น.ส.อรัญญาวรรณ ได้ให้การรับสารภาพว่าเธอ เคยขอยืมเงินจากทิดแย้มจำนวนถึง 40 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนตั้งแต่ปี 2564 และทั้งสองยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิดผ่านทางการวิดีโอคอล ซึ่งในภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเธอและพบว่า มีคลิปวิดีโอที่กำลังอาบน้ำอยู่ และเคยส่งให้ทิดแย้มดูในขณะที่ยังครองสมณเพศอยู่ สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่และสังคมอย่างมาก
ขยายผลจับกุม – สาวคนสนิทคือนายหน้ารับแทงบาคาร่า
ความจริงที่น่าตกใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะจากการสืบสวนเพิ่มเติมของกองบังคับการปราบปราม พบว่า น.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ขอยืมเงินธรรมดา แต่ยังมีบทบาทสำคัญใน เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ โดยเธอเป็นหนึ่งใน “นายหน้า” หรือ “เอเย่นต์” ที่รับแทงบาคาร่า และทำหน้าที่สนับสนุนการกระทำความผิดของอดีตเจ้าอาวาส
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเพื่อขอออกหมายจับทั้ง พระธรรมวชิรานุวัตร และ น.ส.อรัญญาวรรณ โดยระบุว่าทั้งสองมีส่วนร่วมในการเบียดบังทรัพย์สินของวัดไปเป็นของตนเอง
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานและอนุมัติหมายจับในช่วงเวลาเที่ยงของวันเดียวกัน โดยตั้งข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์สินนั้นมาเป็นของตน”, “ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” และ “ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” กับผู้ต้องหาทั้งสองราย
ต่อมาในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจากกองปราบสามารถเข้าจับกุมตัว น.ส.อรัญญาวรรณ ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะนำตัวกลับมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่กองปราบปราม
เงินวัดหรือเงินพนัน? คำถามที่สังคมอยากรู้
ประเด็นสำคัญที่สังคมตั้งคำถามคือ เงินจำนวนกว่า 300 ล้านบาทที่หายไปจากบัญชีวัดนั้น ถูกนำไปใช้กับอะไรบ้าง และเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อมีหลักฐานว่าอดีตพระได้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีต่างๆ หลายสิบรายการ และมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันที่มีตัวกลางอย่าง น.ส.อรัญญาวรรณ
หลายฝ่ายกำลังเรียกร้องให้มีการ ตรวจสอบย้อนหลังเส้นทางการเงินของวัดไร่ขิงทั้งหมด รวมถึงการบริหารจัดการภายในวัดว่ามีใครเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการทุจริตครั้งนี้หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ ศีลธรรมและจริยธรรมของพระภิกษุในยุคปัจจุบัน ที่หลายคนมองว่ากำลังเสื่อมถอยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวพระเกี่ยวข้องกับการพนัน คลิปส่วนตัว หรือการใช้อำนาจในทางที่ผิดอย่างต่อเนื่อง
สรุปคดีทิดแย้ม: จุดเปลี่ยนของศรัทธา?
การจับกุมอดีตเจ้าอาวาสและหญิงสาวคนสนิทในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีที่น่าติดตามมากที่สุดแห่งปี เพราะไม่เพียงแต่เป็นการสะท้อนปัญหาการบริหารจัดการภายในวัด หากยังเปิดเผยให้เห็นถึง การหลอกลวง ศีลธรรมเสื่อม และการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในทางที่ผิด ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของพุทธศาสนิกชนอย่างรุนแรง
สังคมไทยจะต้องเฝ้ารอว่ากระบวนการยุติธรรมจะสามารถจัดการกับคดีนี้ได้อย่างโปร่งใสหรือไม่ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกได้อย่างไร

















