“อรัญญาวรรณ” สีกาคู่ใจ “ทิดแย้ม” กับเส้นทางที่โยงคดีเขย่าวงการสงฆ์
เปิดปูม “อรัญญาวรรณ วิ่งทะพันธ์” หญิงสาวผู้ใกล้ชิดอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง สู่ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ – ปมเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ที่สะเทือนวงการสงฆ์
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีใหญ่ที่เขย่าวงการศาสนาและสังคมไทย เมื่อตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมตัว “น.ส.อรัญญาวรรณ วิ่งทะพันธ์” หรือที่หลายคนเริ่มรู้จักในฐานะ หญิงสาวคนสนิทของ “ทิดแย้ม” หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดียักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท ไปใช้ในทางมิชอบ โดยเฉพาะการเล่นพนันออนไลน์
หญิงสาวในคลิปปริศนา – ความสนิทที่ไม่ธรรมดา
ชื่อของ อรัญญาวรรณ กลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ทันทีหลังมีการเผยแพร่ข่าวว่าเธอคือหนึ่งในบุคคลที่พัวพันกับคดีดังกล่าว โดยมี คลิปวิดีโอ หลุดออกมาเป็นหลักฐานสำคัญที่ปรากฏภาพของเธอขณะกำลังอาบน้ำ พร้อมเสียงชายในผ้าเหลืองอยู่ในสายวิดีโอคอล ซึ่งต่อมาถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกพบในโทรศัพท์มือถือของอรัญญาวรรณเอง และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าเหตุใดจึงมีคลิปเช่นนี้อยู่ในเครื่องของเธอ และมีเจตนาใดในการถ่ายไว้
ประวัติและความสัมพันธ์
อรัญญาวรรณ อายุเพียง 28 ปี เคยเป็นนักเรียนโรงเรียนวัดไร่ขิงมาก่อน เธอเล่าว่า รู้จักกับอดีตเจ้าอาวาสมาตั้งแต่เด็ก โดยท่านเมตตาและอุปถัมภ์มาตลอดหลายปี จนกระทั่งความสัมพันธ์กลายเป็นความสนิทสนมที่ลึกซึ้ง และกลายมาเป็น พันธมิตรทางการเงิน ในช่วงไม่กี่ปีหลัง
ในปี 2564 อรัญญาวรรณได้ขอยืมเงินจากอดีตเจ้าอาวาสเป็นจำนวน 40 ล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อนำไปลงทุน ซึ่งเงินจำนวนนี้ถูกโอนให้โดยตรงจากบัญชีที่เชื่อว่าเป็นของวัดไร่ขิง ผ่านช่องทางต่าง ๆ และมีกระแสเงินสดจำนวนมากเคลื่อนไหวในบัญชีของเธอ
ข้อกล่าวหาและการจับกุม
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลาเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ทำการจับกุมอรัญญาวรรณที่บ้านพักในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยแจ้งข้อกล่าวหาหนักถึง 3 กระทง ได้แก่:
1. เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน
2. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
3. เป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
แม้เธอจะยอมรับว่ารู้จักกับอดีตเจ้าอาวาสจริง และมีการโอนเงินไปมาหลายครั้ง แต่ยืนยันว่าไม่รู้เลยว่าเงินที่ได้รับเป็นเงินของวัด โดยเข้าใจว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน เนื่องจากอยู่ในสมณเพศมานาน
มุมมองจากทีมทนาย
นายอนิสร รุ่งเรือง ทนายความของอรัญญาวรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง หรือเกี่ยวข้องกับเว็บพนันแต่อย่างใด พร้อมระบุว่าเงินที่ได้รับบางส่วนมีการทำสัญญากู้ยืมไว้ชัดเจน และมีการทยอยใช้คืนมาแล้วบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ทนายยอมรับว่า มีช่วงหนึ่งที่อรัญญาวรรณเกิดอารมณ์ชั่ววูบและนำเงินไปเล่นพนันบ้าง แต่ไม่ใช่ในลักษณะติดหนี้จำนวนมากหรือใช้เงินหมดไปกับการพนันทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่ถูกนำไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลจากตำรวจ – เส้นทางการเงินยังคลุมเครือ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมสอบสวนกำลังไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับบัญชีของวัดไร่ขิง รวมถึงมูลนิธิที่อยู่ภายใต้การดูแลของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งพบว่าเงินในบัญชีลดลงอย่างน่าสงสัย
จากการสอบปากคำพระคนสนิทรูปหนึ่งของอดีตเจ้าอาวาส ทราบว่าเป็นผู้มีหน้าที่โอนเงินให้กับอรัญญาวรรณโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีการเชิญตัวคนขับรถส่วนตัวและไวยาวัจกรของวัดไร่ขิงมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกด้วย
ประเด็นคลิปวิดีโอ และความคลุมเครือเรื่องศีลธรรม
คลิปวิดีโอที่ปรากฏนั้น ไม่เพียงกระทบต่อภาพลักษณ์ของอดีตเจ้าอาวาส แต่ยังเปิดประเด็นร้อนเรื่องศีลธรรมของพระสงฆ์ และความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับหญิงสาว โดยยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าคลิปนี้ถูกถ่ายขึ้นในช่วงใด และเจตนาคืออะไร แต่ได้สร้างความไม่สบายใจให้แก่ศรัทธาสาธุชนอย่างมาก
สถานะคดีล่าสุด
อรัญญาวรรณยังคงถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดยเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด และคาดว่าจะมีการเรียกพยานบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนในเร็ว ๆ นี้
คดีนี้ยังไม่จบง่าย ๆ และอาจโยงใยไปยังบุคคลหรือกลุ่มผลประโยชน์อื่นที่ร่วมขบวนการ หากตรวจสอบเส้นทางการเงินและหลักฐานดิจิทัลเพิ่มเติมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คดีทิดแย้มและอรัญญาวรรณไม่ใช่แค่การยักยอกเงินธรรมดา แต่สะท้อนปัญหาลึกในระบบการจัดการทรัพย์สินของวัด และเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างศรัทธาและผลประโยชน์ คำถามสำคัญตอนนี้ไม่ใช่แค่ “ใครผิด” แต่คือ “ใครรู้เห็นเป็นใจ” และ “ใครจะรับผิดชอบต่อความศรัทธาที่ถูกบั่นทอน”







