ฮือฮาทั้งหมู่บ้าน! กระเบื้องวัด 7 แผ่นร้อนผิดปกติชาวเน็ตห่วงเรื่องความปลอดภัย
ฮือฮาทั้งหมู่บ้าน! กระเบื้องวัดร้อน 7 แผ่นกลางโบสถ์ เดินไม่ได้เหมือนมีพลังลึกลับ ชาวบ้านแห่พิสูจน์ - ชาวเน็ตเตือนอย่ามองข้ามอาจเกิดไฟรั่ว!
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์แปลกที่สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นอย่างมาก เมื่อมีผู้ใช้งาน TikTok รายหนึ่งชื่อว่า @natampvkktk ได้โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความระบุว่า "ลูกไฟปริศนา ตกจากฟ้าพุ่งลงหลังโบสถ์ เกิดปาฏิหาริย์น่าขนลุก พื้นกระเบื้องโบสถ์ร้อน 7 แผ่นจนเดินไม่ได้" ซึ่งจุดเกิดเหตุคือภายในบริเวณวัดบุญชื่นชู อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
ในคลิปปรากฏภาพของพื้นกระเบื้องจำนวน 7 แผ่น ซึ่งมีการใช้เทปกาวสีเหลืองตีกรอบไว้ชัดเจน แสดงถึงตำแหน่งที่พบความผิดปกติ โดยมีประชาชนที่อยู่ในคลิปทดลองเดินเหยียบลงบนกระเบื้องดังกล่าวและพบว่าไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องรีบถอยกลับออกมาเพราะความร้อนแผ่ขึ้นมาจากพื้นอย่างชัดเจน
เหตุการณ์นี้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านในพื้นที่และจากต่างถิ่นต่างก็พากันเดินทางมาที่วัด เพื่อหวังมาพิสูจน์และสัมผัสกับประสบการณ์แปลกประหลาดนี้ด้วยตนเอง บางคนถึงขั้นกราบไหว้เชื่อว่าอาจมีพลังงานศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นสัญญาณจากฟากฟ้า บ้างก็เชื่อว่าเป็น “ปาฏิหาริย์” ที่บ่งบอกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือการลงมาของเทวดา
ความเชื่อของชาวบ้านปะทะเสียงเตือนจากชาวเน็ต: อย่ามองข้ามเรื่องความปลอดภัย
แม้จะมีหลายคนเชื่อมโยงไปยังเรื่องความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ในโลกออนไลน์กลับมีเสียงเตือนในอีกด้านหนึ่ง โดยเฉพาะจากช่างไฟฟ้าและผู้ที่มีความรู้ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงห่วงใยความปลอดภัยของผู้ที่เข้าไปสัมผัสกับกระเบื้องดังกล่าว
หนึ่งในคอมเมนต์ที่ได้รับความสนใจระบุว่า “ไฟลงกราวด์แน่นอน ลองเช็คด่วนนะ” พร้อมแนะนำว่า หากต้องการตรวจสอบว่าพื้นมีไฟรั่วจริงหรือไม่ ก็สามารถใช้เครื่องตรวจไฟแบบมีเสียงเตือน เมื่อสัมผัสกับพื้น ถ้าเครื่องส่งเสียง แสดงว่ามีไฟรั่วลงสู่พื้นจริง และควรรีบเรียกช่างไฟมาดำเนินการหาจุดรั่วให้เร็วที่สุด เพราะอาจเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อผู้ที่เดินเข้าไปเหยียบ
อีกคอมเมนต์กล่าวว่า “ไม่ได้ลบหลู่นะคะ แต่กลัวว่าถ้ามันร้อนจากไฟรั่ว มันอันตรายจริงๆ นะคะ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แต่เพื่อความปลอดภัยน่าจะให้การไฟฟ้ามาตรวจสอบค่ะ” ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากหลายคนในคอมเมนต์ที่ขานรับพร้อมเสนอให้แจ้งการไฟฟ้าฯ เขตปทุมธานี 2 ที่อยู่ห่างจากวัดเพียง 200 เมตรเท่านั้น เพื่อความรวดเร็วในการเข้าตรวจสอบและยืนยันสาเหตุอย่างชัดเจน
ย้อนรอยปรากฏการณ์ "พื้นร้อน" ที่เคยเกิดขึ้นในไทย
แม้ปรากฏการณ์ "พื้นกระเบื้องร้อนเฉพาะจุด" จะดูแปลกประหลาดและไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย แต่ในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ลักษณะใกล้เคียงกันเกิดขึ้นมาแล้วในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกรณีบ้านเรือนที่พบพื้นบางบริเวณร้อนผิดปกติ โดยภายหลังตรวจสอบพบว่าเกิดจากสายไฟฟ้าภายในผนังหรือใต้พื้นรั่วลงสู่ดิน หรือแม้แต่การติดตั้งระบบสายดิน (grounding) ไม่ถูกต้อง จนทำให้กระแสไฟฟ้ารั่วลงพื้นตลอดเวลา
ยิ่งในวัดหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีอายุนาน ระบบไฟฟ้าภายในอาคารอาจเก่าและไม่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว และอาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต หากมีคนเหยียบเข้าไปโดนกระแสไฟฟ้าโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว
ชาวบ้านเรียกร้องให้ตรวจสอบอย่างจริงจัง ขณะที่วัดยังไม่ออกแถลงการณ์
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบกระเบื้องทั้ง 7 แผ่นอย่างเป็นทางการหรือไม่ และทางวัดบุญชื่นชูเองก็ยังไม่มีแถลงการณ์หรือความเคลื่อนไหวใด ๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มีเพียงชาวบ้านที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและเสนอแนวทางให้ตรวจสอบโดยเร็ว เพราะหากสาเหตุมาจากไฟรั่วจริง ก็ถือว่าเป็นภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต และไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด แต่หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติทางไฟฟ้า ก็อาจจะพิจารณาต่อในเรื่องของความเชื่อ หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในพื้นที่ ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าแสงแดดที่ส่องกระทบตรงจุดนั้นในเวลาหนึ่งอาจทำให้พื้นร้อนขึ้นมากกว่าปกติ
ปาฏิหาริย์หรือไฟรั่ว? ความจริงต้องตรวจสอบด้วยวิทยาศาสตร์
เหตุการณ์ที่วัดบุญชื่นชูในครั้งนี้ เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับสังคมไทยที่ยังมีความเชื่อและศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมองข้ามหลักวิทยาศาสตร์และเหตุผล โดยเฉพาะเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตประชาชน
การตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาโดยผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยคลายข้อสงสัย และสร้างความสบายใจให้กับทั้งชาวบ้าน ผู้ศรัทธา และผู้ที่ใช้สถานที่นั้น ๆ ในชีวิตประจำวัน และหากพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติหรือปัญหาทางเทคนิค ก็จะได้รีบแก้ไขได้ทันท่วงที ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยในอนาคต









