รักแรงถึงขั้นโหด! สาวญี่ปุ่นตัดนิ้วนางแฟน แช่ตู้เย็น ห้ามแต่งงานหญิงอื่น
รักต้องห้ามที่จบลงด้วยเลือด! ดราม่าแรงในญี่ปุ่น “สาวคอสเพลย์” ตัดนิ้วนางแฟนหนุ่มแช่ตู้เย็น หลังขอเลิกเพราะไม่อยากให้แต่งงานกับใคร
เหตุการณ์สุดช็อกที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวนักคอสเพลย์วัย 23 ปี ชื่อว่า ซากิ ซาโตะ ได้ตกเป็นข่าวใหญ่ หลังถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายแฟนหนุ่มอย่างรุนแรงถึงขั้น ตัดนิ้วนางข้างซ้ายของเขา และนำไป แช่ไว้ในตู้เย็น เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักที่บิดเบี้ยวและครอบงำ โดยไม่ต้องการให้เขาไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น หรือแม้กระทั่งแต่งงานกับใครในอนาคต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับโทรศัพท์จากชายวัย 21 ปี ผู้ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของซาโตะ ขอความช่วยเหลือจากตำรวจโดยด่วน เนื่องจากเขาถูกทำร้ายร่างกาย และไม่สามารถทนกับสภาพที่เป็นอยู่ต่อไปได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ของทั้งสอง ก็พบว่าชายหนุ่มมีบาดแผลหลายแห่ง ทั้งบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะแก้มซ้ายและจมูก และพบว่านิ้วนางข้างซ้ายของเขาถูกตัดออกไป โดยมีการยืนยันในภายหลังว่า นิ้วที่ถูกตัดนั้นถูกซาโตะนำไปแช่ในแอลกอฮอล์ และเก็บไว้ในตู้เย็น ภายในห้องพัก
ความรักที่เริ่มต้นจากโลกออนไลน์ สู่การใช้ความรุนแรงที่ไม่มีใครคาดคิด
ย้อนกลับไปในปี 2023 ฝ่ายชายซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 19 ปี และยังคงเรียนอยู่ระดับมัธยมปลาย ได้รู้จักกับซากิ ซาโตะ ผ่านกิจกรรมคอสเพลย์ออนไลน์ ด้วยเสน่ห์ที่น่ารักและรูปลักษณ์ที่ดูไร้เดียงสา ซาโตะสามารถดึงดูดใจเขาได้ในทันที ทั้งสองเริ่มพูดคุยกัน และพัฒนาความสัมพันธ์จากออนไลน์สู่โลกจริง จนในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกัน พวกเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ร่วมกันในอพาร์ตเมนต์ที่เมืองโอซากะ
ในช่วงแรกของการคบหา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชายหนุ่มเริ่มสังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติของซาโตะ ซึ่งกลายเป็นคนที่ชอบควบคุมและไม่เปิดโอกาสให้เขามีอิสระเลยแม้แต่น้อย
ซาโตะมักจะขอให้เขาเก็บสมุดบัญชีธนาคารและโทรศัพท์มือถือไว้ในตู้เซฟ และต้องขออนุญาตเธอก่อนทุกครั้งที่จะใช้งาน นอกจากนี้เธอยังมีนิสัยชอบสั่งการ และไม่ชอบผู้ชายที่แสดงความเป็นผู้นำ ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดและกดดันมากขึ้นทุกวัน
จุดแตกหัก… จากความรักกลายเป็นความกลัว
ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มมีปัญหาอย่างรุนแรงในช่วงเดือนกันยายน 2024 เมื่อเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงเกี่ยวกับเสรีภาพในการใช้ชีวิต ซาโตะเริ่มแสดงพฤติกรรมที่รุนแรงมากขึ้น โดยครั้งหนึ่งเธอเคยพูดกับเขาว่า “หัวนมของผู้ชายจะงอกกลับมาอีกถ้าถูกตัดออก” และเธอก็ ทดลองทำจริงโดยการตัดหัวนมข้างซ้ายของเขาออกบางส่วน เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวอย่างยิ่งให้กับเขา แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษนี้ได้
เมื่อถึงปลายปีที่ผ่านมา หลังจากการทะเลาะกันครั้งใหญ่อีกครั้ง เขาได้พูดถึงเรื่องการเลิกรากันอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ซาโตะไม่พอใจอย่างมาก เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ต้องการให้คุณไปแต่งงานกับใคร หรือแม้แต่แลกแหวนกับผู้หญิงคนอื่น” แล้วจึง ลงมือใช้ของมีคมตัดนิ้วนางข้างซ้ายของเขาออก ก่อนจะนำไปแช่ในแอลกอฮอล์ และเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นราวกับของสำคัญ
แม้จะถูกทำร้ายร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ฝ่ายชายยังคงไม่แจ้งความในทันที เพราะเขา “ยังรักเธอและไม่สามารถปล่อยเธอไปได้” จนกระทั่งไม่สามารถทนต่อความรุนแรงอีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในเดือนเมษายน 2025 และเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย
ด้านแฟนสาวอ้าง... "เขาตัดนิ้วตัวเอง"
หลังจากถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ ซาโตะถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาในประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เธอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งอ้างว่าแฟนหนุ่มของเธอ เป็นคนตัดนิ้วของตัวเอง ซึ่งเป็นข้อกล่าวอ้างที่ดูจะไร้เหตุผลและขัดแย้งกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ
แฟนคลับและชาวโซเชียลช็อก – ปมรักที่กลายเป็นฝันร้าย
ข่าวนี้กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนคลับคอสเพลย์ในญี่ปุ่นและต่างประเทศ หลายคนตกใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่ดูน่ารักและร่าเริงเช่นซาโตะ กลับกลายเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ บางคนถึงกับแสดงความเห็นว่า “นี่มันยิ่งกว่าเรื่องแต่งในมังงะสยองขวัญ” ในขณะที่อีกหลายคนออกมาให้กำลังใจชายผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้
นักจิตวิทยาในญี่ปุ่นยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า เป็นตัวอย่างของ “ความสัมพันธ์แบบครอบงำ (controlling relationship)” ที่แสดงออกถึงอาการทางจิตของฝ่ายหญิงอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าปล่อยให้ดำเนินต่อไป อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
สะท้อนสังคม – รักไม่ควรเจ็บ
เรื่องนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนว่า “ความรักไม่ควรแลกมาด้วยความเจ็บปวดหรือความรุนแรง” แม้ในบางครั้งความรักอาจทำให้คนตาบอด แต่หากสิ่งที่เรียกว่ารักนั้นกลายเป็นพันธนาการที่บีบรัดชีวิตของอีกฝ่าย ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นความรักอีกต่อไป
สำหรับซาโตะ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนฝ่ายชายยังคงต้องพักรักษาตัวทั้งร่างกายและจิตใจ และคาดว่าคดีนี้จะยังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากทั้งสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป เพราะมันไม่ใช่แค่คดีทำร้ายร่างกายธรรมดา แต่คือผลสะท้อนของความรักที่พังทลายอย่างรุนแรงที่สุด






















