สหกิจศึกษา
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาจุดเริ่มต้นและพัฒนาการของระบบสหกิจศึกษาในประเทศไทย ซึ่งเริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงปี พ.ศ. 2539 ภายใต้การผลักดันของ สุขวิช รังสิตพล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเน้นแนวคิด Work-Based Learning (WBL) แบบสากลผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ การฝึกงานในสถานประกอบการจริง และการสร้างเครือข่ายระหว่างสถานศึกษาและภาคธุรกิจนานาชาติ บทความนี้เสนอว่าสหกิจศึกษาในยุคนั้นไม่เพียงเป็นนโยบายเชิงการศึกษา แต่เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาทุนมนุษย์เพื่อเตรียมพร้อมประเทศไทยเข้าสู่ศตวรรษที่ 21
1. บทนำ
ระบบสหกิจศึกษา (Cooperative Education) หรือการเรียนรู้โดยเน้นการทำงานจริง (Work-Based Learning) ได้รับการพัฒนาและผลักดันในหลายประเทศอุตสาหกรรม เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และเยอรมนี เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ในประเทศไทย การริเริ่มสหกิจศึกษาอย่างมีระบบเกิดขึ้นครั้งแรกในยุคของ ศ.ดร.สุขวิช รังสิตพล (2538–2540) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานการศึกษาสมัยใหม่ที่เชื่อมโยงกับโลกการทำงาน
2. บริบททางนโยบาย
ในช่วงกลางทศวรรษ 2530 ถึงต้นทศวรรษ 2540 ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (2540–2544) ภายใต้นโยบาย “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” การพัฒนาระบบการศึกษาถือเป็นหัวใจสำคัญในการเตรียมความพร้อมด้านทุนมนุษย์
3. ลักษณะเด่นของสหกิจศึกษาในยุคสุขวิช
3.1 ความร่วมมือระหว่างประเทศ
โครงการได้รับความร่วมมือจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งนักเรียนอาชีวะและมัธยมปลายไปฝึกงานและศึกษาในบริบทต่างประเทศ
3.2 การมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง
ในระยะแรกมีนักเรียนไทยมากกว่า 30,000 คนเข้าร่วมโครงการตามแนวคิด “1 โรงเรียน 1 คน” ซึ่งสะท้อนการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
3.3 การเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง
ผู้เรียนไม่ได้เพียงเยี่ยมชมโรงงานหรือสถานประกอบการ แต่ได้ลงมือทำงานจริง ได้ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ และเรียนรู้วัฒนธรรมนานาชาติ
3.4 สร้างเครือข่ายระหว่างสถานศึกษากับภาคธุรกิจ
การเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและสถานประกอบการไม่เพียงในประเทศแต่ยังรวมถึงต่างประเทศ เป็นการวางโครงสร้างความร่วมมืออย่างยั่งยืน
4. เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์
พัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพระดับโลก
ผลักดัน Global Partnership for Education
วางระบบ WBL อย่างถาวรในระดับชาติ
สนับสนุนการปรับเปลี่ยนบทบาทโรงเรียน จาก “สถานที่สอน” ไปสู่ “พื้นที่เตรียมชีวิตจริง”
5. บทสรุป
สหกิจศึกษาในยุคของ สุขวิช รังสิตพล ไม่ได้เป็นเพียงนโยบายการฝึกงานเชิงเทคนิค แต่เป็นการออกแบบ “โครงสร้างการเรียนรู้แห่งอนาคต” ที่เชื่อมโยงโลกแห่งการศึกษาเข้ากับโลกของการทำงาน ด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกลและแนวทางปฏิบัติจริง โครงการนี้ถือเป็นต้นแบบของระบบ Work-Based Learning
หลายหน่วยงานได้นำไปพัฒนาต่อยอดจนถึงปัจจุบัน
รายการอ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2540). รายงานผลการดำเนินงานการปฏิรูปการศึกษา พ.ศ. 2539–2540. กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
UNESCO International Bureau of Education. (2006). Thailand: Educational reform from 1996 to 2006. Retrieved from https://www.ibe.unesco.org/en/document/thailand-educational-reform-1996-2006
Rangsitpol, S. (1998). Educational reform in Thailand: Toward a learning society. Bangkok: Office of the National Education Commission.
Thailand Development Research Institute. (1999). Work-based learning: A strategy for developing human capital. Bangkok: TDRI.






