Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สุขวิชโนมิกส์:การอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ด้วยแผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัฒน์ 2538

โพสท์โดย praang

 

คู่มือการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 เริ่มต้นปฏิบัติจริง เมื่อ ธันวาคม 2538

 

https://drive.google.com/file/d/1Qp2GxXhlKgLtt1FmNwbNSSfL9xij7Oex/view?usp=drivesdk

หน้า 1: New Aspirations for Education in Thailand Towards Educational Excellence by the Year 2007

สรุปเนื้อหา:

เอกสารเริ่มต้นด้วยเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาในประเทศไทยให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 โดยมุ่งหวังให้มีการปรับระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับโลกาภิวัตน์ และบรรลุ “ความเป็นเลิศทางการศึกษา” ภายในปี 2007

การวิเคราะห์:

จุดเน้นหลักคือการเชื่อมโยง “การศึกษา” เข้ากับ “การพัฒนาเศรษฐกิจ” และ “ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ”
แนวคิดนี้สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากระบบการศึกษาที่มุ่งเนื้อหาวิชาการแบบดั้งเดิมไปสู่การศึกษาเชิงพัฒนาคน เพื่อรองรับโลกยุคใหม่
ความสำคัญของ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 8” ถูกเน้นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นกรอบอ้างอิงในการวางวิสัยทัศน์ด้านการศึกษา



หน้า 2: ปัญหาเชิงโครงสร้างและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

สรุปเนื้อหา:

แม้ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงในช่วงหลายแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ผ่านมา แต่ความเจริญดังกล่าวกลับทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากขึ้น

70% ของประชากร (ประมาณ 40 ล้านคน) มีรายได้น้อยกว่า 50,000 บาทต่อปี ทำให้ลูกหลานของพวกเขาเข้าไม่ถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ
ปัญหานี้ทำให้เยาวชนขาดโอกาสได้รับการศึกษาต่อเนื่อง 12 ปีอย่างเต็มรูปแบบ

การวิเคราะห์:

ศ.ดร.สุขวิช ใช้ข้อมูลเศรษฐกิจมาเป็นฐานในการชี้ให้เห็น “ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” อย่างเป็นระบบ
มีการวางแนวทางให้การศึกษากลายเป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับคุณภาพชีวิต

ข้อเสนอเรื่อง “การศึกษาฟรี 12 ปีต่อเนื่อง” ไม่ใช่เพียงแค่นโยบายด้านการศึกษาเท่านั้น แต่เป็นนโยบายเชิงสังคมที่ลึกซึ้ง สอดคล้องกับแนวคิด “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง”


หน้า 3: นโยบายการศึกษาต่อเนื่อง 12 ปี และภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ

สรุปเนื้อหา:

รัฐควรกำหนดนโยบาย “การศึกษาตั้งแต่เปลจนถึงหลุมศพ” (cradle to grave) โดยเน้นการศึกษาต่อเนื่อง 12 ปีคุณภาพดี เริ่มตั้งแต่ก่อนอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายหรือสายอาชีพ

การศึกษาภาคบังคับจะขยายจาก 6 ปี เป็น 9 ปี และต่อยอดเป็น 12 ปี
กระทรวงศึกษาธิการมีภารกิจจัดการศึกษาให้แก่เยาวชนในระบบ 12 ล้านคน และนอกระบบอีก 3 ล้านคน
โครงสร้างของกระทรวงศึกษาฯ ใหญ่และซับซ้อน มีบุคลากรมากกว่า 600,000 คน และสังกัด 17 หน่วยงานหลัก

การวิเคราะห์:

แนวคิด “cradle to grave” เป็นการพลิกกระบวนทัศน์ทางการศึกษาในเชิงนโยบายอย่างชัดเจน ยืนยันว่าการศึกษาควรเป็นสิทธิตลอดชีวิต ไม่ใช่เฉพาะวัยเรียน

การขยายการศึกษาภาคบังคับสะท้อนเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่จะให้การศึกษาเป็นเครื่องมือสร้างความเท่าเทียม
การกล่าวถึงภาระงานและขนาดของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดประเด็นสู่การปฏิรูประบบราชการการศึกษา ซึ่งจะปรากฏในหน้าถัด ๆ ไป


หน้า 4: ปัญหาสะสมของระบบการศึกษาที่ต้องเร่งแก้ไข

สรุปเนื้อหา:

กระทรวงศึกษาธิการประสบปัญหาสะสมมายาวนาน ซึ่งขัดขวางความพยายามในการยกระดับคุณภาพการศึกษา 6 ปีให้ดี และขยายไปสู่ 9 หรือ 12 ปี
ปัญหาหลักที่ระบุไว้ ได้แก่:

งบประมาณไม่เพียงพอ: 82% ใช้ไปกับเงินเดือนบุคลากร เหลือเพียง 18% สำหรับการพัฒนา
ขาดเอกภาพในการบริหาร
นโยบายไม่ชัดเจน และไม่สอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจโลก
ขาดครู โดยเฉพาะพื้นที่ชนบท
การจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ด้อยคุณภาพ
หลักสูตรไม่สอดคล้องกับความต้องการของสังคม
ค่าตอบแทนครูไม่เพียงพอ

การวิเคราะห์:

รายการปัญหาทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความ “ล้มเหลวเชิงโครงสร้าง” ในระบบราชการศึกษาไทยที่สะสมมาเป็นทศวรรษ
การที่งบประมาณส่วนใหญ่ไปตกอยู่ที่ “รายจ่ายบุคลากร” มากกว่าการพัฒนาผู้เรียน บ่งชี้ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการ ปฏิรูปการบริหารจัดการ
ประเด็นที่น่าสังเกตคือ การที่นโยบายไม่สอดคล้องกับ “เศรษฐกิจแบบโลกาภิวัตน์” สะท้อนให้เห็นว่าระบบการศึกษาล้าหลังและยังไม่ตอบโจทย์อนาคต

หน้า 5: ปัญหาเพิ่มเติมเชิงระบบและความล้มเหลวด้านการจัดการ

สรุปเนื้อหา:

ต่อเนื่องจากหน้าก่อน เอกสารระบุปัญหาการศึกษาไทยเพิ่มเติม (ข้อ 8 ถึง 20) เช่น:

ค่าธรรมเนียมการศึกษากับงบประมาณต่อหัวไม่สอดคล้องกัน
การก่อสร้างโรงเรียนใหม่มากเกินไป ทั้งที่ยังสามารถขยายในโรงเรียนเดิมได้
ระบบการบริหารบุคลากรที่ถูกแทรกแซงทางการเมือง ขาดความเป็นธรรม
การฝึกอบรมครูไม่มีความต่อเนื่อง
หน่วยงานในกระทรวงซ้ำซ้อนกันมากเกินไป
โรงเรียนขาดการมีส่วนร่วมจากชุมชน
ขาดการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และประชาธิปไตยในหลักสูตร

การวิเคราะห์:

จุดเด่นของการนำเสนออยู่ที่การวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและเจาะลึกถึง “รากของปัญหา” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากความล้มเหลวด้านการบริหารและนโยบายไม่ยึดโยงกับความเป็นจริง
การชี้ว่ามี “การเมืองแทรกแซงการบริหารบุคลากร” ชี้ให้เห็นเจตจำนงของ ศ.ดร.สุขวิช ในการผลักดัน “ธรรมาภิบาล” ในภาคราชการศึกษา
การขาดหลักสูตรด้านคุณธรรมและประชาธิปไตย บ่งชี้ความกังวลต่อคุณภาพพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของการอภิวัฒน์การศึกษา

หน้า 6: นโยบายรัฐบาลใหม่เพื่อปฏิรูประบบการศึกษา

สรุปเนื้อหา:

เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 26 กรกฎาคม 2538 ได้ประกาศนโยบายการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมที่มีเป้าหมายชัดเจนในการ:

พัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ
ขยายการศึกษาภาคบังคับจาก 6 เป็น 9 ปี และต่อไปถึง 12 ปี
ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมไทย เช่น ศาสนา จริยธรรม และคุณธรรม

ในเดือนธันวาคม 2538 กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนด 4 แนวทางหลักของ “การอภิวัฒน์การศึกษา” ได้แก่:

การปฏิรูปโรงเรียน (School Reform)
การปฏิรูปครู (Teachers Reform)
การปฏิรูประบบหลักสูตร (Curriculum Reform)
การปฏิรูประบบบริหาร (Administration Reform)

การวิเคราะห์:

หน้านี้คือจุดเริ่มต้นของ “การปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบ” ซึ่ง ศ.ดร.สุขวิช นิยามว่าเป็น “Educational Revolution” มากกว่าการปรับปรุงแบบผิวเผิน
การจัด 4 แนวทางไว้อย่างชัดเจน บ่งบอกถึง “ยุทธศาสตร์แบบองค์รวม” (holistic strategy) ที่ผสมผสานทั้งคน เนื้อหา สถานที่ และระบบ
การมุ่งเน้นคุณธรรม วัฒนธรรม และจริยธรรมในยุคเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ ถือเป็นการรักษารากเหง้าของอัตลักษณ์ชาติควบคู่กับการพัฒนา


หน้า 7: การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการเริ่มต้นปฏิรูปโรงเรียน

สรุปเนื้อหา:

การปฏิรูปการศึกษาต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐ แต่รวมถึงนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และภาคประชาสังคม
ในเดือนมกราคม 2539 ได้เริ่มต้นโครงการ “School Reform” โดยให้ทุกโรงเรียนพัฒนาตนเองให้กลายเป็น “โรงเรียนในอุดมคติ” ตามแนวทาง 10 ประการของกระทรวงศึกษาธิการ
แนวทางนี้เน้นให้โรงเรียนสร้าง “สภาพแวดล้อมที่ดีต่อการเรียนรู้” มีวัสดุอุปกรณ์พร้อม ห้องเรียนเพียงพอ และหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น
ชุมชนควรเข้ามามีบทบาทในการบริหารโรงเรียน รวมถึงแก้ปัญหาการขาดแคลนครู
เป้าหมายสูงสุดคือโรงเรียนต้องมี “มาตรฐานสูงที่ยอมรับได้จากชุมชน”

การวิเคราะห์:

หน้านี้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลง “โครงสร้างอำนาจ” จากส่วนกลางมาสู่โรงเรียนและชุมชน ถือเป็นการปฏิรูปเชิง “กระจายอำนาจ” ที่แท้จริง
แนวคิด “โรงเรียนในอุดมคติ” ตามคำบัญชา 10 ประการ เป็นจุดเริ่มต้นของการวางมาตรฐานคุณภาพใหม่ที่วัดผลได้
การให้ความสำคัญกับ “การมีส่วนร่วมของชุมชน” สะท้อนวิสัยทัศน์ประชาธิปไตยทางการศึกษา ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีบทบาทอย่างแท้จริง


หน้า 8: ผลลัพธ์เริ่มต้นของการปฏิรูป และการลงทุนเพื่อการศึกษา

สรุปเนื้อหา:

หลังดำเนินการปฏิรูปมา มีนโยบายและแนวทางแก้ไขปัญหาสะสมที่เริ่มเห็นผลแล้ว โดยเฉพาะ:

เป้าหมาย งบประมาณการศึกษาประจำปี 2538(1995) 100,000 เพื่มเป็น 200,000 ปี 2541
ทำได้เเป็นรูปธรรม งบประมาณการศึกษาประจำปี 2540 (1997) เพิ่มจาก 133,000 ล้านบาท 2539 เป็น 163,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22.5%)ในปี2540

งบเพื่อพัฒนาโดยตรงเพิ่มจาก 18% เป็น 26.2% หรือจาก 23,000 ล้านบาท เป็น 43,000 ล้านบาท
ปรับหลักสูตรให้สอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ ป.1 เน้นฟัง-พูด-อ่าน-เขียน
แก้ปัญหาการยุบตำแหน่งครูที่เกษียณโดยแต่งตั้งครูใหม่ 5,669 คน
แก้ข้อบังคับเพื่อให้ครูสามารถเลื่อนตำแหน่งโดยไม่ต้องส่งผลงานวิชาการที่เป็นภาระ คืนครูให้ห้องเรียน วัดผลสัมฤทธิ์จริง

การวิเคราะห์:

การเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญสะท้อนเจตจำนงของรัฐต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา ไม่ใช่แค่ปรับโครงสร้าง แต่ลงทุนจริงจัง
การสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ ป.1 เป็นนโยบายที่ก้าวหน้าในยุค 90’s ซึ่งเชื่อมโยงกับความต้องการของโลกาภิวัตน์
การแก้ไขระบบการบริหารครู (เช่น การแต่งตั้งใหม่และการเลื่อนขั้น) เป็นการลบล้างระบบที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมในอดีต

หน้า 9: การยกระดับคุณภาพการศึกษาทุกระดับ และโครงการศึกษาเกษตรเพื่อเด็กยากจน

สรุปเนื้อหา:

นโยบาย “ยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ” ได้รับการกำหนดให้ชัดเจน เริ่มจากการศึกษาระดับประถมศึกษา พร้อมขยายโอกาสให้เด็กทุกคนได้เข้าเรียน
สำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ได้รับงบเพิ่มจาก 6.5 พันล้านบาท เป็น 1.7 หมื่นล้านบาทในปี 2540 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดำเนินโครงการ “Self-Sufficiency Agricultural Education”:

เด็กยากจนที่จบ ม.3 (เกรด 9) ได้รับคัดเลือกเรียนในวิทยาลัยเกษตรแบบกินนอน
ได้ทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถพึ่งตนเองได้ และนำผลผลิตขายได้จริง
ขยายโอกาสสู่สายอาชีพ เช่น ไฟฟ้า เครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ บัญชี การตลาด
ผู้เรียนต้องเรียนวินัยและการป้องกันตน เช่น การฝึกวิชาทหาร
เป้าหมาย: ผลิต “คนจนที่มีทักษะ” เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในระดับโครงสร้าง

การวิเคราะห์:

นโยบายนี้เป็นตัวอย่างของการออกแบบการศึกษาเชิงนโยบายสาธารณะ ที่ บูรณาการระหว่างการศึกษา-เศรษฐกิจ-สังคม
การเพิ่มงบให้ สปช. แสดงถึงการให้ความสำคัญกับ “ฐานรากของระบบการศึกษา” อย่างแท้จริง
โครงการศึกษาเกษตรฯ เป็นรูปธรรมของการใช้ “เศรษฐกิจพอเพียง” สร้างคนให้มีศักดิ์ศรีและมีงานทำ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ล้ำหน้าและยั่งยืน



หน้า 10: โครงการนำร่องเพื่อการปฏิรูปอย่างเป็นระบบและความหลากหลายเชิงแนวคิด

สรุปเนื้อหา:

โครงการอภิวัฒน์การศึกษาเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วงปีแรก โดยเฉพาะในระดับโรงเรียน
กระทรวงศึกษาธิการได้แต่งตั้งคณะทำงานและดำเนิน “โครงการโรงเรียนต้นแบบ” ซึ่งดำเนินการในหลายร้อยโรงเรียนทั่วประเทศ
ยอมรับว่าแม้การปฏิรูปจะก่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในทางนโยบาย แต่ก็นำไปสู่ “ความหลากหลายเชิงแนวคิด” (conceptual diversity) ในการปฏิบัติจริง

จึงจำเป็นต้องกำหนด “นโยบายชัดเจนและแนวทางปฏิบัติจริง” เพื่อจัดการกับเด็กยากจนกว่า 40 ล้านคน ให้ได้รับการศึกษาฟรี 12 ปี โดยเฉพาะผ่านระบบโรงเรียนการเกษตร

การวิเคราะห์:

การกล่าวถึง “ความหลากหลายเชิงแนวคิด” แสดงถึงความเข้าใจเชิงลึกของ ศ.ดร.สุขวิช ว่าการปฏิรูปไม่ใช่เพียงการออกนโยบายจากส่วนกลาง แต่ต้องปรับให้เข้ากับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ท้องถิ่น และบริบทของแต่ละโรงเรียน
โครงการนำร่องเป็นกลยุทธ์ “ทดลอง-ปรับใช้-ขยายผล” ที่มีความทันสมัยและเปิดกว้างต่อความร่วมมือในระดับพื้นที่
การเชื่อมโยง “โรงเรียนต้นแบบ” กับ “แนวนโยบายสำหรับเด็กยากจน” เป็นการวางรากฐานของระบบที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: “โดน Pantip ซ่อนลิงก์” https://pantip.com/topic/43459478
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
praang's profile


โพสท์โดย: praang
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินเดือน 18,000 ในกรุงเทพฯ ฉันใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง มีเงินเหลือเก็บ แถมมีเงินส่งให้แม่เดือนละ 2,000พบสัญญาณประหลาดก่อนเครื่องบินตกในอินเดียเลขขายดี สลากตัวเลขสามหลัก N3 งวด 16/6/68แนวทางเลขเด็ดหวยลาวงวดนี้ 13มิ.ย.2568ถ้าลูกไม่ส่งเงินให้พ่อแม่ = อกตัญญู จริงดิเผ็ดนี้ดี นี่คือมะแขว่นเขมรยัน "ไทยเสียหายหนัก หลังเขมรเลิกใช้เน็ตไทย"ประชาชนกัมพูชาเริ่มบ่น ต้องกลับไปใช้อินเตอร์เน็ตแบบเต่าคลานเด็กชายขี่หมูไปโรงเรียนทุกวันในบราซิลไม่ธรรมดา! พระเอกดังช่อง 3 ผันตัวขายเงาะ 200 กิโลหมดเกลี้ยงในพริบตานายก ไทยไม่โต้เขมร อ้างตัดน้ำไฟทางโน้นเข้าใจผิดโทษของการกู้หนี้นอกระบบดอกโหด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ประชาชนกัมพูชาเริ่มบ่น ต้องกลับไปใช้อินเตอร์เน็ตแบบเต่าคลานชาวกัมพูชาติดค้างฝั่งไทย กลับบ้านไม่ได้ หลัง ตม.เขมรไม่เปิดด่าน อ้างรอคำสั่งจากส่วนกลางถ้าลูกไม่ส่งเงินให้พ่อแม่ = อกตัญญู จริงดิเขมรประกาศสั่งห้ามออกอากาศละครและภาพยนตร์ไทยทุกประเภท
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เขมรโต้กลับ 6 มาตรการ หากไทยไม่ยอมเปิดด่านชีวิตพลิก! แม่สิตางศ์ร่ำไห้ กลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องพึ่งข้าววัดประทังชีวิตแรงอาฆาตล้างแค้น โศกนาฏกรรมสุสานระเบิด คร่า 3 ชีวิตพี่น้องเขมรเย้ย! ไทยสูญรายได้หลายร้อยล้านดอลล์ หลังกัมพูชาเลิกซื้อเน็ต ยัน ‘ไทยพูด แต่เขมรทำ’
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง