แทคไม่ทน! โพสต์ถึง “ลูกพีช” หลังนั่งเก้าอี้ สท. คนแห่แชร์สนั่น
“บ้านหลินวรัตน์” กวาดเก้าอี้! เปิดเบื้องหลังชัยชนะครอบครัวนายกเบี้ยว ในศึกเลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี “แทค ภรัณยู” โพสต์แซวยินดีเบาๆ แต่เจ็บลึก
สร้างความฮือฮาไม่น้อยกับผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลธัญบุรี ซึ่งแม้จะเป็นเพียงการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ แต่ก็มีความชัดเจนมากพอที่ทำให้หลายฝ่ายจับตามอง เมื่อปรากฏว่า “ตระกูลหลินวรัตน์” กวาดตำแหน่งสำคัญได้ทั้งครอบครัว เริ่มตั้งแต่ นางยุพเยาว์ หลินวรัตน์ ภรรยาของอดีตนายกเทศมนตรี “นายกเบี้ยว” ที่สามารถคว้าชัยชนะในตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ได้สำเร็จ ขณะเดียวกัน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นายสมิทธิพัฒน์ หลินวรัตน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้องพีช” ก็ได้รับเลือกเป็น สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ในพื้นที่เดียวกัน
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับพื้นที่ เพราะเป็นการตอกย้ำอิทธิพลทางการเมืองของ “บ้านหลินวรัตน์” ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่มายาวนาน ทั้งยังเป็นการส่งไม้ต่อจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกอย่างชัดเจน เรียกได้ว่ามาเป็นทีมทั้ง “ภรรยา” และ “ลูกชาย” คว้าเก้าอี้สำคัญพร้อมกันในศึกเดียวกันอย่างน่าสนใจ
แต่สิ่งที่เรียกเสียงฮือฮามากพอๆ กับผลคะแนน ก็คือความเคลื่อนไหวของ แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ดารานักแสดงหนุ่มชื่อดัง ซึ่งได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Tack Pharunyoo” โดยมีการแชร์ข่าวเกี่ยวกับผลเลือกตั้ง พร้อมกับแคปชั่นที่อ่านแล้วแสบเบาๆ ว่า
“พระโคกินหญ้า แล้ว… ”
ประโยคสั้นๆ แต่เจ็บลึกนี้ ทำให้หลายคนตีความไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะคำว่า “พระโคกินหญ้า” ที่อาจสื่อถึงการสื่อสารในเชิงเสียดสี หรือสะท้อนถึงความไม่ปกติบางอย่างในการเมืองท้องถิ่น ทั้งนี้ ยังไม่มีคำชี้แจงเพิ่มเติมจากแทคเกี่ยวกับเจตนาที่แท้จริงของโพสต์ดังกล่าว แต่เป็นที่แน่นอนว่า ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างเข้าไปคอมเมนต์กันอย่างคึกคัก บางส่วนแสดงความยินดี บางส่วนก็แสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมตั้งคำถามถึง “กระแสอิทธิพลในท้องถิ่น” และ “ความโปร่งใส” ของกระบวนการเลือกตั้ง
ครอบครัวการเมืองในท้องถิ่น: จุดแข็ง หรือ ช่องว่างของประชาธิปไตย
กรณีของครอบครัวหลินวรัตน์ที่สามารถคว้าตำแหน่งทั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลได้ในเวลาเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนที่ชัดเจนของ “การเมืองท้องถิ่นที่ขับเคลื่อนด้วยครอบครัว” ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย และพบเห็นได้บ่อยครั้งในหลายจังหวัด
หลายฝ่ายมองว่า จุดแข็งของการมี “ครอบครัวการเมือง” คือความต่อเนื่องในการบริหาร การมีความเข้าใจในพื้นที่ และการทำงานร่วมกันอย่างเป็นทีม แต่ในทางกลับกัน ก็มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับประเด็น “การสืบทอดอำนาจ” และ “ความไม่หลากหลายทางการเมือง” ซึ่งอาจทำให้พื้นที่ขาดตัวเลือกใหม่ๆ หรือมีการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียม
ย้อนรอยชื่อ “นายกเบี้ยว” กับบทบาทที่ยังส่งอิทธิพล
ชื่อของ “นายกเบี้ยว” หรืออดีตนายกเทศมนตรีธัญบุรี เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการเมืองท้องถิ่น ด้วยประสบการณ์และเครือข่ายที่กว้างขวาง แม้จะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วยตัวเอง แต่การสนับสนุนให้ภรรยาและลูกชายลงสนามแทน ก็สะท้อนถึงความสามารถในการคุมเกมและคุมกระแสได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อชัยชนะในครั้งนี้
ชาวบ้านในพื้นที่จำนวนไม่น้อยกล่าวชื่นชมว่า “นายกเบี้ยว” เคยมีผลงานพัฒนาในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการที่ทำให้ชุมชนมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็มีกระแสวิจารณ์ในบางมิติ โดยเฉพาะในเรื่องของความโปร่งใสในบางโครงการ และการบริหารทรัพยากรในระดับท้องถิ่น
“แทค ภรัณยู” กับบทบาทที่ไม่ใช่แค่ดารา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “แทค ภรัณยู” ไม่ได้ปรากฏตัวแค่ในบทบาทของนักแสดงหรือคนบันเทิงเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในบุคคลสาธารณะที่กล้าแสดงความคิดเห็นในประเด็นสังคมและการเมืองอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสียงของเขานั้นทรงพลังในโลกโซเชียล และหลายครั้งกลายเป็นกระบอกเสียงแทนความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่ง
การออกมาโพสต์ถึงผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งการเคลื่อนไหวที่บ่งบอกว่า แทคยังคงจับตาสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพร้อมสะท้อนความคิดเห็นในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งทำให้ชื่อของเขาถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อีกครั้งอย่างรวดเร็ว
อนาคตของเทศบาลธัญบุรี: ความคาดหวัง vs ความกังวล
ผลการเลือกตั้งที่ออกมาแม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็ทำให้เกิดทั้งความหวังและความกังวลในหมู่ประชาชน บางส่วนคาดหวังว่าการมีบุคคลใหม่ (แม้จะอยู่ในครอบครัวเดียวกัน) ขึ้นมาบริหาร จะนำมาซึ่งแนวคิดใหม่ๆ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งตั้งคำถามว่า การที่อำนาจทางการเมืองยังคงอยู่ในเครือญาติ จะสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใสหรือไม่? และจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีเส้นสายเข้ามาแข่งขันได้หรือไม่?
คำตอบของคำถามเหล่านี้ อาจต้องใช้เวลาในการพิสูจน์และจับตาดูต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือ การเลือกตั้งครั้งนี้ได้ปลุกกระแสให้ประชาชนหันมาสนใจการเมืองท้องถิ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน
อ้างอิงจาก: ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊กTack Pharunyoo

















