“กินหญ้าหวาน?” กัน จอมพลัง ฟาดกลับคำพูดนายกฯเบี้ยว อันนี้คือคำชมเหรอ
ดราม่าเดือดหลังเลือกตั้ง! “นายกเบี้ยว” ชนะยกทีมแต่ไม่วายเจอชาวเน็ตถล่ม ปมพูด “คนธัญบุรีกินหญ้าหวาน” “กัน จอมพลัง” ซัดแรง! แบบนี้คือคำชมเหรอ?
การเมืองท้องถิ่นมักเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนอาจมองข้าม แต่สำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในครั้งล่าสุดนี้ กลับกลายเป็นประเด็นร้อนที่จุดไฟดราม่าในโลกออนไลน์ขึ้นมาอีกระลอก โดยเฉพาะเมื่อ “นายกเบี้ยว” หรือ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ ผู้ดำรงตำแหน่งเดิม และภรรยาอย่าง “น้ำอ้อย” หรือ นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย พร้อมพาทีมสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) คว้าชัยยกทีม ท่ามกลางคำถามมากมายจากสังคม
ชัยชนะที่มากับเสียงวิจารณ์
แม้จะเป็นชัยชนะที่ควรมีแต่รอยยิ้ม แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อก่อนการเลือกตั้ง หนึ่งในทีมผู้สมัคร สท. อย่างนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “ลูกพีช” ลูกชายของนายกเบี้ยว ต้องเผชิญกับกระแสดราม่าอย่างหนัก หลังมีคลิปเหตุการณ์รถชนกับชายสูงวัยคนหนึ่งที่รู้จักกันในนาม “ลุงป้า” เผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเรื่องพฤติกรรม การรับผิดชอบ และภาพลักษณ์ของผู้สมัครทันที
แม้ประเด็นนี้จะร้อนแรงและหลายฝ่ายคิดว่าอาจส่งผลต่อคะแนนเสียง แต่ผลลัพธ์กลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อนายกเบี้ยวและทีมสามารถกวาดคะแนนเสียงเอาชนะมาได้แบบ “ยกชุด” ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับหลายฝ่ายอย่างมาก และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเจ้าตัวให้สัมภาษณ์หลังทราบผลเลือกตั้ง กลับกลายเป็นชนวนปะทุดราม่าใหม่ที่หนักกว่าเดิม
“คนธัญบุรีกินหญ้าหวาน” จุดไฟเดือดโซเชียล
คำสัมภาษณ์ของนายกเบี้ยวที่กลายเป็นประเด็นร้อน คือประโยคที่ว่า:
“ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน ถ้ากินหญ้าขม ผมก็คงไม่ได้รับชัยชนะ ผมยังเชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรีทานหญ้าหวาน และจะทานตลอดไป เราไม่ทิ้งกัน”
ประโยคดังกล่าวกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีในโลกโซเชียล หลายคนมองว่าแม้เจ้าตัวอาจต้องการสื่อถึงความไว้วางใจและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างตนกับประชาชน แต่การเลือกใช้คำเปรียบเปรยถึง “หญ้า” โดยเฉพาะกับวลีว่า “กินหญ้าหวาน” นั้น ถูกตีความจากหลายฝ่ายว่าไม่เหมาะสม อาจมีนัยยะเสียดสี หรือสื่อถึงประชาชนในลักษณะหยามเกียรติได้
กัน จอมพลัง โพสต์ทันทีหลังคำสัมภาษณ์ – ถามแรง “นี่คือคำชม?”
หนึ่งในบุคคลที่ออกมาแสดงความเห็นต่อคำพูดของนายกเบี้ยวทันที คือ “กัน จอมพลัง” นักเคลื่อนไหวทางสังคมที่เคยให้ความช่วยเหลือ “ลุงป้า” ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถชนกับผู้สมัคร สท. อย่าง “ลูกพีช”
กัน จอมพลัง โพสต์ข้อความทันทีหลังสัมภาษณ์ของนายกเบี้ยวว่า:
“คนธัญบุรีชอบกินหญ้าหวาน แล้วก็จะทานตลอดไป อันนี้คือคำชมที่นักการเมืองให้ชาวบ้านหรอ?”
ข้อความนี้กลายเป็นกระแสทันที และได้รับการแชร์ต่ออย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ทั้งฝั่งที่เห็นด้วยกับกัน จอมพลัง และฝ่ายที่พยายามอธิบายว่าคำพูดของนายกเบี้ยวอาจเป็นเพียงการเปรียบเปรยโดยไม่มีเจตนาในแง่ลบ
ความคิดเห็นจากประชาชน: มุมมองที่หลากหลาย
เมื่อทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามประชาชนในพื้นที่ตำบลธัญบุรี หลายคนระบุว่าไม่รู้สึกโกรธเคืองกับคำพูดของนายกเบี้ยว โดยบางรายกล่าวว่า:
“อาจารย์แกพูดแบบติดตลก เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คนพื้นที่รู้จักนิสัยแกดี ก็เลยเลือกแกมาอีก”
อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายเสียงที่แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยบางคนบอกว่า:
“ต่อให้สนิทกับชาวบ้านแค่ไหน คำพูดแบบนี้ไม่ควรหลุดจากปากนักการเมือง มันดูไม่ให้เกียรติ”
การถกเถียงกันในสังคมจึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนถึงความสำคัญของ “คำพูด” โดยเฉพาะเมื่อมันมาจากบุคคลในตำแหน่งสาธารณะ
บทเรียนของนักการเมืองท้องถิ่น: คำพูดคือภาพลักษณ์
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เห็นชัดเจนว่าแม้จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่การรักษาภาพลักษณ์และความสัมพันธ์กับประชาชนต้องอาศัยความระมัดระวังในการสื่อสาร โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลสูงมาก เพราะคำพูดหนึ่งคำสามารถกลายเป็นดราม่าที่ยากจะควบคุมได้
ในขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นบทเรียนสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งเช่นกัน ว่าการติดตาม ตรวจสอบ และตั้งคำถามต่อบุคคลที่เราเลือกให้มีอำนาจในการบริหารพื้นที่ เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
ทิศทางหลังการเลือกตั้ง: จะก้าวไปข้างหน้าหรือย่ำอยู่กับที่?
หลังจากคลื่นดราม่าเริ่มซาลง สิ่งที่สำคัญคือการติดตามผลงานของทีมบริหารชุดใหม่ว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของชาวตำบลธัญบุรีได้มากแค่ไหน ทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ และการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริงว่า “หญ้าหวาน” ที่นายกเบี้ยวกล่าวถึงนั้น เป็นคำเปรียบเปรยในแง่ดี หรือเพียงแค่ถ้อยคำชั่ววูบที่ก่อกระแสวิจารณ์เท่านั้น






















