ทำไมโควิดระบาดอีก? เจาะสาเหตุคนติดพุ่งในรอบล่าสุด

โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ยังน่าห่วง! สธ.เผยยอดป่วยสัปดาห์เดียว 7,013 ราย เสียชีวิต 1 ราย – เตือนกลุ่มเสี่ยง 608 ระวังพิเศษช่วงเปิดเทอม

วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 – กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดย นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยสถานการณ์ล่าสุดของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งแม้สถานการณ์จะไม่ถึงขั้นน่าตระหนก แต่ยังคงต้องจับตามอง โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศเพิ่งผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์มาไม่นาน และกำลังจะเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งมีแนวโน้มทำให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

โควิด-19 ยังระบาดต่อเนื่อง – เด็กเล็กเสี่ยงติดเชื้อสูงสุด

จากรายงานของกรมควบคุมโรคในช่วง วันที่ 4–8 พฤษภาคม 2568 มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จำนวน 7,013 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่:

กลุ่มอายุ 0 – 4 ปี

รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 30 – 39 ปี

และกลุ่มอายุ 20 – 29 ปี

ส่วนผู้เสียชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อรวมตัวเลขผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 8 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 41,197 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย

ปัจจัยที่ทำให้ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง

กรมควบคุมโรคได้วิเคราะห์ว่า แม้โควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่การระบาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยสัมพันธ์กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น:

- กิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น เทศกาลต่าง ๆ การเดินทางท่องเที่ยว งานสัมมนา หรือกิจกรรมในที่สาธารณะ

- ฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง เชื้อไวรัสมีแนวโน้มแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

- การเปิดภาคเรียน ซึ่งจะมีการรวมตัวของเด็กและเยาวชนในโรงเรียน ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดมากขึ้น

ถึงแม้ว่าในขณะนี้แนวโน้มผู้ป่วยรายสัปดาห์เริ่มลดลง แต่ยังคงมีการพบผู้ป่วยรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

ไข้หวัดใหญ่ก็ระบาดไม่แพ้กัน – เด็กวัยเรียนติดเชื้อสูงสุด

นอกจากโควิด-19 แล้ว กรมควบคุมโรคยังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของ ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งพบว่าในปีนี้มีผู้ป่วยสูงกว่าค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 8 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสมแล้ว 322,991 ราย หรือมีอัตราป่วย 497.58 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 43 ราย

ช่วงเวลาที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ เทศกาลสงกรานต์ (13–26 เมษายน 2568) ซึ่งมีการเดินทางและกิจกรรมรวมกลุ่มมากขึ้น และถึงแม้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยจะเริ่มลดลง แต่ยังอยู่ในระดับที่ สูงกว่าค่าปกติ

กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่:

กลุ่มอายุ 5 – 9 ปี

รองลงมาคือ 0 – 4 ปี

และกลุ่มอายุ 10 – 14 ปี

กลุ่มเสี่ยง 608 ต้องระวังเป็นพิเศษ

กลุ่มที่เรียกว่า “608” หมายถึงกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ได้แก่:

1. ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)

2. ผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ

3. ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

จากข้อมูลผู้เสียชีวิตโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่ม 608 ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปถึงกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

แนวทางการป้องกัน: อย่าชะล่าใจ แม้สถานการณ์ไม่รุนแรง

แม้ว่าโควิด-19 จะไม่ได้อยู่ในสถานะฉุกเฉินอีกต่อไป แต่การ์ดต้องไม่ตก โดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอมและฤดูฝนที่ใกล้เข้ามา นายแพทย์ภาณุมาศ ได้เน้นย้ำว่า ประชาชนควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่:

- สถานที่แออัด หรือที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก

- สถานที่ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หรือในการเดินทางสาธารณะ

คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป

เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทั้งโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเคร่งครัด:

- สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ

- ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ

- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีอาการป่วย

- ตรวจหาเชื้อด้วย ATK หากมีอาการสงสัยว่าติดเชื้อ

หากผลตรวจเป็นบวก ควรรีบพบแพทย์ทันที และแยกตัวจากผู้อื่นโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608

หลีกเลี่ยงการนำเชื้อกลับไปสู่บ้านหรือคนในครอบครัว โดยเฉพาะหากมีผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวอยู่ด้วย

สายด่วนสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

หากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

สรุป: ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่ารักษา

แม้ในภาพรวมสถานการณ์จะไม่ได้รุนแรงเท่ากับช่วงก่อนหน้า แต่ด้วยความที่โควิด-19 ยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่ทุกสัปดาห์ และไข้หวัดใหญ่ก็มีแนวโน้มสูงกว่าค่ามัธยฐาน จึงควรให้ความสำคัญกับการป้องกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญเช่น เปิดภาคเรียนและฤดูฝนที่จะมาถึง

การดูแลสุขภาพตนเอง และป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 คือสิ่งสำคัญที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้