ไม่จบง่าย! Azealia Banks วิจารณ์ Lisa ยังไม่พอ ลามถึงดูถูกห้องน้ำไทย ชาวเน็ตเดือดจัด!
Azealia Banks จุดชนวนดราม่าอีกครั้ง! พุ่งเป้าใส่ “ลิซ่า BLACKPINK” แถมดูถูกประเทศไทย ชาวเน็ตไทยลุกเป็นไฟ!
ในโลกของโซเชียลมีเดียที่ข้อมูลสามารถแพร่กระจายได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ดราม่าระดับโลกมักเริ่มต้นจากข้อความเพียงไม่กี่ประโยค เช่นเดียวกับเหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้แฮชแท็กเกี่ยวกับ “Azealia Banks” และ “ลิซ่า BLACKPINK” ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปทั่วโลกอย่างร้อนแรง ภายหลัง Azealia Banks แร็ปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน จุดประเด็นโจมตีศิลปินเกาหลีเชื้อสายไทยอย่าง ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างรุนแรงและไร้มารยาท โดยไม่ได้มีเพียงแค่การเหน็บแนมบุคคลเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงการ ดูหมิ่นประเทศไทย และ วิพากษ์วิจารณ์วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนไทย อย่างหยาบคาย จนทำให้ชาวเน็ตไทยออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง
จุดเริ่มต้นของดราม่า: เมื่อ Azealia Banks พุ่งเป้ามาที่ "ลิซ่า"
ดราม่าครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อ Azealia Banks โพสต์ข้อความผ่าน Instagram Stories พาดพิงถึงลิซ่า BLACKPINK โดยใช้ถ้อยคำในเชิงดูถูกและเหยียดเชื้อชาติ แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรงในตอนแรก แต่เนื้อหาที่กล่าวถึงกลับมุ่งเป้าไปยัง "ศิลปินหญิงเอเชียที่ดังระดับโลก และมาจากประเทศที่ยังล้าหลังเรื่องสุขาภิบาล" ซึ่งหลายคนตีความว่าเป็นการพุ่งเป้าไปยังลิซ่า BLACKPINK อย่างชัดเจน เพราะเธอเป็นศิลปินหญิงไทยเพียงไม่กี่คนที่โด่งดังในระดับโลกในช่วงเวลานี้
ข้อความของ Azealia ยังมีเนื้อหาบางตอนที่สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่ง เช่น:
“ครึ่งหนึ่งของประเทศไทยไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมและต้องจัดการน้ำเสียด้วยตนเอง ฮ่าๆ อย่างน้อยเราก็มีห้องน้ำ พวกคุณอาบน้ำและแปรงฟันในถังเดียวกัน พวกคุณไม่มีทางชนะหรอก ฉันแนะนำให้คุณเงียบ”
ข้อความนี้ไม่เพียงแค่โจมตีศิลปินเท่านั้น แต่ยังเหยียดหยามทั้งประเทศ สร้างความโกรธเคืองให้กับชาวเน็ตไทยและแฟนคลับ BLACKPINK ทั่วโลกอย่างมหาศาล
ประวัติของ Azealia Banks กับดราม่าในอดีต
การที่ Azealia Banks ตกเป็นข่าวในประเด็นดราม่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีในวงการ เธอมีปัญหากับศิลปินและคนดังจำนวนมากทั้งในวงการเพลงและวงการบันเทิงโดยรวม โดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดียในการปล่อยข้อความเหน็บแนม หรือโพสต์ในลักษณะเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ หรือดูหมิ่นวัฒนธรรมผู้อื่น
รายชื่อของผู้ที่เคยมีประเด็นกับ Azealia นั้นมีจำนวนไม่น้อย เช่น:
Nicki Minaj – เคยกล่าวหาว่าทำลายภาพลักษณ์ของผู้หญิงผิวดำในวงการแร็ป
Cardi B – มีศึกน้ำลายผ่านทวิตเตอร์ ทั้งในเรื่องทัศนคติและภาพลักษณ์
Iggy Azalea – ศึกดุเดือดที่ลากยาวมาหลายปีเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการเหยียด
Rihanna – เคยปะทะกันเรื่องการเมือง และมีการแขวะกันผ่าน IG Stories
Elon Musk และ Grimes – เธอเคยโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของทั้งสอง จนเกือบถูกฟ้อง
Lizzo – เคยแซะเรื่องรูปร่างและแนวทางเพลง
Beyoncé – แม้ไม่รุนแรงเท่ารายอื่น แต่เธอเคยวิจารณ์ว่า Beyoncé ทำตัวเหนือกว่าศิลปินผิวดำคนอื่น
Doja Cat – วิจารณ์เรื่องสไตล์และบุคลิกที่ “ไม่เข้าตา”
เหตุผลที่แฟนคลับลิซ่าทั่วโลกพร้อมใจลุกขึ้นปกป้อง
ลิซ่า BLACKPINK ไม่ใช่แค่ศิลปินสาวชาวไทยที่โด่งดังเท่านั้น แต่เธอยังเป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ในหลายประเทศ ด้วยเส้นทางการทำงานที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ลิซ่าฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจากเด็กหญิงที่ฝันอยากเป็นนักร้อง สู่นักเต้นหลักและแร็ปเปอร์ของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดังที่สุดในโลกอย่าง BLACKPINK และล่าสุด เธอยังเริ่มก้าวเข้าสู่ระดับศิลปินเดี่ยวระดับอินเตอร์ ทำงานกับศิลปินและแบรนด์ระดับโลกอย่างแท้จริง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้แฟนคลับทั่วโลกพร้อมใจกันใช้แฮชแท็ก #RespectLisa และ #ApologizeToThailand ขึ้นเทรนด์ในหลายประเทศ และมีการเรียกร้องให้ Azealia Banks ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ
ชาวเน็ตไทยหัวร้อน! พร้อมแฉกลับด้วยข้อเท็จจริง
หลังจากข้อความของ Azealia ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตไทยไม่ได้นิ่งเฉย และได้ออกมาตอบโต้ด้วยข้อมูลจริงเรื่องระบบสุขาภิบาลของไทย พร้อมนำเสนอภาพและบทวิเคราะห์ในเชิงเปรียบเทียบเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตในไทยและบางเมืองในอเมริกา โดยเฉพาะการนำประเด็นคนไร้บ้านและปัญหาสุขาภิบาลในนิวยอร์กกลับมาโต้แย้ง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการรื้อฟื้นประเด็นเก่าของ Azealia ที่เคยมีพฤติกรรมเหยียดหลายเชื้อชาติ และนำไปตั้งคำถามว่าเหตุใดเธอยังสามารถใช้โซเชียลมีเดียได้โดยไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ จากแพลตฟอร์ม
บทสรุป: โซเชียลมีเดียไม่ใช่สนามเด็กเล่น
กรณีของ Azealia Banks เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้โซเชียลมีเดียอย่างไม่มีความรับผิดชอบ และผลลัพธ์คือแรงสะท้อนกลับอย่างรุนแรงจากสังคมโลก แม้ว่าเธอจะมีชื่อเสียงในเรื่อง “การปากกล้า” แต่การโจมตีบุคคลหนึ่งโดยไร้เหตุผล และลามไปถึงการดูหมิ่นประเทศทั้งประเทศ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นเพียง “สไตล์การตลาด” ของศิลปิน
ในขณะที่โลกพยายามเคลื่อนไปในทิศทางของความเข้าใจและการเคารพซึ่งกันและกัน การย้อนกลับมาใช้ความเกลียดชังเป็นอาวุธ ไม่เพียงแต่ทำร้ายเป้าหมาย แต่ยังทำลายภาพลักษณ์ของผู้กระทำเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้















