เหตุปะทะชายแดนลาวสะเทือนใจ! ฐานทหารถูกยึด-พลเรือนหนีตาย ด้านรัฐบาลยังเงียบ?
ใครที่ติดตามสถานการณ์บ้านใกล้เรือนเคียง คงต้องสะดุดใจกับเหตุการณ์ร้อนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารของรัฐบาลลาวกับกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองปากทา ที่เป็นแนวชายแดนติดกับไทย!
เสียงปืนกลางดึก ผู้คนอพยพ สะเทือนถึงภูชี้ฟ้า
ตามรายงานของชาวบ้านในพื้นที่ และจากคลิปวิดีโอที่หลุดออกมาทางโซเชียลในลาว เผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ยิงปะทะยามค่ำคืน เสียงปืนดังสนั่นอยู่เป็นระยะ หลายครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่ด้วยความหวาดกลัว โดยมีรายงานว่าทหารลาวบางส่วนเสียชีวิต และฐานบางแห่งถูกกลุ่มติดอาวุธเข้ายึดไว้ได้จริง!
เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงขนาดที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ของไทย ต้องประกาศปิดบางจุด เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะใกล้จุดที่มีเหตุความไม่สงบ!
ทูตสหรัฐเตือนภัย-ชาวลาววิจารณ์รัฐบาล
สิ่งที่น่าสนใจคือ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในลาว ได้ออกประกาศเตือนพลเมืองของตน ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว โดยบอกเป็นนัยว่า “อาจมีอันตราย” ซึ่งขัดแย้งกับท่าทีของรัฐบาลลาวที่ยังคง “เงียบกริบ” ไม่มีแถลงการณ์หรือคำอธิบายชัดเจนแต่อย่างใด
ขณะที่โลกออนไลน์ของชาวลาวก็เริ่มไม่ทน หลายโพสต์วิจารณ์แรงถึงการจัดการของรัฐ และมีการแชร์คลิปพร้อมข้อความว่า “ประชาชนไม่รู้จะเชื่อใคร เมื่อรัฐไม่พูดความจริง”
กลุ่มติดอาวุธคือใคร? แค่ค้ายาหรือมีเบื้องหลังทางการเมือง?
ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครยืนยันชัดเจนว่ากลุ่มที่เข้าปะทะกับทหารลาวเป็นใครกันแน่ บางแหล่งข่าวบอกว่าเป็น “ขบวนการค้ายา” ที่มีอาวุธหนัก ขณะที่อีกกระแสบอกว่าเป็น “กลุ่มกองกำลังติดอาวุธลึกลับ” ซึ่งอาจมีเบื้องหลังเกี่ยวกับการเมืองภายในลาว!?
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความมั่นคงชายแดน แต่สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันในประเทศที่อาจกำลังเดือดเงียบ โดยเฉพาะเมื่อประชาชนเริ่มตั้งคำถามกับความโปร่งใสของรัฐ
ท้ายที่สุด... ใครได้ ใครเสีย?
เรื่องนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่านั้นใน สปป.ลาว หรือจะถูกกลบฝังในความเงียบตามสไตล์ของรัฐที่ควบคุมข้อมูลข่าวสารอย่างเข้มงวด? คำตอบคงต้องใช้เวลา แต่ตอนนี้ “พรมแดนไทย-ลาว” กลับมาเป็นจุดร้อนอีกครั้ง และคนไทยเองก็ควรจับตาไว้ให้ดี
หากคุณสนใจความจริงอีกด้านจากฝั่งลาว อย่าลืมกดแชร์กระทู้นี้ไว้เป็นข้อมูล เผื่อวันหนึ่งเราจะได้รู้ว่า “ความเงียบ” ไม่ได้หมายความว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”















