วันพืชมงคล 2568 พระโคเสี่ยงทายกินครบ 3! น้ำ หญ้า เหล้า บอกลางดีหรือลางร้าย?
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2568 พระยาแรกนาเสี่ยงทายได้ผ้า 5 คืบ - พระโคกินน้ำ หญ้า เหล้า พยากรณ์น้ำท่าบริบูรณ์-เศรษฐกิจรุ่ง
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยได้จัดพระราชพิธีสำคัญประจำปี “พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ” ขึ้น ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีอันเป็นสิริมงคลนี้ ซึ่งนับเป็นขนบธรรมเนียมอันทรงคุณค่า สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทยมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี เพื่อเสริมขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรทั่วประเทศ รวมถึงเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูกอย่างเป็นทางการ
พระราชพิธีพืชมงคล - สาระสำคัญแห่งความเป็นมงคลของชาติ
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ แบ่งออกเป็นสองส่วนสำคัญ ได้แก่
1. พระราชพิธีพืชมงคล - เป็นพิธีฝ่ายสงฆ์ที่จัดขึ้นก่อนหนึ่งวัน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เพื่อทรงเจริญพระพุทธมนต์และถวายขวัญพืชพันธุ์ธัญญาหาร ให้การเพาะปลูกในปีนั้นอุดมสมบูรณ์
2. พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ - เป็นพิธีพราหมณ์ที่จัดในวันที่ 9 พฤษภาคม บริเวณท้องสนามหลวง มีการไถหว่านข้าวเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก
พิธีนี้นอกจากจะมีความหมายเชิงพิธีกรรมและจิตวิญญาณแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณให้เกษตรกรทั่วประเทศเตรียมเข้าสู่ช่วงเพาะปลูกอย่างพร้อมเพรียง พร้อมทั้งพยากรณ์แนวโน้มด้านน้ำฝน ผลผลิต และเศรษฐกิจการเกษตร
ผู้รับหน้าที่พระยาแรกนาและเทพีหาบทอง-หาบเงิน
ในปี 2568 นี้ ผู้ได้รับเกียรติทำหน้าที่ “พระยาแรกนา” คือ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในพิธี เสมือนตัวแทนของชาวนาไทย ประกอบพิธีไถหว่าน และทำการเสี่ยงทายเพื่อพยากรณ์เกี่ยวกับปริมาณน้ำและผลผลิตของปีนั้น
ขบวนแห่อิสริยยศของพระยาแรกนาได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงความสำคัญของพิธีกรรมนี้ พร้อมด้วย “เทพีหาบทอง” และ “เทพีหาบเงิน” ซึ่งเป็นสตรีจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ได้แก่
เทพีหาบทอง:
นางสาวชิรดา วงษ์กุดเลาะ
นางสาววราภรณ์ วิลัยมาตย์
เทพีหาบเงิน:
นางสาวฉันทิสา อารีเสวต
นางสาวอภิชญา ฟูแสง
พระโคแรกนา - ผู้ร่วมพยากรณ์อนาคตการเกษตร
สำหรับพระโคแรกนาประจำปีนี้ ได้แก่ “พระโคพอ” และ “พระโคเพียง” ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งด้านสรีระ สุขภาพ และอายุ โดยทั้งคู่มีอายุ 13 ปี ถือเป็นโคพันธุ์ขาวลำพูนที่ถูกเลี้ยงดูอย่างดีภายใต้การดูแลของกรมปศุสัตว์ นอกจากนี้ ยังมีพระโคสำรองคือ “พระโคเพิ่ม” และ “พระโคพูล”
หนึ่งในจุดเด่นของพิธีคือ “การเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง” ที่ตั้งเลี้ยงให้พระโคเลือกกิน ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ถั่วเขียว งา น้ำ หญ้า และเหล้า ซึ่งผลการเสี่ยงทายในปีนี้พบว่า พระโคกินน้ำ หญ้า และเหล้า ซึ่งพยากรณ์ได้ว่า
น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร
ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
การคมนาคมสะดวก การค้าขายกับต่างประเทศจะดีขึ้น
เศรษฐกิจโดยรวมจะรุ่งเรือง
เสี่ยงทายผ้านุ่งของพระยาแรกนา - สะท้อนแนวโน้มฝนฟ้าอากาศ
อีกหนึ่งไฮไลต์คือ “การเสี่ยงทายผ้านุ่ง” ซึ่งพระยาแรกนาจะหยิบผ้าลาย 1 ผืน จากทั้งหมด 3 ผืน ซึ่งแต่ละผืนมีความหมายต่างกันเกี่ยวกับระดับน้ำฝน ดังนี้
ผ้า 4 คืบ: น้ำมาก นาดอนดี นาลุ่มอาจเสีย
ผ้า 5 คืบ: น้ำพอดี ข้าวกล้าได้ผลดีทุกพื้นที่
ผ้า 6 คืบ: น้ำน้อย นาลุ่มดี แต่นาดอนอาจเสียหาย
ผลเสี่ยงทายในปีนี้ พระยาแรกนา หยิบได้ผ้า 5 คืบ ซึ่งเป็นลางดี พยากรณ์ว่าปีนี้น้ำจะมีระดับพอเหมาะ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวและพืชอื่น ๆ จะสมบูรณ์ทั่วถึง และมังสาหารจะอุดมสมบูรณ์
พันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน - จุดเริ่มต้นของความอุดมสมบูรณ์
ในงานพระราชพิธีปีนี้ กรมการข้าวได้รับพระบรมราชานุญาตให้นำ “พันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน” ซึ่งเป็นข้าวที่ปลูกในโครงการนาทดลอง สวนจิตรลดา ปี 2567 มาใช้ในพิธีและแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น
พันธุ์ข้าวนาสวน (5 ชนิด): ขาวดอกมะลิ 105, กข 79, กข 85, กข 99 (หอมคลองหลวง 72), กขจ 1 (วังทอง 72)
พันธุ์ข้าวเหนียว (2 ชนิด): กข 6 และ กข 24 (สกลนคร 72)
รวมทั้งสิ้น 4,880 กิโลกรัม บรรจุในซองพลาสติก แจกจ่ายเป็นมิ่งขวัญให้แก่เกษตรกร นับเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สะท้อนพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงที่ทรงห่วงใยต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร
บทสรุป: ความหวังแห่งฤดูเพาะปลูกใหม่
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงประเพณีที่ยึดโยงชาวไทยกับแผ่นดินและวิถีการเกษตร หากยังเป็นการประกาศถึงความพร้อมของประเทศในด้านทรัพยากรน้ำ การบริหารจัดการเกษตร และเศรษฐกิจโดยรวม
ปีนี้ด้วยผลเสี่ยงทายที่บ่งชี้ถึงน้ำที่พอดี ความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล รวมถึงการค้าขายที่ดีขึ้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับประเทศไทย ที่จะก้าวเดินสู่ฤดูกาลแห่งการเพาะปลูกใหม่อย่างมั่นใจ ภายใต้ความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน





















