เอฟเฟกต์เกือบทำเสียโฉม! ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ แพ้หนัก หน้าพังจนต้องรักษา
"ปุ๊กลุก ฝนทิพย์" ทุ่มสุดตัว! รับบทฝาแฝดในละคร "รักสลับสาย" เจอพิษเอฟเฟกต์แต่งหน้าแพ้หนักจนต้องพักถ่าย ทีมงานเร่งปรับคิว 3 เดือนเต็มเพื่อถนอมผิวดารา
ในโลกของวงการบันเทิง การแสดงเป็นหนึ่งในศาสตร์ที่ต้องใช้ทั้งทักษะ ความสามารถ และความอดทนอย่างสูง ซึ่งนักแสดงแต่ละคนต้องเผชิญกับความท้าทายแตกต่างกันไป และหนึ่งในเรื่องราวที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในขณะนี้ก็คือ ความทุ่มเทเกินร้อยของ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” นักแสดงสาวมากฝีมือที่รับบทบาทสุดท้าทายในละครเรื่อง “รักสลับสาย” กับบทฝาแฝดที่มีรูปร่างต่างกันสุดขั้ว — คนหนึ่งผอมเพรียว อีกคนอ้วนท้วม โดยต้องใช้งานเอฟเฟกต์หนักทุกวันเพื่อแปลงโฉมให้ได้ภาพตรงตามบท ซึ่งทำให้เธอเผชิญกับผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดจากการแต่งหน้าเอฟเฟกต์อย่างรุนแรง
ต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงในการแปลงโฉมแต่ละครั้ง
บทบาทฝาแฝดที่ต่างกันมากทั้งรูปร่างและลักษณะ ทำให้ทีมงานต้องใช้การแต่งหน้าเอฟเฟกต์ (Special Effects Makeup) อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในบทของฝาแฝดที่มีรูปร่างอ้วน ซึ่งต้องใช้โฟม ซิลิโคน และกาวพิเศษในการติดอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ บนใบหน้าและร่างกาย ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงต่อวันในการแต่งเอฟเฟกต์นี้ เรียกได้ว่าการเตรียมตัวก่อนเข้าฉากในแต่ละวันเป็นภารกิจใหญ่ที่ต้องอดทนทั้งทางร่างกายและจิตใจ
แพ้กาวแต่งหน้า อาการหนักถึงขั้นบวมแดง-มีหนองใต้ตา
แม้จะมีความตั้งใจและอดทนมากแค่ไหน แต่ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ก็ไม่สามารถต้านทานผลกระทบจากสารเคมีในเครื่องมือแต่งเอฟเฟกต์ได้ โดยล่าสุดมีรายงานว่าเธอเกิดอาการแพ้กาวชนิดพิเศษที่ใช้ในการติดอุปกรณ์แต่งเอฟเฟกต์ จนอาการลุกลามอย่างรุนแรง ใต้ตาบวมแดง เห่อ และเกิดหนอง ซึ่งไม่ใช่อาการแพ้เพียงเล็กน้อยทั่วไป แต่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผิวหนังอย่างเร่งด่วน
แพทย์สั่งห้ามแต่งเอฟเฟกต์ทุกวัน ต้องเว้นระยะเวลาเพื่อให้ผิวฟื้นตัว
หลังเข้ารับการตรวจจากแพทย์เฉพาะทาง ปรากฏว่าอาการแพ้ของนักแสดงสาวอยู่ในระดับที่น่ากังวล โดยแพทย์มีคำแนะนำอย่างเด็ดขาดว่า ห้ามแต่งเอฟเฟกต์ทุกวัน เพราะจะทำให้อาการแย่ลง และอาจกลายเป็นการอักเสบเรื้อรังที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาว จึงสั่งให้มีการเว้นระยะการแต่งหน้าอย่างน้อย 2 วัน เพื่อให้ผิวหนังมีเวลาฟื้นฟูตามธรรมชาติ
ทีมงานต้องเลื่อนการถ่ายทำจาก 2 เดือน เป็น 3 เดือนเพื่อดูแลนักแสดง
เมื่อได้รับคำสั่งจากแพทย์ ทีมผู้จัดละคร "รักสลับสาย" ไม่ลังเลที่จะเร่งหารือและปรับแผนการถ่ายทำใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับสุขภาพของปุ๊ กลุก ฝนทิพย์ โดยจากเดิมที่วางแผนถ่ายทำให้เสร็จภายใน 2 เดือน ก็ต้องขยายระยะเวลาออกไปเป็น 3 เดือนเต็ม ๆ เพื่อให้สามารถเว้นช่วงระหว่างวันถ่ายทำและวันพักผิวได้ตามคำแนะนำของแพทย์ นับเป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสวัสดิภาพของนักแสดง และคุณภาพของงานที่ต้องสมบูรณ์แบบควบคู่กันไป
แม้เจอปัญหา แต่ "ปุ๊กลุก ฝนทิพย์" ยังไม่ยอมแพ้!
แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคและผลกระทบต่อร่างกาย แต่สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งคือสปิริตของปุ๊ กลุก ฝนทิพย์ ที่ยังคงยืนยันจะสู้ต่อกับบทบาทนี้ เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ถึงแม้มันจะหนัก แต่ก็รู้สึกว่าบทนี้ท้าทายมาก เป็นโอกาสที่หาได้ไม่ง่าย และอยากจะทำออกมาให้ดีที่สุด” คำพูดนี้สะท้อนถึงหัวใจของคนที่รักการแสดงอย่างแท้จริง และเป็นแรงบันดาลใจให้คนในวงการรวมถึงแฟนละครทั่วประเทศ
"รักสลับสาย" กับความคาดหวังจากผู้ชมทั่วประเทศ
ละคร “รักสลับสาย” เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ฟอร์มใหญ่ที่ได้รับความสนใจตั้งแต่เริ่มเปิดกล้อง ด้วยบทบาทฝาแฝดที่มีคาแรกเตอร์ต่างกันสุดขั้ว ทั้งเรื่องรูปร่าง บุคลิก และอารมณ์ ยิ่งทำให้ผู้ชมเฝ้ารอชมผลงานการแสดงของนักแสดงสาวปุ๊ กลุก ฝนทิพย์ ที่ต้องสลับบทบาทระหว่างสองตัวละครตลอดทั้งเรื่อง
บทหนึ่งคือหญิงสาวผอมเพรียว มั่นใจ เป็นตัวแทนของคนที่ดูดีในสายตาสังคม ขณะที่อีกบทคือหญิงสาวรูปร่างอ้วน อ่อนไหว ขี้กลัว และถูกมองข้าม เรื่องราวเหล่านี้สะท้อนปัญหาสังคมและกรอบความคิดที่ตีค่า “รูปลักษณ์ภายนอก” ได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเมื่อมาผสมกับการแสดงแบบเอฟเฟกต์เต็มรูปแบบ ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและความท้าทายให้กับละครเรื่องนี้มากขึ้น
แฟนคลับแห่ให้กำลังใจผ่านโซเชียล
หลังจากมีข่าวอาการแพ้เอฟเฟกต์แพร่สะพัดในโลกโซเชียล เหล่าแฟนคลับต่างก็รวมตัวกันแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจให้กับนักแสดงสาวอย่างล้นหลาม หลายคนโพสต์ข้อความให้กำลังใจ เช่น “สู้ ๆ นะคะพี่ปุ๊ เป็นห่วงมาก” “ขอให้หายไว ๆ จะรอดูผลงานพี่ปุ๊แน่นอน” พร้อมแชร์เรื่องราวการทุ่มเทของเธอออกไปเป็นวงกว้าง
สรุป: ความทุ่มเทที่มากกว่าการแสดง คือหัวใจของศิลปินตัวจริง
เรื่องราวของปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ไม่ใช่แค่การแสดงหรือการแต่งเอฟเฟกต์เท่านั้น แต่มันคือบทพิสูจน์ของคนที่รักในสิ่งที่ทำ พร้อมจะสู้และอดทนเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แม้ต้องเจอกับอุปสรรคทางร่างกาย เธอยังคงยืนหยัดในบทบาทของตนเองด้วยใจที่แน่วแน่ ละคร “รักสลับสาย” จึงไม่ใช่แค่ละครอีกหนึ่งเรื่อง แต่คือผลงานที่สะท้อนพลังของนักแสดงหญิงคนหนึ่งที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คน














