บริษัทอสังหาฯ จีนเป็นของรัฐ แล้วไทยจะสู้ไหวรึ
ตึกระฟ้าใหญ่ๆ ในประเทศจีนนั้น ดูใหญ่โตมากมาย ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของบริษัทจีนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของหรือรัฐวิสาหกิจจีน ท่านเชื่อหรือไม่จีนมีรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 391,000 แห่งทั้งในระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น ส่วนหนึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินและรับเหมาก่อสร้าง
หลังจากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เราจึงทราบว่าบริษัทรับเหมา (ช่วง) เป็นบริษัทจีน บ้างก็ว่าเป็นจีนเทา แต่ความจริงแล้วเป็นบริษัท China Railway ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่อันดับต้นๆ ของจีนที่กำเนิดมาจากการรถไฟจีนและรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในลักษณะเป็นรัฐวิสาหกิจ (State-owned Enterprises) หรือบริษัทที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ
เราจึงควรมาดูกิจการของบริษัทจีนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของกัน ทั้งนี้ประเทศสังคมนิยมเช่นโซเวียตในยุคก่อน จีน เวียดนามต่างมีบริษัทที่ถือเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเจ้าของคือรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นรัฐบาลส่วนกลางหรือส่วนท้องถิ่นก็ได้ กล่าวกันว่า ณ สิ้นปี 2562 รัฐวิสาหกิจของจีนคิดเป็น 4.5% ของเศรษฐกิจโลกและสินทรัพย์รวมของรัฐวิสาหกิจทั้งหมดของจีน รวมถึงที่ดำเนินงานในภาคการเงิน มีมูลค่าถึง 78.08 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 2,660 ล้านล้านบาทบาท
รัฐวิสาหกิจคิดเป็นมากกว่า 60% ของมูลค่าตลาดของจีนในปี 2562 และประมาณการชี้ให้เห็นว่าพวกเขาสร้างรายได้ประมาณ 23-28% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ของจีนในปี 2560 และจ้างงานระหว่าง 5% ถึง 16% ของกำลังแรงงานทั่วประเทศ หากคิดเป็นจำนวนบริษัทก็คงเป็นราว 867,000 แห่ง อย่างตึกใหญ่ๆ ทั้งหลายในมหานครต่างๆ ของจีน ส่วนหนึ่งก็เป็นของบริษัทเหล่านี้ บริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริษัทพัฒนาที่ดินจากส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในจีนก็เป็นรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง ขยายตัวออกไปในขอบเขตทั่วประเทศ
บทบาทสำคัญของบริษัทที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของหรือรัฐวิสาหกิจจีน เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะเห็นได้ว่าระบบรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าใต้ดินมักเป็นผลงานของบริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้ รวมทั้งการสร้างปัญญาประดิษฐ์ พลังงานนิวเคลียร์ และการบิน และอวกาศ รวมทั้งยังเป็นฐานในการขยายตัวออกไปในต่างประเทศ ไปรับเหมาก่อสร้าง (เช่นที่มาสร้างตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน) หรือกิจการที่ไปมีอิทธิพลอย่างมากในอาฟริกา ก็มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลจีนแทบทั้งสิ้น รัฐบาลจีนทำมาหากินเป็นและเก่ง รัฐบาลไทยหรือรัฐบาลประเทศอื่นๆ คงสู้ไม่ได้
ทำไมจีนจึงสามารถดูดเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาไว้ในจีน เช่น รถไฟความเร็วสูง การก่อสร้างที่ซับซ้อนต่างๆ ก็เพราะวิสาหกิจที่จะเข้ามาทำธุรกิจในจีน ต้องร่วมทุนหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับวิสาหกิจ (ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ) และบริษัทเหล่านี้พร้อมใจกันใช้มาตรการแบบนี้โดยการสนับสนุนของรัฐบาล ไม่มีใครฉวยโอกาสลักไก่ได้ อาจถือได้ว่ารัฐบาลจีนกุมเศรษฐกิจและอำนาจในการต่อรองกับต่างประเทศ ซึ่งข้อนี้แตกต่างอย่างมากกับไทยที่ภาคเอกชนไทยไม่ใช่ของรัฐบาล (แต่เป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจเป็นเครื่องมือของเอกชน)
ในปัจจุบันบริษัทจีนเหล่านี้คือหัวหอกในการออกไปขยายอิทธิพลทางการค้าได้ทั่วโลก ตามด้วยกลุ่ม SMEs ในจีนที่ต้องย้ายออกนอกประเทศบ้างเพื่อตระเตรียมการทำสงครามการค้ากับประเทศจีน จีนจึงขยายอิทธิพลทั้งทางการเงิน การส่งออกประชากรไปทั่วโลก กระแสการไหลบ่าของประชากรอาจเกิดขึ้นอีก เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ประชากรจีนย้ายออกเพราะความอดอยากขัดสน แต่ในยุคใหม่นี้รัฐบาลนำพาประชากรย้ายออกเพื่อไปยึดหัวหาดทั่วโลก
ในด้านอสังหาริมทรัพย์ คนจีนถูกปลูกฝังให้เป็นเจ้าของบ้านหรือส่วนมากคือห้องชุด เพราะบ้านแนวราบแท้ๆ แพงมากๆ ต้องเป็นเศรษฐีจริงๆ จึงจะหาซื้อได้ ดังนั้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจ ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไม่แตกต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่พูดถึงความฝันของชาวอเมริกัน (American Dream) คือการมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง ดังนั้นบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทของจีนจึงเติบโตมาก เช่น บริษัทรถไฟ China Railway ก็เป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาที่ดินและบริษัทรับเหมาที่พัฒนาที่ดินในนครใหญ่น้อยในประเทศจีน แข่งกับนักพัฒนาที่ดินท้องถิ่น ซึ่งก็คงมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นรัฐวิสาหกิจระดับท้องถิ่นด้วย
บริษัทพัฒนาที่ดินยักษ์ใหญ่ของจีน 6 อันดับแรกในปี 2567 ล้วนเป็นบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของหรือได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เช่น Poly Developments, China Vanke และ China Overseas Land & Investment อยู่ในอันดับสูงสุดเช่นกัน อย่างบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดในจีน Country Garden ซึ่งผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรมูลค่า 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนตุลาคม ร่วงลงจากอันดับ 1 ในปี 2565 มาอยู่ที่อันดับ 7 เนื่องจากยอดขายลดลง 53% เหลือ 220,000 ล้านหยวน (30,900 ล้านเหรียญสหรัฐ)
แต่เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ Evergrande ผิดนัดชำระหนี้ ต่อด้วยผู้พัฒนารายอื่นๆ ที่มีหนี้สินจำนวนมากที่เล็กกว่าและผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะวิกฤตมากขึ้น ส่งผลให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ หยุดชะงักและร้างลง และมีบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จเป็นจำนวนมาก ยิ่งมาพบการระบาดของโรค COVID-19 ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง ความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ลดลงและปัญหาอุปทานล้นตลาดก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนในที่สุดมีบ้านที่สร้างเสร็จแต่ไม่มีคนอยู่ในประเทศจีนถึง 50 ล้านหน่วย (ไทยมี 1.3 ล้านหน่วย เกาหลี 1.5 ล้านหน่วย ญี่ปุ่น 8.9 ล้านหน่วย)
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปี 2567 ตลาดเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวบ้างตั้งแต่เดือนตุลาคม เนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ การฟื้นตัวนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2568 แต่นับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2568 สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ในอัตราที่สูงมาก ก็จึงคาดการณ์ได้ว่ายอดขายบ้านในจีนจะลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ก็คาดว่ารัฐบาลจีนจะเร่งดำเนินมาตรการผ่อนปรนเพื่อฟื้นฟูและทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีเสถียรภาพ หากแนวโน้มของภาคส่วนนี้แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ และรัฐวิสาหกิจอสังหาริมทรัพย์จีน ก็คงต้องออกสู่ต่างประเทศมากขึ้น ประเทศไทยก็อาจเป็นเป้าหมายหนึ่ง ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงพึงระวัง
บริษัทพัฒนาที่ดินไทยที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกรวมกันพัฒนาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพียง 260,540 ล้านบาท หรือ 7.663 พันล้านเหรียญสหรัฐ ยังน้อยกว่าบริษัทอันดับที่ 10 ในปี 2566 ที่มีรายได้ถึง 545,407 ล้านบาท หรือ 16.041 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในอนาคต บริษัทพัฒนาที่ดินจีนจะมาแข่งกับไทยอย่างแน่นอน เพราะเศรษฐกิจจีนอาจอ่อนแอลงเพราะสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา บริษัทพัฒนาที่ดินจีนจึงไม่สามารถเติบโตในประเทศได้อีกต่อไป
หากรัฐบาลไทยปล่อยให้บริษัทพัฒนาที่ดินจีนเข้ามาแข่งขัน อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยไทยคงถึงจุดจบ
ที่มา:
- Chinese property developer bonds: reflecting on the sleeper rally and what lies ahead. Improving macro and sector fundamentals could provide an additional boost. Ling Wang, Senior Credit Analyst, Asian Fixed Income, April 16, 2025. https://www.nikkoam.co.nz/articles/2025/chinese-property-developer-bonds-april-2025
- China's state-owned developers dominate sales, land markets in 2023 – surveys. January 2, 2024. https://www.reuters.com/world/china/chinas-state-owned-developers-dominate-sales-land-markets-2023-surveys-2024-01-02/
- Reassessing the Role of State Ownership in China’s Economy. January 15, 2024. https://sccei.fsi.stanford.edu/china-briefs/reassessing-role-state-ownership-chinas-economy
- State-owned enterprises of China. https://en.wikipedia.org/wiki/State-owned_enterprises_of_China
- 12 บริษัทพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดและจุดจบในอนาคต https://www.area.co.th/t/8799













