ไม่จบง่าย! ‘ดิว อริสรา’ เจอฟ้องฉ้อโกงจากแบรนด์ดังปมฉ้อโกง-ปัดข้อเสนอ
“ดิว อริสรา” เจอมรสุมคดีฉ้อโกง! บริษัทแบรนด์เนมยื่นฟ้องตรง ชี้ชัดรับข้อเสนอไม่ได้ – ปมฝากขายสร้อย BVLGARI ที่ไม่ใช่ของตัวเอง
กลายเป็นคดีความที่สั่นสะเทือนวงการบันเทิงและแวดวงธุรกิจสินค้าหรูแบรนด์เนม เมื่อบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด ได้เดินหน้ายื่นฟ้อง “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” นักแสดงสาวชื่อดัง ต่อศาลแขวงปทุมวันในข้อหาฉ้อโกง หลังเกิดกรณีนำเครื่องประดับหรูแบรนด์ดังอย่าง “BVLGARI” มาฝากขาย ทั้งที่ไม่ใช่ทรัพย์สินของตนเอง เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย ทั้งในด้านมูลค่าทรัพย์สินและชื่อเสียงในวงการธุรกิจแบรนด์เนมมือสอง
เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ "คุณเมย์ วาสนา อินทะแสง" นักธุรกิจสาวไฮโซชื่อดังได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอได้ให้ “ดิว อริสรา” ยืมเครื่องประดับแบรนด์เนมหรู รวมมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท เพื่อใช้ในการถ่ายแบบหรือออกงานต่างๆ อย่างไว้เนื้อเชื่อใจในฐานะคนรู้จักในวงการบันเทิง แต่กลับพบว่า หนึ่งในทรัพย์สินคือสร้อยคอ BVLGARI กลับถูกนำไปฝากขายที่บริษัท แบรนด์เนม มันนี่ โดยไม่มีการแจ้งให้เจ้าของทรัพย์ทราบ
บริษัทแบรนด์เนมไม่รอช้า! ดำเนินคดีด้วยตนเอง – ชี้ไม่สามารถยอมรับข้อเสนอผ่อนชำระ
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทนายความ “นายวิฑูรย์ เก่งงาน” พร้อมด้วย “นางสาวณัฐจุฑา ปุณณธนาวัฒน์” ตัวแทนจากบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด ได้เดินทางไปยังศาลแขวงปทุมวัน เพื่อยื่นฟ้องโดยตรงในคดีฉ้อโกงต่อ “ดิว อริสรา” โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ปทุมวันแล้ว แต่เนื่องจากสำนวนคดีมีจำนวนมากและภาระงานของเจ้าหน้าที่สูง จึงตัดสินใจฟ้องศาลเองเพื่อให้คดีดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ
“คดีนี้ไม่ซับซ้อน เราเห็นว่าทุกอย่างมีหลักฐานครบถ้วน ไม่จำเป็นต้องรอการสอบสวนที่อาจล่าช้า” – ทนายวิฑูรย์ กล่าว
เบื้องหลังการฝากขายสร้อย – ต้นเหตุที่ทำให้บริษัทแบรนด์เนมเสียหาย
นางสาวณัฐจุฑา เปิดเผยว่า บริษัทรับซื้อสินค้าจากดิวโดยไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ของบุคคลอื่น และหากรู้แต่ต้นว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของคุณเมย์ วาสนา ทางบริษัทจะไม่มีวันรับฝากขายเด็ดขาด ยืนยันว่าไม่มีเจตนาในการรับซื้อของโจร แต่เป็นการตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงเช่นกัน
เมื่อทราบความจริง ทางบริษัทจึงพยายามติดต่อดิว อริสรา เพื่อให้คืนเงินจำนวน 7 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ทางบริษัทได้โอนให้กับดิวเพื่อรับฝากขายสร้อยดังกล่าว แต่ทางฝั่งดิวกลับเสนอจะคืนเงินต้น 2.5 ล้านบาท และขอผ่อนชำระที่เหลือเดือนละ 100,000 บาท ซึ่งใช้เวลารวมกว่า 4 ปี ทำให้ทางบริษัทมองว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่สามารถยอมรับได้
“ตอนโอนเงินให้เขา เราโอนไปภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่เขากลับจะใช้เวลาถึง 4 ปีในการคืน แบบนี้เราไม่ยอมแน่นอน” – ณัฐจุฑา กล่าว
ปมความเชื่อใจ กลายเป็นความเสียหายมูลค่าหลายล้าน
สำหรับคุณเมย์ วาสนา อินทะแสง เจ้าของตัวจริงของเครื่องประดับดังกล่าว ยังไม่มีการพูดคุยโดยตรงกับดิว อริสราแต่อย่างใด แต่มีทีมทนายของดิวพยายามติดต่อมาเพื่อเจรจาเงื่อนไขการชำระเงินคืน อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งของบริษัทแบรนด์เนมยืนยันว่าไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวได้ และเชื่อว่า หากดิวมีเจตนาจะคืนเงินจริง ควรเสนอเงินก้อนแรกที่มากกว่านี้ เพื่อแสดงความจริงใจ
บริษัทลั่น! เอาเรื่องถึงที่สุด – พร้อมฟ้องแพ่งเพิ่ม
นอกจากการยื่นฟ้องในข้อหาฉ้อโกงต่อศาลแขวงปทุมวันในครั้งนี้ ทางบริษัทยังเตรียมเดินหน้ายื่นฟ้องทางแพ่งต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้หยุดอยู่แค่ในมูลค่าทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชื่อเสียง ความเชื่อมั่นของลูกค้า และความน่าเชื่อถือของธุรกิจในวงกว้าง
“ตามกฎหมายสามารถฟ้องรวมกันได้ แต่แยกฟ้องออกมาต่างหากจะง่ายต่อการจัดการมากกว่า หากมีการเจรจากันก่อน อาจจะไม่ต้องมีการฟ้องซ้ำซ้อน” – ทนายวิฑูรย์ระบุ
กระแสโซเชียลวิพากษ์หนัก – เสื่อมศรัทธาในคนดังที่เคยเป็นไอดอล
หลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป โลกโซเชียลต่างแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หลายคนรู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมของคนดังที่เคยได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ที่เคยยกให้ดิวเป็นไอดอลเรื่องแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ความเชื่อใจและความนิยมที่เคยมี กลับถูกแทนที่ด้วยคำถามและความไม่พอใจอย่างมากมาย
บทสรุปของคดีนี้จะจบอย่างไร?
ขณะนี้ “ดิว อริสรา” ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หรือชี้แจงใดๆ ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีความที่เกิดขึ้น หลายฝ่ายจึงจับตาว่าเจ้าตัวจะเลือกแนวทางใดในการรับมือ ทั้งในแง่กฎหมายและภาพลักษณ์ในสังคม เพราะคดีฉ้อโกงไม่ใช่เรื่องเล็ก และหากพิสูจน์ได้ว่ามีเจตนาในการกระทำ อาจมีผลกระทบอย่างหนักทั้งในด้านกฎหมาย และเส้นทางในวงการบันเทิง

















