รวมพล 10 ข้าราชการและคนดังของไทยต้องคดีและคิดคุก

เป็นที่รู้ๆ กันหากในกรณี ข้าราชการพลเรือนสามัญถูกคำพิพากษาลงโทษให้จำคุก ก็คงนึกถึงการดำเนินการทางวินัยซึ่งเป็นความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง แต่ในความเป็นจริงก็มีหลายๆ กรณีที่ไม่ใช่กรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งอย่างที่คิด 

โดยกรณีที่เป็นความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งในเรื่อง “ถูกจำคุก” นั้น มีการกำหนดไว้ในมาตรา 95 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 65 (2) ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้

1.กระทำความผิดอาญาที่มิใช่การกระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
2. ต้องได้รับโทษจำคุกหรือโทษที่หนักว่าจำคุก (โทษประหารชีวิต) โดยไม่ว่าผู้นั้นจะมาฟังคำพิพากษาและได้รับโทษ หรือหลบหนีคดีก็ตาม แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีที่ศาลพิจารณาให้รอการลงโทษ หรือรอการกำหนดโทษ
3..โดยคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งคดีอาจจะถึงที่สุดโดยคำพิพากษาในชั้นศาลฎีกา หรือกรณีที่ไม่มีการอุทธรณ์หรือฎีกา ภายในระยะเวลาอุทธรณ์หรือฎีกา

มีใครบ้างมาดูกัน...

- 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 นายวัฒนา อัศวเหม ฉายา "เจ้าพ่อปากน้ำ" ศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี กรณีใช้อำนาจในฐานะ รมช.มหาดไทย ในขณะนั้น ข่มขู่ชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณประโยชน์ เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษเพื่อก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย คลองด่าน แต่วัฒนาหนีไป ต่างประเทศ ไม่มาฟังคำพิพากษาอีกเลย ปัจจุบันคดีหมดอายุความ

- ปี 2542 นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีต อบจ. สมุทรปราการ ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญาในความผิดทุจริตการเลือกตั้งอบจ.สมุทรปราการเจ้าตัวยอมรับสภาพเข้าคุกทันที ปี 2566 นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะซ้อมแข่งรถที่จังหวัดบุรีรัมย์

-ปี 2546 นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรมว.สาธารณสุข ที่ถูกศาลตัดสิน จำคุก 15 ปี ฐานทุจริตรับเงินสินบน 5 ล้านบาท จากบริษัทยา เจ้าตัวหนีแต่ต่อมาถูกจับได้ ต้องไปรับโทษในคุกก่อนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี 2562 เสียชีวิตแล้วในวัย 65 ปี

- ปี 2558 ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ หรือ "โกโบริน" อดีต รมช.ศึกษาธิการ ที่วันนี้กลายเป็นจำเลยในคดีฉ้อโกงเงิน 11 ล้านบาท จากบริษัทปูนซีเมนต์ ทีพีไอ ในประเทศกัมพูชา ที่ยังต่อสู้กันอยู่ กระนั้นปัจจุบันเจ้าตัวถูกคุมขังในเรือนจำอีกคดี คือคดีฉ้อโกงประชาชนหลังหลอกขายจตุคามรามเทพ

จากนั้นให้การรับสารภาพศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก ร.ต.ท.เชาวรินธร์ เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

- ปี 2558 พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์  ฉายา "นายพลช็อกโลก" อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพวก ถูกตัดสินจำคุกเพราะเกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชั่นจากการใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งน้ำมันเถื่อน ซื้อขายตำแหน่ง เปิดบ่อน แอบอ้างส ถ า บั น หลากหลายความผิดรวม 5 คดี ก่อนจะยอมสารภาพ ทำให้ศาลตัดสินจำคุก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ รวม 31 ปี 9 เดือน

- 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หรือ ฉายา " เด็จพี่"อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และ เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์อดีต สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย หมิ่นประมาท วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ คดีนี้ต่อสู้มา 5 ปี ก่อนท้ายสุดศาลฎีกาตัดสินให้พร้อมพงศ์และเกียรติอุดมมีความผิดจริง จำคุกทั้งคู่ 1 ปีทันทีโดยไม่ต้องรอลงอาญา ได้รับการพักโทษ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

- ปี 2560 พลตำรวจเอก จุมพล มั่นหมาย ศาลลงโทษจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา จุมพล มั่นหมาย อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตรองเลขาธิการสำ นักพ ระรา ช วังฯ ในคดีบุกรุกป่าทับลาน และสร้างบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา 

-9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ศาลฎีกาตัดสินจำคุก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แกล้งฟ้องคุณอภิสิทธิ์ และคุณสุเทพ กรณีสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553  

28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.812/2559 ที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ว. กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ให้พนักงานจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และหมิ่นประมาท

และในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561 นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์ จำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในคดี อ.495/255

- ปี2560 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์  ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา คดีระบายข้าวแบบจีทูจี ให้จำคุกนายบุญทรง 42 ปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพักโทษ โดยได้รับพระราชทานอภัยโทษลดวันต้องโทษในช่วงต้นปี พ.ศ. 2564 เหลือโทษ 16 ปี

และได้รับพระราชทานอภัยโทษอีกครั้งในวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2564 เหลือโทษจำคุก 10 ปี และจะพ้นโทษในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2571 ต่อมา เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2567 กรมราชทัณฑ์ มีคำสั่งพักโทษ และได้ปล่อยตัวนายบุญทรงออกจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ยังอยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน และต้องติดกำไลอีเอ็ม

-ปี 2565 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเวลา 2 ปีและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี คดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ปี 2557 จ่อมาปี 2566 กรมราชทัณฑ์ พักโทษ  ปล่อยตัวจากเรือนจำ โดยมีเงื่อนไขติดกำไล EM จำกัดพื้นที่ รายงานตัวตามกำหนดอีก 9 เดือน