จากเจ้าชายสู่คนธรรมดา! อัปเดตชีวิตชายผู้เคยได้รับฉายา ‘หล่อที่สุดในโลก’
จากเจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์สู่ไอคอนแห่งโลกแฟชั่น “เคานต์นิโคไลแห่งมงเปอซา” เส้นทางชีวิตที่เลือกเอง สไตล์ที่โลกต้องจับตามอง
แม้จะไม่ได้ครองตำแหน่ง “เจ้าชาย” อย่างเป็นทางการอีกต่อไป แต่ความสง่างามและสไตล์อันโดดเด่นของ เคานต์นิโคไลแห่งมงเปอซา หรือ นิโคไล วิลเลียม อเล็กซานเดอร์ เฟรเดอริก (Nikolai William Alexander Frederik) วัย 25 ปี กลับไม่ได้ลดน้อยลงแม้แต่นิด ในทางกลับกัน การเปลี่ยนสถานะในปี 2023 กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเฉิดฉายในฐานะนายแบบและแฟชั่นนิสต้าระดับโลกมากยิ่งขึ้น
อดีตราชวงศ์ที่เคยได้รับการขนานนามว่า “เจ้าชายหล่อที่สุดในโลก”
นิโคไลเป็นพระโอรสของเจ้าชายโจอาคิม แห่งเดนมาร์ก และเคาน์เตสอเล็กซานดรา แมนนลีย์ เขาเป็นพระราชนัดดาองค์แรกในสมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาโดดเด่น ผสานความสง่างามตามสายเลือดราชวงศ์ นิโคไลจึงเคยถูกสื่อทั่วโลกระบุว่าเป็นหนึ่งใน “เจ้าชายหล่อที่สุดในโลก” และกลายเป็นที่จับตามองตั้งแต่ยังเยาว์วัย
แม้จะอยู่ภายใต้แสงสปอตไลต์มาตั้งแต่เด็ก แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การเป็น “เจ้าชายหน้าตาดี” เท่านั้น เพราะนิโคไลเลือกใช้ชีวิตตามแบบที่ตัวเองปรารถนา พร้อมเดินตามความฝันในสายงานแฟชั่นอย่างมุ่งมั่น
ถูกถอดยศในปี 2023: จุดเปลี่ยนที่มาพร้อมโอกาส
ในเดือนมกราคม 2023 สมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 ได้ทรงมีพระราชดำริให้ถอดฐานันดรศักดิ์ของหลานๆ จากเจ้าชายและเจ้าหญิง ให้อยู่ในฐานะ “เคานต์” และ “เคาน์เตสแห่งมงเปอซา” โดยมีเหตุผลว่าเป็นการเปิดทางให้สมาชิกในราชวงศ์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ปราศจากข้อจำกัดของพระราชวงศ์
แม้ข่าวการถอดยศจะกลายเป็นประเด็นในสื่อทั่วโลก แต่สำหรับนิโคไลแล้ว เขากลับแสดงความเข้าใจและยอมรับในการตัดสินใจของพระองค์อย่างสุขุม โดยกล่าวกับสื่อว่า “แม้จะรู้สึกแปลกใจ แต่ผมก็จะเดินหน้าต่อไปในแบบของผม” และเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
เส้นทางนายแบบระดับโลก: จาก Burberry สู่ปกนิตยสาร GQ
หลังจากการเปิดตัวในวงการแฟชั่นในปี 2018 บนรันเวย์ของ Burberry ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนด์หรูระดับโลก เส้นทางการเป็นนายแบบของนิโคไลก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับโอกาสให้ร่วมงานกับแบรนด์ดังอย่าง Dior, Balmain และอีกหลายแบรนด์ชั้นนำในยุโรป
เขาเคยขึ้นปกนิตยสาร GQ, Euroman และได้ร่วมงานแฟชั่นวีคหลายครั้ง ทั้งในลอนดอน ปารีส และมิลาน ด้วยบุคลิกที่ดูสง่างามแบบราชวงศ์ ผสานกับความเท่แบบหนุ่มยุโรปยุคใหม่ ทำให้นิโคไลกลายเป็น “นายแบบไฮบริด” ที่ลงตัวทั้งภาพลักษณ์และจิตวิญญาณแห่งแฟชั่น
การศึกษาด้านแฟชั่น: ความรู้ที่เสริมความแข็งแกร่งให้สไตล์
นอกจากหน้าตาและท่วงท่าที่น่าหลงใหลแล้ว นิโคไลยังให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างมาก เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านแฟชั่นและธุรกิจจาก Copenhagen Business School หนึ่งในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเดนมาร์ก
ด้วยพื้นฐานความรู้ด้านธุรกิจแฟชั่น ทำให้นิโคไลเข้าใจอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ในฐานะนายแบบ แต่ยังมองเห็นภาพรวมในแง่ของการตลาด การวางแบรนด์ และเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นี่คืออีกเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับความสนใจจากหลากหลายแบรนด์ทั้งในยุโรปและเอเชีย
รักแท้กับแฟนสาวนางแบบ “เบเนดิกเตอ ทูสทรัป”
หนึ่งในแรงบันดาลใจและกำลังใจสำคัญของนิโคไล คือแฟนสาวของเขา เบเนดิกเตอ ทูสทรัป (Benedicte Thoustrup) นางแบบสาวชาวเดนมาร์กที่ทั้งสวย ฉลาด และมีสไตล์ไม่แพ้กัน ทั้งคู่เริ่มคบหากันตั้งแต่ปี 2018 และมักปรากฏตัวร่วมกันในงานอีเวนต์แฟชั่นบ่อยครั้ง จนได้รับฉายาว่า “แฟชั่นคู่อินเลิฟ” หรือ “It Couple” แห่งเดนมาร์ก
เบเนดิกเตอเองก็ไม่ธรรมดา เธอจบการศึกษาด้านธุรกิจ มีแบรนด์ผ้าไหมของตัวเองชื่อ BénéSoie ซึ่งเน้นผลิตผ้าไหมจากธรรมชาติ และยังเป็นนักกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางอีกด้วย ความเก่งรอบด้านของเธอเสริมภาพลักษณ์ของคู่รักที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยเสน่ห์
ชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งฐานันดรศักดิ์
สิ่งที่น่าชื่นชมในตัวนิโคไลคือ เขาไม่เคยนิยามตัวเองด้วยคำว่า “เจ้าชาย” แม้ในอดีตจะมีตำแหน่ง แต่เขากลับเลือกสร้างชื่อเสียงและอัตลักษณ์ใหม่จากความสามารถและตัวตนที่แท้จริง
เขาเคยกล่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้อยากเป็นคนที่คนอื่นจดจำแค่เพราะผมเป็นเจ้าชาย ผมอยากให้พวกเขาจดจำเพราะสิ่งที่ผมทำ” และนั่นคือสิ่งที่เขาทำได้สำเร็จในวันนี้
ไม่ว่าจะในบทบาทนายแบบ แฟนหนุ่มสุดเท่ หรือผู้ชายที่เข้าใจแฟชั่นอย่างลึกซึ้ง นิโคไลได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “คนรุ่นใหม่” ที่กล้าก้าวออกจากกรอบเดิมๆ และเลือกใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ
สรุป: จากบัลลังก์สู่แคทวอล์ก เขาคือเคานต์นิโคไลที่โลกจดจำ
เรื่องราวของ “เคานต์นิโคไลแห่งมงเปอซา” ไม่ใช่แค่เทพนิยายของเจ้าชายหล่อผู้กลายเป็นนายแบบชื่อดังเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของคนรุ่นใหม่ที่กล้าจะนิยามชีวิตด้วยตัวเอง เลือกเส้นทางที่รัก และยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์และแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก
ในโลกที่การเป็น “เจ้าชาย” อาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฐานันดรศักดิ์อีกต่อไป แต่อยู่ที่ “คุณค่าของตัวตน” ที่แท้จริง — และนิโคไลก็ได้พิสูจน์สิ่งนั้นให้เราเห็นแล้ว





















