สุเหร่าแห่งแจม มรดกอันเงียบงามกลางหุบเขาอัฟกานิสถาน
กลางหุบเขาอันเงียบสงบของจังหวัดโกร์ (Ghor Province) ในอัฟกานิสถาน มีหอคอยอิฐสูงตระหง่านที่แม้กาลเวลาและความวุ่นวายทางการเมืองจะผ่านพ้นมาเนิ่นนาน ก็ยังไม่สามารถพรากเสน่ห์จากมันไปได้ ที่แห่งนั้นคือ “สุเหร่าแห่งแจม” หรือที่รู้จักในชื่อ Minaret of Jam หนึ่งในมรดกโลกที่แทบไม่มีใครพูดถึง แต่หากได้มีโอกาสมองเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง จะเข้าใจว่าทำไมมันถึงได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก
ประวัติและความลึกลับ
สุเหร่าแห่งแจมสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 โดยราชวงศ์กูริด (Ghurid Dynasty) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ทรงอิทธิพลของโลกอิสลามยุคกลาง ตัวหอคอยสูงเกือบ 65 เมตร สร้างจากอิฐเผาอย่างประณีต และประดับด้วยลวดลายอักษรอาหรับคุฟิก และเรขาคณิตแบบอิสลามอันซับซ้อน ถ้ามองจากระยะไกลจะรู้สึกเหมือนหอคอยนี้ผุดขึ้นมาจากแม่น้ำที่ไหลผ่านหุบเขา เหมือนเครื่องหมายคำถามที่สลักไว้ในภูมิประเทศอันห่างไกลจากโลกภายนอก
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าสถานที่นี้เคยเป็นศูนย์กลางของชุมชนขนาดใหญ่หรือเป็นจุดแวะพักของคาราวานทางการค้าสมัยโบราณหรือไม่ หลักฐานบางชิ้นบอกว่าบริเวณรอบ ๆ เคยมีเมืองโบราณที่จมหายไปจากประวัติศาสตร์เพราะน้ำท่วมและดินถล่ม
ความงามในความเปราะบาง
แม้สุเหร่าแห่งแจมจะรอดพ้นจากภัยสงครามและการรุกรานของกลุ่มต่าง ๆ มาได้ แต่มันยังคงถูกคุกคามจากภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะดินถล่มและการกัดเซาะของแม่น้ำฮาริรุด (Hari Rud River) ที่ไหลอยู่เบื้องล่าง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ล่อแหลมและการขาดทรัพยากรในการบูรณะ ซากโบราณสถานแห่งนี้จึงอยู่ในสภาวะ “รอดแบบหวุดหวิด” มานับสิบปี
นักโบราณคดีบางคนถึงกับกล่าวว่า "นี่คือมรดกที่สวยงามที่สุดในอัฟกานิสถาน และอาจเป็นสิ่งแรกที่เราจะเสียไปหากไม่มีใครลงมือปกป้องมันจริงจัง"
การเดินทางที่ไม่ธรรมดา
การไปเยือนสุเหร่าแห่งแจมไม่ใช่เรื่องง่าย เส้นทางผ่านหุบเขาคดเคี้ยว ถนนดินที่บางช่วงแทบจะใช้ได้แค่ฤดูแล้ง และความไม่แน่นอนด้านความปลอดภัยทำให้มีนักท่องเที่ยวเพียงหยิบมือเท่านั้นที่กล้าเสี่ยงเดินทางมา แต่นั่นเองคือเหตุผลที่ทำให้มันยังคงเป็น “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่”
เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าหอคอยสูงเสียดฟ้านั้น ท่ามกลางความเงียบของธรรมชาติรอบตัว ไม่มีเสียงรถ ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต มีเพียงเสียงลมพัดกับภาพของประวัติศาสตร์ที่ยังยืนหยัด สิ่งที่รู้สึกได้ไม่ใช่แค่ความสวยงามของสถาปัตยกรรม แต่คือพลังบางอย่างของมนุษย์ในอดีต ที่กล้าสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติอันโหดร้าย และฝากมันไว้ให้เราในปัจจุบัน
สุเหร่าแห่งแจมจึงไม่ใช่แค่สิ่งก่อสร้างจากอดีต แต่มันคือบทกวีที่ถูกสลักไว้บนอิฐท่ามกลางภูเขา เป็นเครื่องเตือนใจถึงความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ แม้ในดินแดนที่ห่างไกลจากสายตาโลกมากที่สุดก็ตาม



