หนุ่มถูกยิงดับคาต้นทุเรียน น้องสาวเผยลางร้ายพี่ชายสั่งลา
หนุ่มถูกยิงดับคาต้นทุเรียน น้องสาวเผยลางร้ายพี่ชายสั่งลา
กรณีเมื่อเวลา 23.40 น.วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในสวนทุเรียน บ้านบ่อกรูด หมู่ 6 ต.กลาย อ.ท่าศาลา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วยตำรวจสืบสวน แพทย์โรงพยาบาลท่าศาลา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ รีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อนายสมชาย หรือ เปิ้ล อายุ 47 ปี อยู่บ้านหมู่ 7 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายในชุดนุ่งกางเกงยีนส์ สวมเสื้อสีฬา มีบาดแผลถกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองไม่ทราบชนิดเข้าลำตัวหลายนัด ข้างศพมีมีดปังตอตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนก่อเหตุยังไม่ทราบ อยู่ระหว่างสืบสวนและสอบสวน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมชาย ผู้ตาย เป็นชาว อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช แต่งงานอยู่กินกับภรรยา ชาว ต.กลาย อ.ท่าศาลา ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำมีชาวบ้านได้ยินเสียงปืน 3 - 4 นัด บริเวณสวนทุเรียน และพบว่านายสมชาย ถูกยิงเสียชีวิต เบื้องต้นคาดว่านายสมชาย น่าจะมีเรื่องกับคนก่อเหตุ
ต่อมาทางตำรวจสืบสวนจังหวัด ร่วมชุดสืบสวน สภ.ท่าศาลา ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐาน และเชิญตัวนางสุภาวดี ปิ้ว ภรรยาผู้ตาย และญาติ สอบปากคำและตรวจเขม่าดินปืน ซึ่งอยู่ระหว่างรอผล แต่จากการสอบสวน เบื้องต้นญาติทั้ง 9 คน ของนางปิ้ว ภรรยาคนตาย ปฏิเสธ อ้างไม่รู้ไม่เห็นการตายของนายสมชาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนางปิ้ว ภรรยาของคนตาย ได้ปฏิเสธให้ข้อมูลใดๆ แต่ยอมรับว่าได้ยินเสียงปืน ส่วนแนวทางการสอบสวนสืบสวนของตำรวจ พบว่าชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังช่วงเวลา 20.00 น.แต่ทางตำรวจได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันเวลา 23.40 น.
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกันทาง พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เดินทางติดตามคดี และสอบปากคำญาตินางสุภาวดี หรือ ปิ้ว อายุ 47 ปี ภรรยาของคนตาย และญาติของนางสุภาวดี ด้วยตนเอง โดยตำรวจมีการแยกสอบคนละห้อง แต่เบื้องต้นทั้งหมดยังให้การไม่รู้ไม่เห็นการตายของนายสมชาย
ขณะที่นายปัญญา อายุ 20 ปี ผู้แจ้งเหตุคนแรก ให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลา 20.20 น.ขณะนั่งเล่นกีตาร์ที่บ้าน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงปืนดัง 4 นัด แต่ละนัดห่างกันประมาณ 20 วินาที ตอนแรกคิดว่ามีคนจุดประทัดลูกบอลเล่น แต่หลังเสียงปืนนัดที่ 2 ได้ยินเสียงคนตายร้องขอความช่วยเหลือสั้นๆ ว่า” มันยิงกูแล้ว “ จึงมั่นใจว่าน่าจะมีเหตุยิงกัน จึงรีบแจ้งตำรวจและกู้ภัย
พล.ต.ต.จารุต เผยคืบหน้าคดีว่า แม้ว่าการสอบสวนพยานกว่า 9 ปาก ซึ่งล้วนเป็นญาติของภรรยาคนตาย ยังให้การปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็น แต่ยอมรับว่าได้ยินเสียงปืน คดีนี้ไม่ซับซ้อนเท่าไร ตำรวจมั่นใจว่าคนก่อเหตุ เป็นคนรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี เพราะละแวกเกิดเหตุเป็นญาติพี่น้องของภรรยาคนตาย แม้ว่าการสอบปากคำพยานกว่า 9 ปาก จะไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ทางตำรวจเชื่อมั่นในหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ เก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว ทั้งการตรวจเข่มาดินปืน ดีเอ็นเอ และการติดต่อสื่อสารกันทางโทรศัพท์ มั่นใจว่าจะรู้ตัวคนก่อเหตุเร็วๆนี้ ส่วนชนวนเหตุเชื่อว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว เรื่องสวนทุเรียน เพราะทราบว่าคนตาย เป็นเขย มาลงทุนลงแรงกับสวนทุเรียนที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ดินของนางสุภาวดี ภรรยา ก่อนเกิดเหตุคนตาย มีเรื่องทะเลาะกับภรรยา หรือกับญาติคนใดคนหนึ่ง แล้วคนตายใช้มีดปังตอฟันต้นทุเรียนเสียหายสุดท้ายถูกยิงเสียชีวิตคาต้นทุเรียน
ส่วนบรรยากาศที่วัดชลคีรีวราราม ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายสมชาย หรือ เปิ้ล บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า นางเบญจนาถ อายุ 44 ปี น้องสาวของนายสมชาย เผยกับผู้สื่อข่าวว่า พี่ชายอยู่กินกับนางสุภาวดี ภรรยา มานานกว่า 10 ปี อาชีพทำสวนทุเรียนทวายที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่ดินของภรรยา เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา พี่ชาย เคยถูกลอบยิงมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ทางตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ระยะหลังพี่ชาย มาระบายให้ฟังบ่อยว่ามีปัญหาทะเลาะกับภรรยา และญาติของภรรยา เรื่องสวนทุเรียน ล่าสุดไม่กี่วันที่ผ่านมาพี่ชาย กลับบ้าน อ.สิชล และระบายเรื่องที่มีปัญหากับญาติพี่น้องของภรรยา นอกจากนี้พี่ชาย ยังเคยสั่งลากับครอบครัวว่า หากพี่ชายตาย เป็นฝีมือของญาติภรรยา สุดท้ายพี่ชายถูกยิงเสียชีวิตจริง ตนอยากให้ทางตำรวจ ติดตามจับกุมคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นฝีมือญาติภรรยาของสามี





















