ทองคำร่วงแรงอย่างต่อเนื่อง!
แม้แต่ราคาทองเครื่องประดับบางยี่ห้อก็ร่วงลงมาถึง 8 ครั้งในช่วงวันหยุดวันแรงงาน
ช่วงนี้ในตลาดการบริโภคทองคำเราจะพบว่า เมื่อราคาทองคำในตลาดต่างประเทศลดลงจากระดับสูงและมีราคาโปรโมชั่นวันหยุด ราคาทองคำเครื่องประดับแบรนด์เนมโดยทั่วไปก็ลดลงต่ำกว่า 450 บาท และราคาทองคำเครื่องประดับแบรนด์เนมบางส่วนก็กลับมาอยู่ที่ระดับ "จับต้องได้"
การปรับราคาทองคำ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำโดยรวมในต่างประเทศลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ ราคาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX ปิดที่ 3,247.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ลดลง 7.48% จากระดับสูงสุดที่ 3,509.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันที่ 22 เมษายน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาทองคำที่ตกต่ำ ราคาเครื่องประดับทองคำที่มีตราสินค้าโดยทั่วไปส่วนลดจึงลดลงต่ำกว่า 450 บาท
ในจำนวนนี้ บางแห่งเสนอลดราคาอยู่ที่ 440 บาทกันเลยทีเดียว เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวในวันแรงงาน แบรนด์ทองคำและเครื่องประดับชั้นนำต่างจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยบางแบรนด์ก็เสนอส่วนลดมากขึ้น ในวันที่ได้ไปเยี่ยมชมร้านค้าบางแห่งในกทม. และพบว่าหากโชคดีบางร้านราคาทองคำหลังจากหักส่วนลดแล้วส่วนลดในบางช่วงจะอยู่ที่ 800 บาทเลยทีเดียว
อย่างเช่นการซื้อออนไลน์ Chow Tai Fook ที่เป็นร้านที่เชื่อถือได้ มีทั้งทองจาก ฮ่องกง มาเก๊า รวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนเรื่องดีไซน์ ก็จะตอบสนองรสนิยมของคนจีน บางคอลเล็คชั่นผมเห็นแล้วก็เพลีย แต่เขาได้เปิดตัวแคมเปญ ส่วนลด 10% สำหรับหมวดหมู่ราคาที่กำหนด และลดถึง 300 บาท สำหรับหมวดหมู่ทองคำราคาที่กำหนด กิจกรรมนี้เคยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม และคาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือนมิถุนายน
แต่ถ้าหากราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กิจกรรมนี้อาจต้องยุติลงได้ทุกเมื่อเช่นกัน
ช่วงนี้จะเห็นได้ว่า...ความต้องการเครื่องประดับลดลงจริงๆ จากรายงานเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการทองคำทั่วโลก ประจำไตรมาสแรกของปี 2568 ที่เผยแพร่โดยสภาทองคำโลกระบุว่า
เมื่อราคาทองคำทะลุหลัก 3,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ความต้องการทองคำทั่วโลก (รวมถึงการทำธุรกรรมนอกตลาด) ในไตรมาสแรกจะสูงถึง 1,206 ตัน เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 325 ตัน ซึ่งสร้างสถิติสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์สำหรับความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำในแต่ละไตรมาส
ในขณะที่ราคาทองคำโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในไตรมาสแรก จึงส่งผลให้ความต้องการเครื่องประดับทองคำได้รับผลกระทบในเชิงลบ

















