"แอนแทรกซ์" ไม่ใช่แค่ชื่อวงร็อก! รู้ทันโรคอันตรายที่มากับเนื้อสัตว์แบบไม่รู้ตัว
ช่วงนี้ได้ยินข่าวเกี่ยวกับโรค “แอนแทรกซ์” (Anthrax) แล้วหลายคนอาจจะตกใจ คิดว่าเป็นโรคแปลกหรือของต่างประเทศเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วบ้านเราก็เคยมีการพบเชื้อแอนแทรกซ์ในคนเหมือนกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเลี้ยงวัว ควาย หรือแพะ เพราะเชื้อนี้มันแอบแฝงอยู่ในสัตว์กินพืชได้ครับ
แอนแทรกซ์คืออะไร?
มันเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Bacillus anthracis ซึ่งมันจะสร้างสปอร์ (spore) แข็งแรงมาก ทนทาน อยู่ในดินได้นานหลายสิบปี พอสัตว์มากินหญ้าที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ก็จะติดเชื้อ และคนที่สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือกินเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกพอ ก็อาจติดเชื้อได้เหมือนกันครับ
แอนแทรกซ์ติดได้ทางไหนบ้าง?
หลักๆ มี 3 ทางครับ
1. ผ่านผิวหนัง จากการจับหรือแปรรูปสัตว์ที่ติดเชื้อ แล้วมีแผลบนผิวหนัง
2. ทางเดินหายใจ หากสูดดมสปอร์เข้าไป (แบบนี้รุนแรงสุด)
3. ทางเดินอาหาร จากการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อแบบไม่ผ่านการปรุงสุก เช่น ลาบดิบ ซอยจุ๊ เนื้อดิบๆ
อันตรายขนาดไหน? เป็นแล้วหายหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับชนิดที่ติดครับ
แบบผิวหนัง รักษาหายได้ถ้าเจอไว
แบบทางเดินอาหาร มีโอกาสรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
แบบสูดดม อันนี้น่ากลัวที่สุด เสี่ยงตายสูงมาก
ดังนั้น อย่าคิดว่าเป็นโรคไกลตัวนะครับ เพราะอาหารอย่างลาบดิบ ซกเล็ก ต้มเลือด หรือซอยจุ๊ ถ้าไม่รู้แหล่งที่มาของเนื้อ ก็อาจพาเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้เลยแบบไม่รู้ตัว
เมนูเสี่ยงที่ควรเลี่ยงหรือกินแบบระวังสุดๆ:
ลาบดิบ
ซอยจุ๊
ก้อย
ต้มเลือดดิบ
เนื้อวัว/ควายที่ไม่ได้ปรุงสุกดี
ทางรอดคืออะไร?
1. อย่ากินเนื้อดิบหรือกึ่งสุก
2. เลือกซื้อเนื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้
3. ถ้ามีบาดแผล อย่าจับหรือแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ไม่มั่นใจ
4. ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น มีตุ่มดำที่ผิวหนัง ท้องเสียรุนแรง หรือมีไข้หลังจากกินเนื้อดิบ ให้รีบไปหาหมอทันที
สุดท้าย อยากฝากว่า “อาหารพื้นบ้านกินได้ แต่ต้องรู้จักเลือกและรู้จักระวัง” สุขภาพเราสำคัญที่สุดครับ อย่าให้ความเคยชินพาเราเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว
#แอนแทรกซ์ #เนื้อดิบ #ลาบดิบ #โรคจากสัตว์ #สุขภาพ #อาหารพื้นบ้าน #ระวังไว้ก่อน #Anthrax #โรคติดต่อ




















