อดีตแม่เลี้ยงร้องสื่อฯ ถูกลูกเลี้ยงเมาคลั่ง ทำลายทรัพย์สิน แต่คดีไม่คืบ
อดีตแม่เลี้ยงร้องสื่อฯถูกลูกเลี้ยงขว้างกระจกบ้านแตก วอนตำรวจจับลูกเลี้ยงดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ขณะลูกเลี้ยงแจ้งกลับถูกรุมทำร้ายร่างกายเจ็บเย็บ 7 เข็ม
วันที่ 30 เมษายน 2568 โลกโซเซียล เฟสบุ๊คชื่อ ” อินทราณี รอดสุก ”โพสต์ข้อความภาพความเสียหายบ้าน กระจกแตกหลายบาน และระบุข้อความ” เหนื่อยค่ะขอออกมาพูด นายเมืองคอนทำอะไรกันอยู่ค่ะ ทำไมเอาผิดคนทำไม่ได้ขนาดบ้านฉันถูกทำขนาดนี้ยังเฉยกันอยู่ล่าสุดไอคนก่อเหตุไปบอกนายว่าเราแจ้งความเท็จทั้งๆที่หลักฐานก็มี ตำรวจจะเชื่อคนก่อเหตุจริงๆเหรอค่ะ มันเคยขู่ค่ะว่าจะฆ่าไห้ตายทั้งบ้าน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เป็นสุขค่ะเพราะกลัวมันจะกลับมาทำคนในบ้าน วันนี้โทรไปขอไห้นายออกหมายจับนายตอบกลับมาว่าออกหมายจับไม่ได้เพราะ ไม่ใช่หมูไม่ใช่หมา ยุๆไปจับเค้าไม่ได้ ทั้งๆที่เค้าบุกรุกมาทำร้ายทรัพย์สินบ้านเรา ถูกเอาคำนี้ไปไม่เป็นเลยค่ะคนที่เราพึ่งได้คือตำรวจแต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำไงแล้วขอออกมาโพส เพื่อให้ความยุติธรรมไห้ครอบครัวหน่อยน่ะค่ะ” โดยมีภาพประกอบความเสียหายกระจกแตกหลายบานภายในบ้านจำนวน 4 – 5 ภาพ หลังโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว ได้มีเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆนานาจำนวนมากและมีการแชร์กันเป็นจำนวนมากเช่นกันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น
ต่อมาวันนี้ (30 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านหมู่ 7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช พบเจ้าของบ้านชื่อนางภรภิภัช หรือ ป้านา อายุ 66 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุเกิด 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 13 เม.ย.68 วันสงกรานต์ รอบแรกเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.หลังจากตนและหลานกลับจากเที่ยวสงกรานต์ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ถึงบ้านมีนายนิพนธ์ หรือ น้อย อายุ 45 ปี อดีตลูกเลี้ยงของตนและมีบ้านมีรั้วติดกันบริเวณหลังบ้าน ถูกนายน้อย ใช้ขวดเหล้าปาเข้ามาในบ้านจนขขวดเหล้าแตกกระจัดจาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น.วันเดียวกันหลังตนและหลานกลับจากเที่ยวงานวันสงกราต์ตัวเมือง เมื่อกลับถึงบ้านก็พบเห็นนายนิพนธ์ หรือ น้อย อดีตลูกเลี้ยงมีอาการเมายืนถือมีดพร้า และก้อนหิน ปีนเข้ามาทุบตีกระจกบ้าน จนแตกเสียหายหลายบาน ตนเข้าห้ามและนายนิพน์ หรือ น้อย กระโดดกำแพงหลบหนี หลังจากเกิดเหตุ ลูกเขยและหลานโกรธแค้นปีนกำแพงไล่ทำร้ายร่างกายนายน้อย บาดเจ็บ
หลังจากเกิดเหตุตนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พระพรหม ให้ดำเนินคดีนายน้อย ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แต่ผ่านมาหลายวันคดียังไม่มีความคืบหน้า อยากให้ตำรวจเร่งรัดคดีให้ตนด้วยไม่เช่นนั้นตนและหลานๆอยู่อย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าจะถูกนายน้อย อดีตลูกเลี้ยง จะบุกมาทำร้ายคนในบ้านวันไหน
อีก ส่วนมูลเหตุจริงๆที่ลูกเลี้ยงไม่พอใจตนนั้น อาจฝังใจไม่พอใจตนมานานแล้ว หลังจากพ่อเขาตาย นายน้อย ฝังไม่พอใจตนเรื่องที่ดินสร้างบ้านหลังนี้ โดยนายน้อย เข้าใจผิด คิดว่าเงินที่สร้างบ้าน ซื้อที่ดินเป็นเงินของพ่อเขา ความจริงแล้วเป็นเงินของตนทั้งหมด จึงอยากให้ตำรวจเอาตัวเขามาดำเนินคดี เกรงว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นในภายหลัง เนื่องจากทราบว่า นายน้อย อดีตลูกเลี้ยง มีอาการป่วยจิตรด้วย เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ต่อมาทาง พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น รอง ผกก.สส.สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่พูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมดจากผู้เสียหายในเบื้องต้นแล้วและรับปากจะรีบดำเนินการเรียกตัวนายนิพนธ์ หรือ น้อย สอบสวนปากคำและดำเนินกานและรับปากให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างเต็มที่
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านนายนิพนธ์ หรือ นายน้อย อดีตลูกเลี้ยง พบว่าบ้านปิดเงียบไม่มีใครอยู่ สภาพบ้านมีกระจกแตกหลายบานและมีโทรทัศน์ที่ถูกทุบทำลายเสียหายวางอยู่ใต้ต้นไม้ 2 เครื่อง ส่วนนายน้อย ไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงานก่อสร้าง แต่ไม่ทราบว่าที่ไหน และไม่รู้ว่าจะกลับบ้านช่วงไหน
ผู้สื่อข่าวพบนางหนูพิน อายุ 81ปี ป้าของนายน้อย เล่าว่า นายน้อย มีอาการป่วยจิตเวลาเมาชอบทุบทำลายข้าวของในบ้านเสียหายเป็นประจำ แม้จะห้ามปรามแล้วก็ไม่ฟังโดยนายน้อย รักษาตัวที่โรงพยาบาล อยากให้เห็นใจนายน้อย ด้วย วันเกิดเหตุนายน้อย ถูกทุบตีเลือดอาบเย็บ 7 เข็มเช่นกัน ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องฝังใจของหลานที่ไม่ชอบแม่เลี้ยงคนนี้มานานแล้ว จึงก่อเหตุดังกล่าว
นางสาวพรทิพย์ อายุ 40 ปี ญาตินายน้อยเล่าว่า คืนวันเกิดเหตุ นายน้อยขว้างกระจกบ้านของป้านาข้างบ้านได้รับความเสียหายแล้ว ลูกเขยและเพื่อนรวม 3 คน ปีนกำแพงเข้ามาไล่ทุบตี ทั้งมีดพร้าและไม้เบสบอลจนหัวแตกเลือดอาบ ตนเข้าห้ามยกมือไหว้ห้าม ก่อนจะแจ้งกู้ภัยนำนายน้อย ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แพทย์รักษาเย็บบาดแผล 7 เข็ม ก่อนให้กลับบ้าน ยอมรับว่านายน้อย ก่อเหตุด้วยความเมา แต่ไม่น่าทำรุนแรงกับนายน้อย หัวแตกเลือดอาบ โดยนายน้อย แจ้งดำเนินคดีฝ่ายทำร้ายร่างกายในคืนวันดังกล่าวด้วย แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน
























