เกิดเหตุโคลนร้อนปะทุในหมู่บ้านบนเกาะสุมาตราเหนือ

     เกิดเหตุโคลนร้อนปะทุ ในหลายๆพื้นที่ของหมู่บ้าน "โรบูรัน โดลก" เขต "มานดาลิ้ง นาตาล" ซึ่งอยู่บนเกาะสุมาตราเหนือ ซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดภัยพิบัติภูเขาไฟโคลน "ลาปินโด" อันเลวร้ายซ้ำอีก...

     "ไซปุลลาห์ นาซูติออน" ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ "มานไดลิง นาตาล" กล่าวว่า "ถึงแม้ว่าจะมีการบันทึก การเกิดโคลนร้อนขนาดเล็กหลายครั้ง ในหมู่บ้านนี้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้เกิดจุดโคลนร้อนใหม่ 3 จุดขึ้น โดยแต่ละจุดก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว..." และ "พื้นที่ใหม่แต่ละแห่ง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 25 ตารางเมตร โดยแต่ละแห่งมีการปะทุอยู่ 2 หรือ 3 ครั้ง"

     "ไซปุลลาห์ นาซูติออน" กล่าวอีกว่า "ผมจะส่งหนังสือถึงกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่  เพื่อขอให้ส่งคณะทำงานไปตรวจสอบดูว่า โคลนที่ไหลลงสู่ทะเลมีพิษและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์หรือไม่? ซึ่งนั่นจะช่วยให้เราสามารถกำหนดมาตรการที่เหมาะสม ในการแก้ไขปัญหานี้ได้"

     ชาวบ้านโรบูรันโดโลก กล่าวว่า "การปะทุของโคลนถล่ม ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาการเกษตรกรรมอย่างรุนแรง" และ "ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของพวกเขาอย่างรุนแรงอีกด้วย"

     "คอย รุด ดีน" ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า "โคลนถล่มทำลายพืชยางและข้าวหลายต้น และ ทำให้พื้นที่เพาะปลูกบางส่วนไม่อุดมสมบูรณ์ โคลนยังปนเปื้อนแหล่งน้ำสะอาดของหมู่บ้านใกล้เคียงอีก 4 แห่ง ในขณะที่ก๊าซที่ปล่อยออกมาจากโคลนถล่ม ยังทำให้เกิดมลพิษทางอากาศในพื้นที่อีกด้วย" และ "ก่อนหน้านี้ เราเคยพบเห็นการปะทุของโคลนถล่มขนาดเล็ก มาหลายปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีการปะทุเกิดขึ้นเพิ่มมากขึ้น และ ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างขึ้นมาก"

     ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานสุมาตราเหนือ "ริอันดา ปูร์บา" ของหน่วยงานสิ่งแวดล้อมแห่งอินโดนีเซีย กล่าวว่า "จนถึงขณะนี้มีการระบุพบการปะทุ ของภูเขาไฟ 21 ครั้งในหมู่บ้านโรบูรันโดลก" และ "การปะทุของโคลนไหลส่วนใหญ่ อยู่ห่างจากพื้นที่ขุดเจาะที่ดำเนินการโดย "หน่วยจัดการพลังงานความร้อนใต้พิภพ" เพียง 10-15 เมตร เท่านั้น..."

     "หน่วยจัดการพลังงานความร้อนใต้พิภพ" ปฏิเสธความเชื่อมโยงระหว่างการดำเนินงานของบริษัท กับเหตุโคลนถล่มในหมู่บ้าน "โรบูรัน โดลก" โดยอ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ เกิดขึ้นในพื้นที่ในตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา..."