โอละพ่อ! คนแห่ยกเลิกเที่ยวโตเกียว หลังเชื่อหมอดูทำนายผิด
คำทำนายมั่วทำคนผวา! หมอดูพลังจิตญี่ปุ่นทำนายแผ่นดินไหวโตเกียว 26 เม.ย. ไม่เกิดจริง ดราม่าเดือด ชาวเน็ตจวกยับ - Drama-addict ชี้น่าดำเนินคดีเหมือนเมียนมา
เมื่อไม่นานมานี้ โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับคำทำนายของหมอดูพลังจิตชื่อดังจากจังหวัดโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งออกมาทำนายอย่างมั่นอกมั่นใจว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อันสั่นสะเทือนบริเวณอ่าวโตเกียว ในวันที่ 26 เมษายน 2568 โดยบางแหล่งข่าวถึงกับอ้างว่าแรงสั่นสะเทือนจะมีขนาดสูงถึง 8.3 ริกเตอร์ ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยเกิดความหวาดวิตก และส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางของผู้คนทั้งในและนอกประเทศอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันดังกล่าว เหตุการณ์แผ่นดินไหวตามคำทำนายกลับไม่เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด สร้างความไม่พอใจและความผิดหวังในหมู่ประชาชนที่เฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นถูกมองว่าเป็นผลกระทบจากข้อมูลที่ไร้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ นำไปสู่การถกเถียงในโลกโซเชียลถึงความรับผิดชอบของการเผยแพร่ข้อมูลเชิงทำนายที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง
โลกออนไลน์เสียงแตก วิจารณ์สนั่น
บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ความคิดเห็นเกี่ยวกับคำทำนายนี้มีหลากหลาย บางส่วนแสดงความเข้าใจว่า การเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าคำทำนายนั้นจะมีมูลความจริงหรือไม่ แต่กระแสหลักกลับโฟกัสไปที่การวิพากษ์หมอดูคนดังกล่าวอย่างรุนแรง หลายคนมองว่าพฤติกรรมนี้คือการปลุกปั่นให้เกิดความกลัวโดยไร้เหตุผล และเปรียบเปรยว่าคำทำนายครั้งนี้ไม่ต่างอะไรจากการกระทำของ "นักต้มตุ๋น"
ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาในหลายสื่อต่างประเทศได้ออกมายืนยันว่า โอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่อย่างที่ถูกทำนายขึ้นในวันเวลาดังกล่าวนั้นมีน้อยมาก เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์ การคาดการณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำทั้งวันเวลาและสถานที่ยังเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ข้อมูลทางการจากหน่วยงานเตือนภัยของรัฐบาลญี่ปุ่นเอง ก็ระบุว่ามีความเป็นไปได้ในการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในพื้นที่ภูมิภาคคันโต (รวมถึงกรุงโตเกียว) ในช่วงระยะเวลา 30 ปีข้างหน้า แต่การแจ้งเตือนเหล่านี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน ไม่ใช่การทำนายจากพลังจิตหรือการคาดเดา
ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วแผ่นดินไหวตามคำทำนายจะไม่เกิดขึ้น แต่ความเสียหายที่ตามมานั้นกลับมีอยู่จริง ทั้งในแง่เศรษฐกิจและจิตใจ หลายบริษัทท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการในกรุงโตเกียวได้รับผลกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากยกเลิกการเดินทางอย่างกะทันหันเพราะความหวาดกลัว นอกจากนี้ ยังมีผู้คนบางส่วนที่เกิดอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรงถึงขั้นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
ความหวาดกลัวที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนถึงอันตรายของ "ข่าวปลอม" หรือ "ข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริง" ซึ่งเมื่อไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องก่อนเผยแพร่ ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงได้ไม่แพ้ภัยพิบัติที่แท้จริงเลยทีเดียว
Drama-addict ออกโรงแนะดำเนินคดี
ในประเทศไทย เพจดังอย่าง Drama-addict ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องการนำเสนอข้อมูลเพื่อสังคม ได้ออกมาแชร์ข่าวดังกล่าวจากเพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ พร้อมแสดงความคิดเห็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยระบุว่า "หมอดูหมอเดาไร้สาระ น่าดำเนินคดีแบบที่พม่าทำ"
คำกล่าวนี้อ้างอิงถึงกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทางการได้จับกุมหมอดูที่ทำนายเรื่องแผ่นดินไหวโดยไม่มีหลักฐาน และมองว่าการปล่อยให้การเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้สังคมตื่นตระหนกเช่นนี้ลอยนวล เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง Drama-addict ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่สังคมจะต้องมีมาตรการรับมือกับการเผยแพร่ข้อมูลลักษณะนี้อย่างจริงจัง เพื่อปกป้องสังคมจากความหวาดกลัวและความเสียหายที่อาจตามมา
บทเรียนครั้งใหญ่: แยกแยะ “คำทำนาย” กับ “คำเตือนทางวิทยาศาสตร์”
เหตุการณ์นี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่สังคมโลกควรตระหนักว่า คำทำนาย จากหมอดูหรือผู้ที่อ้างว่ามีพลังจิตนั้น ไม่ควรนำมาเป็นเกณฑ์ตัดสินหรือวางแผนชีวิตโดยขาดการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในขณะที่ คำเตือนทางวิทยาศาสตร์ จากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ มีข้อมูลสนับสนุนและกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มงวด จึงควรเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญ
การเตรียมความพร้อมสำหรับภัยพิบัติเป็นเรื่องจำเป็น แต่การตื่นตระหนกไปกับข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานรองรับกลับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนควรทำคือการรู้เท่าทันข่าวสาร มีสติในการเสพสื่อ และเลือกเชื่อถือเฉพาะข้อมูลที่มีที่มาชัดเจน น่าเชื่อถือ และมีการตรวจสอบแล้วเท่านั้น
สรุป
แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่หมอดูพลังจิตจากโอกินาวะได้ทำนายไว้ว่าจะเกิดขึ้นในกรุงโตเกียววันที่ 26 เมษายน 2568 จะไม่เกิดขึ้นจริง แต่เรื่องนี้ได้สร้างบทเรียนอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับความสำคัญของการแยกแยะข้อมูล และการตระหนักถึงผลกระทบของข้อมูลปลอมในยุคดิจิทัลที่ข่าวสารเคลื่อนที่รวดเร็วอย่างในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในอนาคต เมื่อพบเจอกับคำทำนายหรือข้อมูลที่อ้างอิงแหล่งที่มาไม่ชัดเจน สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การตื่นตระหนก แต่คือการตรวจสอบและพิจารณาด้วยเหตุผล เพื่อปกป้องตัวเองและสังคมจากผลกระทบที่ไม่จำเป็น
อ้างอิงจาก: Drama-addict





















