เพจดังเผยอดีต กัน จอมพลัง จากบ้านเก่า สู่เจ้าของแลมโบหรู
ดราม่าจบสวย! กัน จอมพลัง ยอมรับอดีต จับมือ CSI LA ลุยปราบสีเทา
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเพจดัง CSI LA ออกมาเปิดประเด็นขุดคุ้ยอดีตของ กัน จอมพลัง คนดังที่เคลื่อนไหวช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด โดยการเผยแพร่ภาพบ้านหลังเก่า ที่อ้างว่าเป็นที่อยู่อาศัยเมื่อ 20 กว่าปีก่อน พร้อมเปรียบเทียบกับชีวิตหรูหราในปัจจุบัน ที่ขับรถสปอร์ตหรูอย่าง Lamborghini สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
จุดเริ่มต้นของประเด็น
เรื่องราวเริ่มต้นจากโพสต์ของเพจ CSI LA ที่ได้เผยแพร่ภาพบ้านเก่า และมีข้อความจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยประถมของพี่ชายแท้ ๆ ของกัน จอมพลัง โดยเล่าถึงชีวิตในอดีตที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง พร้อมตั้งคำถามถึงที่มาที่ไปของความเปลี่ยนแปลงนี้ กระตุ้นให้สังคมตั้งข้อสงสัยกันอย่างกว้างขวาง
ในเนื้อหาโพสต์นั้น เพื่อนเก่าเล่าว่า เคยวิ่งเล่นกับกัน จอมพลังในย่านบางแก้วมาก่อน จนกระทั่งแยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิต ผ่านมาหลายสิบปี กลับมาเห็นอีกครั้ง กัน จอมพลังก็กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีชีวิตที่หรูหราเกินคาด ความเปลี่ยนแปลงนี้เองที่จุดประเด็นให้เกิดคำถามในสังคม
กัน จอมพลัง ออกมาเปิดใจ
หลังจากถูกเปิดเผยภาพบ้านเก่าเทียบกับชีวิตปัจจุบัน กัน จอมพลัง ไม่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลาย แต่เลือกที่จะโผล่คอมเมนต์ตอบกลับในโพสต์ของเพจ CSI LA ทันที โดยยอมรับตรง ๆ ว่า
"บ้านหลังนี้ผมเคยอยู่จริงครับ จนถึงประมาณ ป.5 พ่อเลิกกับแม่ ผมก็มาอยู่กับแม่ ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่โทรมขนาดนี้ และไม่ใช่สภาพนี้ครับ"
กัน จอมพลังยังระบายความรู้สึกเพิ่มเติมว่า ตัวเขาเองรู้สึกเสียใจที่ถูกขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีต และโดนด่าจากสังคม ทั้งที่สิ่งที่เขาตั้งใจทำมาตลอดคือการช่วยเหลือผู้ที่ลำบาก เขาเผยว่าการโดนตั้งข้อสงสัยและถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ทำให้เขาท้อใจไม่น้อย
พร้อมยืนยันว่า ตนไม่เคยมีการใช้เส้นสายจากนักการเมืองเพื่อรังแกใคร มีแต่ช่วยเหลือคนเดือดร้อน และที่สำคัญที่สุดคือ "ไม่เคยเปลี่ยนชื่อ" ตามที่เคยมีข่าวลือ โดยย้ำชัดเจนว่าไม่เคยใช้ชื่อ กันต์ธีร์ ศุภมงคลชัย อย่างที่บางคนพยายามกล่าวหา
น้ำตาลูกผู้ชายจากอดีตที่เจ็บปวด
กัน จอมพลัง ยังได้เปิดเผยความรู้สึกอย่างจริงใจอีกครั้งว่า เมื่อได้เห็นภาพบ้านหลังเก่า เขาถึงกับน้ำตาไหลไม่หยุด เพราะภาพเหล่านั้นคือความจริงในอดีตที่เขาเคยผ่านความลำบากมาอย่างแท้จริง เขาเผยว่า
"เกิดมาจนจริง ๆ ความรู้สึกตอนนี้มันโคตรเสียใจเลยครับ จากใจครับ"
น้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลออกมาในวันนั้น ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ความเสียใจ แต่ยังแสดงถึงการต่อสู้ดิ้นรนจนสร้างตัวเองมาถึงจุดนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างมีความคิดเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับการตรวจสอบของเพจ CSI LA เพราะมองว่าการตรวจสอบบุคคลสาธารณะเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือและการใช้ตำแหน่งในการช่วยเหลือสังคม
ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่าการขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตเมื่อ 20 กว่าปีก่อนมาเทียบกับปัจจุบันนั้นอาจไม่เป็นธรรม เพราะคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ การตัดสินคนจากอดีตที่ผ่านไปแล้วโดยไม่ดูผลงานปัจจุบัน ถือว่าไม่ยุติธรรม ควรโฟกัสที่ข้อเท็จจริงและหลักฐานการกระทำผิดกฎหมาย (หากมี) มากกว่าการวิจารณ์ชีวิตส่วนตัว
จบลงด้วยการจับมือ ร่วมลุยปราบสีเทา
หลังจากมีการตอบโต้กันอยู่ระยะหนึ่ง ดูเหมือนว่าดราม่าครั้งนี้จะจบลงด้วยดี เมื่อทางเพจ CSI LA ได้โพสต์ข้อความล่าสุด เปิดเผยว่าได้มีการพูดคุยกับ กัน จอมพลัง เป็นการส่วนตัว และสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริง รวมถึงพลังบวกที่มีต่อสังคม
CSI LA ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า
"ตราบใดที่หัวใจยังยืนข้างประชาชน - เราคือพันธมิตรกันเสมอ"
พร้อมกันนี้ยังได้เชิญชวน กัน จอมพลัง ให้เข้าร่วมมือกันในการตรวจสอบหน่วยงานรัฐ และเปิดโปงเครือข่ายสีเทา ซึ่งกัน จอมพลังก็ตอบรับด้วยดี โดยขอเพียงว่าการทำงานร่วมกันนั้นต้องอยู่ในขอบเขตของความถนัด และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
บทสรุป
ดราม่าขุดคุ้ยอดีตของกัน จอมพลังในครั้งนี้ แม้จะเริ่มต้นด้วยความไม่เข้าใจกัน แต่ท้ายที่สุดกลับจบลงด้วยการจับมือร่วมงานเพื่อสังคม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีว่าความขัดแย้งสามารถนำไปสู่ความร่วมมือได้ หากมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องราวนี้ยังคงเป็นที่จับตามองจากสังคม ว่าการจับมือระหว่าง CSI LA และ กัน จอมพลัง จะสามารถนำพาความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมาสู่สังคมได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับวันนี้ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ อดีตไม่สามารถกำหนดอนาคตของใครได้ หากแต่ความตั้งใจและการกระทำในปัจจุบันต่างหากที่จะบอกได้ว่าคน ๆ นั้นคือใคร
อ้างอิงจาก: CSI LA













