ร้อนฉ่า! ดราม่าจาก Rolex เป็น Seiko? เปิดราคานาฬิกา สส.โรม ความจริงไม่ตรงที่คิด

ร้อนฉ่า! ดราม่า "นาฬิกาโรม" จาก Rolex สู่ Seiko ปมร้อนกลางสภา-เจ้าตัวเดือดโต้กลับข่าวเท็จ

วงการการเมืองไทยไม่เคยมีวันเงียบ ล่าสุดเกิดประเด็นดราม่าร้อน ๆ เมื่อเพจดัง "วันนี้พรรคสัมโกหกอะไร" ได้ออกมาโพสต์ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับนาฬิกาหรูบนข้อมือของ รังสิมันต์ โรม ส.ส. หนุ่มดาวรุ่งจากพรรคประชาชน ที่ปรากฏตัวในงานสาธารณะต่าง ๆ พร้อมกับนาฬิกาข้อมือหน้าตาดูดีราคาไม่น้อย จนเพจดังถึงขั้นระบุว่าเรือนนี้อาจเป็น Rolex รุ่น Yacht-Master II หนึ่งในรุ่นนาฬิกาหรูที่มีราคาสูงถึงหลักล้านบาท!

เพจฯ เปิดราคาช็อกใจ! นาฬิกาเรือนเดียว หลักแสนถึงหลักล้าน

โดย "วันนี้พรรคสัมโกหกอะไร" ได้โพสต์วิเคราะห์พร้อมเปรียบเทียบภาพนาฬิกาในมือ ส.ส.โรม กับ Rolex Yacht-Master II ซึ่งมีราคาสูงลิ่ว เริ่มตั้งแต่รุ่นสแตนเลสสตีล ที่มีราคาขายในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 499,000 - 569,000 บาท ไปจนถึงรุ่นผสมทองคำ Everose ที่ราคาพุ่งไปถึง 6 แสนบาทกลาง ๆ และหากเป็นรุ่นทองคำ 18K ล้วน ๆ ราคาตลาดโลกอาจแตะที่ 1.46 ล้านบาท ได้เลยทีเดียว!

เมื่อเพจดังตั้งข้อสังเกตเรื่องราคาแพงลิบเช่นนี้ ทำให้ผู้คนในโซเชียลหลายคนถึงกับตกตะลึง เพราะถ้าหากเป็น Rolex จริง ๆ นั่นย่อมเป็นสมบัติมูลค่าสูงที่ควรถูกระบุไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.

ปมร้อนหนัก! ไม่พบ Rolex ในบัญชีทรัพย์สิน ส.ส.โรม

ประเด็นเริ่มลุกลามไปอีกขั้น เมื่อเพจฯ ดังกล่าวขุดไปถึงบัญชีทรัพย์สินที่ ส.ส.โรม เคยยื่นต่อ ป.ป.ช. โดยพบว่ามีรายการทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งทองคำแท่ง, สร้อยคอ, แหวน, จี้เพชร, จี้ทองคำ รวมถึงเหรียญดิจิทัลถึง 25 สกุล แต่กลับไม่มีการระบุนาฬิกา Rolex เรือนดังกล่าวไว้เลยแม้แต่น้อย ทำให้เกิดข้อสงสัยในสังคมว่า หากนาฬิกาหรูราคาหลักแสนหลักล้านมีอยู่จริง ทำไมถึงไม่มีการระบุในบัญชีทรัพย์สินตามที่กฎหมายกำหนด?

Drama-addict โผล่เบรก! ชี้อาจเป็น Seiko ไม่ใช่ Rolex

ดราม่ากำลังจะลุกลามใหญ่โต ทว่าจู่ ๆ เพจสายสุขภาพชื่อดังอย่าง Drama-addict ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลเบรกกระแสดังกล่าว โดยตั้งข้อสังเกตจากลักษณะนาฬิกาในภาพว่า นาฬิกาที่สวมใส่อาจไม่ใช่ Rolex Yacht-Master II อย่างที่กล่าวอ้าง เพราะตำแหน่งเม็ดมะยม (ปุ่มปรับเวลา) และหน้าปัดดูแตกต่างจาก Rolex รุ่นดังกล่าวอย่างชัดเจน

Drama-addict ยังระบุเพิ่มเติมว่านาฬิการูปทรงสปอร์ตแบบนี้ ไม่ได้มีแต่ Rolex เท่านั้นที่ผลิต แต่ยังมีแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Seiko จากญี่ปุ่นที่ทำดีไซน์คล้ายกัน โดยเฉพาะ Seiko Prospex SPB383J1 ซึ่งมีราคามือหนึ่งอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท และถ้าเป็นมือสอง ราคาก็อาจลดลงเหลือเพียงประมาณ 30,000 กว่าบาท เท่านั้น — เรียกว่าราคาห่างกันลิบลับจาก Rolex หลักล้าน!

ชาวเน็ตเสียงแตก! ดราม่าซ้อนดราม่า โยงไปถึงตำนาน "นาฬิกาเพื่อน"

หลังข้อมูลชุดใหม่ถูกเผยแพร่ออกมา ชาวโซเชียลก็ต่างแตกออกเป็นสองเสียง บางคนมองว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองสาดโคลนใส่กันเพื่อลดความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้าม ขณะที่บางส่วนย้อนรำลึกถึงดราม่านาฬิกาหรูในอดีตของนักการเมืองระดับบิ๊ก จนตั้งข้อสังเกตว่าประเด็นเรื่อง "นาฬิกา" เป็นเครื่องมือโจมตีในวงการเมืองไทยได้เสมอ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สำคัญจริง ๆ คือ นาฬิกาบนข้อมือของ ส.ส.โรม เป็น Rolex หรือ Seiko กันแน่? และถ้าเป็น Rolex จริง ๆ ก็ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการละเว้นการแจ้งบัญชีทรัพย์สินจริงหรือไม่

รังสิมันต์ โรม ออกโรงชี้แจงเดือด! โต้กลับข่าวเท็จ

ไม่นานหลังจากกระแสดราม่าโหมหนัก รังสิมันต์ โรม ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ข่าวที่กล่าวหาตนว่าใส่ Rolex และไม่แจ้งในบัญชีทรัพย์สินนั้นเป็น "ข่าวเท็จ" พร้อมยืนยันอย่างหนักแน่นว่านาฬิกาที่เขาสวมใส่เป็น Seiko ซึ่งภรรยาเป็นคนซื้อให้ ไม่ใช่ Rolex อย่างที่ถูกกล่าวหา

โรมได้ระบายความรู้สึกว่า ตนเองไม่อยากเสียเวลามาตอบโต้เรื่องไร้สาระเช่นนี้ แต่หากสื่อมวลชนจะนำเรื่องนี้มาเล่น ก็ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าเพียงแค่ถามเขาตรง ๆ หรือให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ก็จะรู้ได้ทันทีว่านาฬิกาเรือนนี้คือ Seiko ในช่วงท้ายของการชี้แจง โรมยังฝากข้อความด้วยอารมณ์สะเทือนใจว่า

"สรุปสั้น ๆ ช่วยให้เกียรติ Seiko ผมด้วย ขอบคุณ"

การออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมานี้ ทำให้แฟนคลับและผู้สนับสนุนจำนวนไม่น้อยต่างเข้าไปให้กำลังใจ พร้อมเรียกร้องให้สังคมหันมาโฟกัสที่ผลงานและอุดมการณ์ของนักการเมือง มากกว่าการจ้องจับผิดเรื่องส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้

สรุปประเด็นร้อน

จากเรื่องนี้ เราจะเห็นได้ว่าในโลกการเมืองไทย กระแสโซเชียลสามารถปั่นประเด็นเล็ก ๆ ให้กลายเป็นไฟลามทุ่งได้ในเวลาไม่นาน สิ่งที่ควรมีมากขึ้นคือการตรวจสอบข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนเผยแพร่ และการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเสมอภาค ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า ภาพลักษณ์ ความโปร่งใส และความละเอียดรอบคอบ ยังเป็นคุณสมบัติที่ประชาชนไทยคาดหวังจากผู้แทนของตนอย่างสูงสุด