หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ร่วมแข่งขันวิ่งกับนักวิ่งมนุษย์ ผลสรุปยังห่างไกลมนุษย์อีกมาก
ที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยี "อี-ทาวน์" ในกรุงปักกิ่ง เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ด้านหุ่นยนต์ได้เกิดขึ้น เมื่อหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ (humanoid robots) จำนวน 21 ตัว เข้าร่วมแข่งขันวิ่งกึ่งมาราธอนระยะทาง 21.0975 กิโลเมตร ควบคู่ไปกับนักวิ่งมนุษย์หลายพันคน นี่คือการทดสอบสมรรถนะของหุ่นยนต์ในสภาพแวดล้อมจริงที่ท้าทายที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ผลลัพธ์กลับเผยให้เห็นว่า "เส้นทางแห่งความก้าวหน้า" ของหุ่นยนต์ยังอีกยาวไกลกว่าจะทัดเทียมมนุษย์
หุ่นยนต์แต่ละตัวต้องเผชิญกับเส้นทางวิ่งที่มีทั้งทางลาดชัน หลุมบ่อ แอ่งน้ำ และพื้นผิวถนนที่เปลี่ยนไปตลอดระยะทาง ทีมวิศวกรคอยให้การสนับสนุนแบบเรียลไทม์ ไม่ต่างจากทีมนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่และแก้ไขปัญหาทางเทคนิคเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม จากทั้งหมด 21 ตัว มีเพียง 6 ตัวที่สามารถวิ่งถึงเส้นชัยได้ โดยหุ่นยนต์ "เทียนกง อัลตร้า" ทำเวลาได้ 2 ชั่วโมง 40 นาที 42 วินาที ซึ่งช้ากว่าเวลาของมนุษย์ถึง 2 เท่า (มนุษย์ทำเวลาเร็วที่สุดที่ 1 ชั่วโมง 2 นาที)
หุ่นยนต์ที่เข้าร่วมแสดงให้เห็นความก้าวหน้าด้าน "ความเสถียรของข้อต่อ" ที่ทนต่อความร้อนและการสั่นสะเทือน รวมถึงอัลกอริทึมควบคุมการเคลื่อนไหวที่ปรับตัวกับสภาพถนนได้ดีขึ้น แต่ในทางกลับกัน พวกมันยังต้องพึ่งพามนุษย์ในหลายด้าน ทั้งการนำทางด้วยสัญญาณจากอุปกรณ์นำทาง การควบคุมระยะไกลเพื่อรักษาสมดุล และการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 10-15 กิโลเมตร ซึ่งสะท้อนถึงข้อจำกัดด้านพลังงานและระบบอัตโนมัติ
แม้ผลการแข่งขันจะแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์ยังตามหลังมนุษย์ในด้านความเร็ว ความทนทาน และความเป็นอิสระ แต่เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่เปิดมุมมองใหม่ในการออกแบบหุ่นยนต์รุ่นต่อไป ผู้จัดงานกล่าวว่า "การแข่งขันนี้ช่วยประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหว พลังงาน และอัลกอริทึมควบคุม ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ให้ก้าวหน้า" แม้ว่าวันนี้หุ่นยนต์จะยังวิ่งไม่เร็วเท่ามนุษย์ แต่การแข่งขันนี้คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่อาจเปลี่ยนโลกในอนาคต






















