สามีโพสต์ภาพ "นายกฯ อิ้งค์" แอดมิท เผยชัดร่างกายไม่ไหว เตือนแล้วแต่ยังฝืน
“นายกฯ แพทองธาร แอดมิตโรงพยาบาลหลังกลับจากกัมพูชา หมอเร่งตรวจอาการ ขณะ ‘สามี’ โพสต์เตือนผ่านไอจี ร่างกายส่งสัญญาณแล้ว”
กลายเป็นข่าวที่สร้างความตกใจและเป็นห่วงในหมู่ประชาชนและผู้ติดตามสถานการณ์การเมือง เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงอาการป่วยของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศไทย ซึ่งล่าสุดต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างเป็นทางการ
จากภารกิจสำคัญสู่การพักฟื้นฉุกเฉิน – เบื้องหลังการตัดสินใจแอดมิต
นายจิรายุเปิดเผยว่า หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร เดินทางกลับจากภารกิจเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เธอเริ่มมีอาการรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย มีไข้ขึ้นต่ำ และคาดว่าอาจจะเป็นเพียงอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางไกล จึงกลับบ้านตามปกติ อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิร่างกายกลับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงกลางคืน ทำให้ต้องเดินทางไปพบแพทย์โดยเร่งด่วนในช่วงดึกของวันที่ 24 เมษายน 2568
แพทย์ที่ดูแลตัดสินใจให้แอดมิตนายกรัฐมนตรีเข้ารักษาตัวภายในโรงพยาบาลทันที เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยคาดว่าภายในเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) แพทย์จะตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยสาเหตุของไข้และอาการอื่น ๆ ที่อาจตามมา
ภารกิจของนายกฯ ต้องเลื่อน – มอบหมายรองนายกฯ ประจำการแทน
อาการป่วยของนายกรัฐมนตรีหญิงส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำหนดการในวันที่ 25 เมษายน 2568 ซึ่งมีกำหนดการหลายรายการที่ต้องดำเนินงานที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะการให้การต้อนรับคณะบุคคลที่ขอเข้าพบหารือและประสานงานต่าง ๆ
เพื่อไม่ให้การบริหารงานของรัฐหยุดชะงัก น.ส.แพทองธารได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่แทนในช่วงที่เธอพักรักษาตัว โดยนายจิรายุยืนยันว่า “แม้ตัวนายกรัฐมนตรีจะต้องเข้ารักษาตัว แต่การบริหารราชการแผ่นดินจะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างราบรื่น และไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจในระดับนโยบายสำคัญใด ๆ”
โพสต์เตือนใจจากสามี “ใครเตือนไม่ฟัง” – เบื้องหลังการทุ่มเทของผู้นำหญิง
สิ่งที่ทำให้หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือโพสต์ในสตอรี่ Instagram ของนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ลงภาพของภรรยาในระหว่างที่แอดมิตอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมข้อความสั้น ๆ แต่แฝงด้วยความรู้สึก “ใครเตือนไม่ฟัง ร่างกายเตือนแล้วไม่ไหว”
ข้อความดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นห่วงที่มีต่อนายกรัฐมนตรี ที่ในช่วงที่ผ่านมาได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างหนักในบทบาทผู้นำประเทศ โดยเฉพาะช่วงหลังจากการรับตำแหน่งเต็มตัวอย่างเป็นทางการ ที่เธอต้องเดินสายพบผู้นำประเทศต่าง ๆ ดำเนินภารกิจระหว่างประเทศไม่เว้นวัน เพื่อดึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การลงทุน และความมั่นคงในภูมิภาค
คำว่า “ใครเตือนไม่ฟัง” ที่สามีโพสต์นั้น หลายคนตีความว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า นายกรัฐมนตรีทำงานหนักเกินไป จนละเลยสัญญาณเตือนจากร่างกาย ทั้งที่คนรอบข้างเคยแนะนำให้ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หรือกระจายงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชาในบางส่วน
ประชาชนส่งกำลังใจล้นหลาม – ขอให้หายไวไว กลับมาสานงานต่อ
เมื่อข่าวการเข้ารักษาตัวของนายกรัฐมนตรีถูกเผยแพร่ผ่านสื่อหลักและโซเชียลมีเดีย ก็มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความเป็นห่วง พร้อมร่วมส่งกำลังใจให้เธอหายจากอาการป่วยโดยเร็ว หลายคนยกย่องความตั้งใจและความเสียสละของ น.ส.แพทองธาร ที่แม้จะเพิ่งคลอดบุตรคนที่สองไม่นาน ก็ยังกลับมาทำงานอย่างเต็มที่
บนแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) มีการติดแฮชแท็ก #นายกแพทองธาร และ ขึ้นเทรนด์อันดับต้น ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีทั้งภาพคำอวยพร ข้อความให้กำลังใจ และบางคนถึงขั้นจัดทำคลิปย้อนภาพผลงานของเธอตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายหันกลับมาตั้งคำถามถึงระบบการดูแลสุขภาพของผู้นำประเทศว่าเพียงพอหรือไม่ เพราะแม้จะมีทีมแพทย์ประจำตัว แต่การทำงานที่หนักหน่วงต่อเนื่องหลายเดือน อาจเป็นปัจจัยเร่งให้อาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะผู้นำหญิงที่มีบทบาทเป็นทั้งแม่ ภรรยา และหัวหน้ารัฐบาลในเวลาเดียวกัน
ในหลายประเทศทั่วโลก การตรวจสุขภาพประจำปีของผู้นำ หรือการเผยแพร่ข้อมูลทางสุขภาพบางส่วนต่อสาธารณะ เป็นวิธีที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และในบางกรณี ยังสามารถใช้เป็นแบบอย่างการดูแลสุขภาพให้กับประชาชนทั่วไปอีกด้วย
ขณะนี้อาการของ น.ส.แพทองธาร ยังอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด และจะมีการแถลงอัปเดตจากโฆษกรัฐบาลอีกครั้งหลังจากมีผลการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจน
ในระหว่างนี้ สิ่งสำคัญคือการให้ความร่วมมือในการแชร์ข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และร่วมส่งกำลังใจให้กับนายกรัฐมนตรีให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว เพื่อทำหน้าที่นำพาประเทศในช่วงเวลาสำคัญต่อไป
แม้วันนี้เธอจะต้องพักฟื้นจากอาการไข้ แต่ “ใจ” ของผู้นำหญิงคนนี้ยังคงยืนหยัด และยังคงได้รับแรงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากประชาชนผู้ศรัทธา
อ้างอิงจาก: ภาพจากIG@pidok_s


