พบหมึกโคลอสซัลมีชีวิตครั้งแรกในมหาสมุทร
ในที่สุดความฝันของนักวิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นจริง เมื่อสามารถบันทึกภาพหมึกโคลอสซัล (Mesonychoteuthis hamiltoni) ที่ยังมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่สายพันธุ์นี้ถูกค้นพบและศึกษามานานกว่าร้อยปี แต่ไม่เคยมีใครได้เห็นพวกมันในสภาพแวดล้อมจริงมาก่อน
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้น ใกล้หมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ทีมนักวิจัยจาก Schmidt Ocean Institute ใช้ยานสำรวจใต้น้ำควบคุมระยะไกลชื่อ SuBastian ลงไปถ่ายภาพหมึกโคลอสซัลที่ระดับความลึกประมาณ 600 เมตร หมึกที่บันทึกภาพได้เป็นตัวอ่อนวัยรุ่น มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับหมึกโคลอสซัลโตเต็มวัยที่สามารถยาวได้ถึง 7 เมตรและหนักถึง 500 กิโลกรัม หมึกโคลอสซัลถือเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ใหญ่และหนักที่สุดในโลก
การได้เห็นหมึกโคลอสซัลมีชีวิตในธรรมชาติครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้เรารู้จักหมึกชนิดนี้เพียงจากซากที่พบในท้องปลาวาฬสเปิร์มหรือซากที่ถูกจับขึ้นมาจากทะเลเท่านั้น หมึกวัยรุ่นที่พบมีลำตัวโปร่งแสงและแขนขาเรียวยาว ซึ่งเป็นลักษณะที่แตกต่างจากหมึกโตเต็มวัยซึ่งมีสีเข้มและทึบแสง การค้นพบนี้ช่วยเติมเต็มความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรชีวิตของหมึกโคลอสซัล โดยเฉพาะในช่วงวัยกลางที่ยังไม่เคยมีข้อมูลมาก่อน
ภาพและข้อมูลจากการสำรวจครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน เช่น ดร.แคท โบลสตัด จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีโอ๊คแลนด์ และ ดร.อารอน อีแวนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านหมึกกระดองแก้ว นักวิจัยมีความหวังว่าการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างยานสำรวจใต้น้ำและกล้องถ่ายภาพใต้น้ำจะช่วยให้สามารถบันทึกภาพหมึกโคลอสซัลโตเต็มวัยได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเปิดเผยความลับของสัตว์ทะเลลึกที่ยังคงเป็นปริศนา
ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Ocean Census ที่มุ่งสำรวจและค้นพบสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกที่ยังไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน และยังได้พบหมึกกระดองแก้วสายพันธุ์หายากอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรลึกยังเต็มไปด้วยความลึกลับและสิ่งมีชีวิตที่รอการค้นพบอีกมากมาย
ดร.แคท โบลสตัดกล่าวไว้ว่า “มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นหมึกโคลอสซัลวัยรุ่นมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติ และรู้สึกถ่อมตนที่พวกมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามนุษย์มีอยู่ในโลกนี้” การค้นพบครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มพูนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังตอกย้ำถึงความมหัศจรรย์และความลึกลับของโลกใต้ทะเลลึกที่มนุษย์ยังไม่อาจเข้าถึงได้อย่างสมบูรณ์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจและเข้าใจชีวิตในห้วงลึกที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นในอนาคต
















