โกลาหล! หนุ่มร่างยักษ์คลั่งในซูเปอร์มาร์เก็ต 20 คนรุมยังคุมไม่อยู่
แตกตื่นกลางห้าง! หนุ่มกานาคลั่งยับกลางซูเปอร์มาร์เก็ตอินโดนีเซีย ทะเลาะเมียก่อนระเบิดอารมณ์ ทุบของ-ราดน้ำมันใส่ตัว คนกว่า 20 คนยังเอาไม่อยู่
กลายเป็นไวรัลชวนช็อกในโลกโซเชียล เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา กับเหตุการณ์สุดระทึกกลางซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อชายชาวกานาเกิดอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก ภายหลังมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับภรรยา จนถึงขั้นบุกเข้าไปภายในห้างค้าปลีกชื่อดัง แล้วก่อเหตุทำลายข้าวของเสียหายจำนวนมาก ท่ามกลางสายตาของพนักงานห้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และประชาชนที่ต่างพากันตกตะลึงและหวาดกลัว
เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้โดยผู้ใช้แพลตฟอร์ม X รายหนึ่งในชื่อว่า @ChovaMelians26 ซึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุจนกลายเป็นไวรัลทันที และถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศอินโดนีเซียและทั่วโลก โดยภายในคลิปเผยให้เห็นภาพของชายร่างใหญ่ชาวกานาในสภาพที่กำลังโกรธเกรี้ยวสุดขีด พังข้าวของที่วางอยู่ในร้าน ทั้งชั้นวางสินค้า โต๊ะ เก้าอี้ ขวดน้ำ ข้าวสาร และแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ไม่รอดจากความบ้าคลั่งของเขา
ชายกานาคลั่ง ราดน้ำมันบนตัวเอง เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าใกล้
สิ่งที่สร้างความตกใจยิ่งขึ้นคือการที่ชายรายนี้ได้นำน้ำมันทำอาหารมาราดลงบนร่างกายของตนเอง โดยไม่ทราบเจตนาแน่ชัดว่าเขาต้องการจุดไฟเผาตัวเองหรือเป็นเพียงการแสดงออกถึงความสิ้นหวังในขณะนั้น ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์รวมถึงประชาชนมากกว่า 20 คน ต่างยืนล้อมรอบในระยะห่าง ไม่มีใครกล้าเข้าประชิดตัวชายกานา เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย หรือสถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งขึ้น
จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา มีการแสดงให้เห็นว่ามีประชาชนพยายามโยนเก้าอี้และสิ่งของเข้าหาชายรายนี้ เพื่อให้เขาหยุดความบ้าคลั่ง แต่กลับยิ่งเป็นการยั่วยุให้เขาอาละวาดหนักขึ้นกว่าเดิม มีการฟาดข้าวของใส่ผู้คนรอบข้าง สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
ชาวบ้าน รปภ. รวมพลัง รุมจับแต่เอาไม่อยู่
แม้จะมีคนจำนวนมากพยายามเข้าระงับเหตุ แต่ชายกานาผู้นี้ก็ยังคงฮึดสู้ด้วยความดุเดือด ล้มเจ้าหน้าที่ได้หลายรายก่อนจะพยายามวิ่งหนีออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต จนเกิดเหตุชุลมุนกลางลานจอดรถอย่างต่อเนื่อง ซึ่งท้ายที่สุดหลังจากต่อสู้กันอยู่นานหลายนาที ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็สามารถจับตัวชายรายนี้ได้สำเร็จ โดยใช้กำลังหลายคนช่วยกันกดร่างลงกับพื้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปยังสถานีตำรวจในเขตใกล้เคียงเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง
เปิดเบื้องหลัง ทะเลาะเมีย-เมายา จุดชนวนโศกนาฏกรรมกลางห้าง
จากการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจท้องถิ่น ระบุว่า ชายชาวกานาคนดังกล่าวมีชื่อว่า เอ็มมานูเอล (Emmanuel) อายุประมาณ 35 ปี เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซียได้ระยะหนึ่งในฐานะผู้มีถิ่นพำนักชั่วคราว และมีภรรยาเป็นชาวอินโดนีเซียซึ่งทำงานอยู่ในกรุงจาการ์ตาเช่นกัน
ก่อนเกิดเหตุไม่นาน มีพยานให้การว่า “เอ็มมานูเอล” ได้ทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรงภายในที่พักของตนเอง และได้มีการใช้วาจารุนแรง รวมถึงมีการทำลายข้าวของในบ้าน ก่อนจะเดินทางมายังซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยอารมณ์โมโหและความเครียดสะสม อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเขาอยู่ในอาการมึนเมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดบางอย่าง
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ากำลังรอผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าเขามีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ แต่จากพฤติกรรมที่เห็นในคลิป ก็บ่งบอกได้ว่าชายคนนี้ไม่อยู่ในภาวะจิตปกติขณะก่อเหตุ
ซูเปอร์มาร์เก็ตเสียหายนับล้าน ลูกค้าผวาไม่กล้าเข้าใช้บริการ
ผลจากเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายแก่ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างมาก ทั้งในแง่ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายโดยตรง เช่น ชั้นวางสินค้าแตกหัก สินค้าหลายรายการถูกทำลายปนเปื้อน และบรรยากาศภายในร้านที่ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง โดยมีการประเมินเบื้องต้นว่า ความเสียหายอาจมีมูลค่าหลายล้านรูเปียห์ (สกุลเงินของอินโดนีเซีย)
ขณะเดียวกัน ลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันวิ่งหนีด้วยความตกใจ และมีบางรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการเบียดเสียดระหว่างหนีออกจากพื้นที่ จนถึงตอนนี้ ร้านยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากต้องมีการเก็บกวาด และตรวจสอบระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
เสียงจากโซเชียล บางรายเข้าใจ บางรายประณาม
เมื่อคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง บางคนรู้สึกเห็นใจชายกานารายนี้ โดยให้เหตุผลว่าอาจเกิดจากภาวะความเครียดสะสมหรือปัญหาชีวิตที่รุนแรง ขณะที่อีกหลายคนประณามว่า การกระทำเช่นนี้ไม่สามารถยอมรับได้ ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นเช่นไร เพราะสร้างความหวาดกลัวและอันตรายต่อสังคมโดยรวม
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการจัดการของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ว่าทำไมถึงไม่สามารถระงับเหตุได้เร็วหรือมีอุปกรณ์ในการคุมสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการเพิ่มความเข้มงวดในระบบความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ
บทสรุป ความรุนแรงไม่ใช่คำตอบ และกฎหมายจะจัดการต่อไป
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสำคัญที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเครียด ปัญหาครอบครัว หรือสภาวะจิตใจที่ไม่มั่นคง หากไม่ได้รับการดูแลหรือเยียวยาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงที่ไม่คาดคิด
ขณะนี้ชายชาวกานายังคงถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจในกรุงจาการ์ตา และอาจต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ทรัพย์สิน และคุกคามความสงบเรียบร้อยในที่สาธารณะ ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ก็อาจต้องโทษจำคุกตามกฎหมายของอินโดนีเซีย
แม้เรื่องจะจบลงแล้ว แต่ภาพความหวาดกลัวจากเหตุการณ์กลางห้างจะยังคงอยู่ในใจของผู้พบเห็นอีกนาน และเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาว่า "อารมณ์เพียงเสี้ยวนาที อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตให้พังทลายได้"

