ขับรถเมล์มา 30 ปี สูญเงินบำนาญ 2.8 ล้านเยน เพราะขโมยเงินค่าโดยสาร 1,000 เยน
ในประเทศญี่ปุ่น เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจให้กับสังคม เมื่อพนักงานขับรถโดยสารประจำทางในเมืองเกียวโต ผู้มีประสบการณ์ทำงานยาวนานถึง 29 ปี ต้องสูญเสียเงินบำนาญกว่า 12 ล้านเยน เพียงเพราะขโมยเงินค่าโดยสารจำนวน 1,000 เยน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกล้องวงจรปิดบนรถบัสจับภาพขณะที่พนักงานขับรถรายนี้หยิบเงินค่าโดยสารใส่กระเป๋าตัวเอง แทนที่จะนำไปใส่เครื่องรับเงินตามระเบียบ เมื่อถูกหัวหน้างานสอบถาม เขากลับปฏิเสธข้อกล่าวหา แม้จะมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดก็ตาม
ต่อมาสำนักงานขนส่งสาธารณะเมืองเกียวโตได้สั่งให้นายคนขับรถบัสผู้นี้ออกจากงาน และตัดสิทธิ์เงินบำนาญที่เขาสะสมมานานเกือบสามทศวรรษ แม้เจ้าตัวจะคืนเงินที่ขโมยไปแล้วก็ตาม เขาจึงยื่นฟ้องต่อศาล โดยให้เหตุผลว่าการลงโทษรุนแรงเกินไปเมื่อเทียบกับความผิดที่เกิดขึ้น
ศาลชั้นต้นเห็นด้วยกับคนขับรถบัส และมีคำสั่งให้คืนเงินบำนาญแก่เขา อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาของญี่ปุ่นกลับมีคำตัดสินให้สำนักงานขนส่งสามารถลงโทษขั้นสูงสุดได้ โดยให้เหตุผลว่าการทุจริตแม้เพียงเล็กน้อยในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเงินสาธารณะ ย่อมบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบขนส่งและองค์กร
นอกจากนี้ ศาลยังพิจารณาประวัติการทำงานของคนขับรถบัส ซึ่งเคยถูกตักเตือนเรื่องการสูบบุหรี่ไฟฟ้าขณะปฏิบัติหน้าที่ (แม้จะไม่ได้สูบต่อหน้าผู้โดยสาร) จึงเห็นว่าการลงโทษดังกล่าวเหมาะสมแล้ว เพื่อรักษามาตรฐานและความโปร่งใสในองค์กร
เหตุการณ์นี้จึงเป็นอุทาหรณ์สำคัญของการรักษาความซื่อสัตย์สุจริตในหน้าที่ แม้ความผิดจะดูเล็กน้อย แต่สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับเงินของส่วนรวม ความไว้วางใจคือสิ่งสำคัญที่สุด และหากสูญเสียไปแล้ว อาจต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่ามากกว่าที่คิด








