ญี่ปุ่นพิจารณาขยายการนำเข้าข้าวจากมะกันแบบปลอดภาษี
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายการนำเข้าข้าว ที่ปลูกในอเมริกา โดยไม่เสียภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาเรื่องภาษีที่สูงขึ้น ที่บังคับใช้โดยวอชิงตัน
ข้อเสนอหนึ่งเกี่ยวข้องกับ การเพิ่มปริมาณการนำเข้าจากอเมริกา เป็นประมาณ 410,000 ตันจาก 350,000 ตันในปัจจุบัน แหล่งข่าวกล่าวว่าปัจจุบันญี่ปุ่นนำเข้าประมาณ 770,000 ตันทั่วโลกทุกปีโดยไม่เสียภาษี
โดยทั่วไปแล้ว ญี่ปุ่นจะปกป้องอุตสาหกรรมข้าวในประเทศ ในการเจรจาการค้า แต่รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจว่าจำเป็นต้องมีการผ่อนปรนบางประการ เพื่อให้ได้รับการยกเว้นภาษีจากอเมริกา โดยข้อเสนอนี้เกิดขึ้นท่ามกลาง เสียงเรียกร้องที่เพิ่มมากขึ้นในญี่ปุ่น ที่ต้องการข้าวที่นำเข้าในราคาที่ถูกลง เนื่องจากราคายังคงพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขาดแคลนอุปทาน ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะปล่อยข้าวสำรองออกไปเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อบรรเทาความตึงเครียดในตลาดก็ตาม
เนื่องจากข้าวจากอเมริกา ที่เพิ่มขึ้น 60,000 ตันจะอยู่ในขอบเขตข้อตกลงการเข้าถึงขั้นต่ำของญี่ปุ่น ผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ จึงอาจจำกัดอยู่เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การนำเข้าข้าวในปริมาณที่มากขึ้น อาจทำให้ราคาข้าวตกต่ำและกระทบต่อรายได้ ของผู้ผลิต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจ "เรียวเซอิ อากาซาวะ" ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาของญี่ปุ่น และ ผู้ช่วยใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรี "ชิเงรุ อิชิบะ" คาดว่า จะจัดการเจรจารอบที่สองกับอเมริกา เกี่ยวกับภาษีนำเข้าในช่วงปลายเดือนนี้
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำหนดภาษีนำเข้าข้าว ที่เกินโควตาแบบปลอดภาษี ประจำปีอยู่ที่ 341 เยนต่อกิโลกรัม ในเดือนมีนาคม 2025 ราคาข้าวเพิ่มขึ้น 92.1 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน ซึ่งถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีข้อมูลเปรียบเทียบในปี 1971 ในขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และ ประมง กล่าวเมื่อปลายปีที่แล้วว่า "การผลิตข้าวของญี่ปุ่น ในปี 2024 คาดว่าจะสูงถึง 6.83 ล้านตัน"
รัฐบาลของประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำของอเมริกา เรียกร้องให้โตเกียวเปิดตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น โดยผ่อนปรนอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร เช่น กฎระเบียบความปลอดภัยยานยนต์ เงินอุดหนุน และ ระบบการนำเข้าและจัดจำหน่ายข้าว" โดยทรัมป์บ่นว่า "โตเกียวเก็บภาษีข้าวสูงถึง 700 เปอร์เซ็นต์" ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่น "ทาคุ เอโตะ" กล่าวว่า "ผมไม่เข้าใจแนวความคิดของทรัมป์เลยสักนิด..."















