เหยื่อค้ามนุษย์ชาวเขมรเกือบ 100 รายถูกส่งตัวกลับจากจีนในปีนี้
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทางการจีนได้ส่งตัวชาวกัมพูชา ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์กลับประเทศแล้ว รวม 98 ราย โดย 97 รายเป็นผู้หญิงและเด็กหญิง
กรมตรวจคนเข้าเมือง แถลงการณ์ว่า "เหยื่อ 59 ราย ได้กลับบ้านแล้ว ส่วนอีก 37 ราย ได้รับการดูแลโดยกรมคุ้มครอง เหยื่ออาชญากรรมและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ภายใต้กระทรวงกิจการสังคม ทหารผ่านศึกและการฟื้นฟูเยาวชน" และ "เหยื่อ 2 รายถูกส่งตัวไปยังกรมกิจการสังคม ทหารผ่านศึกและฟื้นฟูเยาวชน ในจังหวัดสวายเรียง"
แถลงการณ์ดังกล่าว ยังได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย ซึ่งกล่าวหาว่า "เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ ป้องกันไม่ให้พลเมืองกัมพูชา โดยเฉพาะผู้หญิงที่แต่งงานและย้ายไปจีน หรือ หางานในต่างประเทศออกจากประเทศ"
โฆษกชี้แจงว่า "เราไม่ได้จำกัดเสรีภาพของชาวกัมพูชา ในการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ได้ดำเนินมาตรการเพื่อปราบปรามการค้ามนุษย์ เช่น การสัมภาษณ์เพื่อหาเหตุผลของบุคคลในการออกจากกัมพูชา เป็นต้น"
ในช่วงเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจชายแดนระหว่างประเทศ ได้ป้องกันไม่ให้ผู้ต้องสงสัย 107 ราย [หญิง 82 ราย] ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ออกจากประเทศใน 52 คดี ในจำนวนนี้ 93 รายเป็นพลเมืองกัมพูชา
ที่สนามบินนานาชาติพนมเปญ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมบุคคล 75 ราย [หญิง 55 ราย] ในคดีต้องสงสัยค้ามนุษย์ 36 คดี โดย 65 รายเป็นพลเมืองกัมพูชา
ในกลุ่มชาวกัมพูชา มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน ส่วนที่เหลือถูกส่งตัวไปที่กรมป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์และคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป
แถลงการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำว่า "กรมตรวจคนเข้าเมืองขอเรียกร้องให้พลเมืองกัมพูชาทุกคน ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ต่อกลวิธีหลอกลวงและการล่อลวงต่างๆ ที่นายหน้าและอาชญากรค้ามนุษย์ ใช้ในทุกรูปแบบและทุกวิถีทาง"
















