กัน จอมพลัง ลุยช่วยป้าสมศรีร้องขอเยียวยา คุ้มครองพยาน
กัน จอมพลัง พา "ป้าสมศรี" ร้องกระทรวงยุติธรรม ขอคุ้มครองพยาน-เยียวยาคดี "ลูกพีช" ชนกระบะ ลุงบาดเจ็บสาหัส ครอบครัวผวาไม่กล้าไปรักษา
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีที่ได้รับความสนใจในโลกโซเชียลและสื่อมวลชน หลังจากเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนทางด่วน ซึ่งมีคู่กรณีเป็นลูกชายของอดีตนักการเมืองท้องถิ่น กับสองสามีภรรยาชาวบ้านผู้เคราะห์ร้าย ล่าสุด “กัน จอมพลัง” หรือ นายกัณฐ์ศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ได้เข้าช่วยเหลือคุณลุงคุณป้าผู้เสียหาย พร้อมพา “ป้าสมศรี” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม ขอให้มีการคุ้มครองพยานและให้ความช่วยเหลือเรื่องการเยียวยา หลังจากเกิดความหวาดกลัวในความปลอดภัยของชีวิต
อุบัติเหตุสะเทือนใจ รถหรูชนกระบะกลางทางด่วน ลุงเจ็บสาหัส
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา บนทางด่วนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี โดยรถยนต์ BMW หรูคันหนึ่ง ขับเข้าชนรถกระบะของ นายประจักษ์ ตวงใย วัย 65 ปี และภรรยา นางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี อย่างรุนแรง จนทำให้รถกระบะพุ่งเข้าชนแบริเออร์คอนกรีต เป็นเหตุให้คุณลุงประจักษ์บาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหัก กระดูกหน้าอกแตก และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ในขณะที่คุณป้าสมศรี ซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และที่น่าหนักใจไปกว่านั้น คือความหวาดผวาและความไม่ปลอดภัยที่ทั้งสองคนเผชิญอยู่ในขณะนี้
กัน จอมพลัง รับมอบอำนาจเข้าช่วยเหลือ พร้อมพาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ภายหลังเหตุการณ์ “กัน จอมพลัง” ได้รับมอบอำนาจจากคุณลุงคุณป้า ให้เป็นตัวแทนในการช่วยเหลือติดตามคดี และเป็นคนกลางในการประสานกับฝ่ายคู่กรณี ซึ่งก็คือ “พีช” หรือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลรัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา “กัน จอมพลัง” ได้นำคุณป้าสมศรีเข้ายื่นเรื่องต่อกระทรวงยุติธรรม โดยมี น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้รับเรื่อง
การร้องเรียนแบ่งออกเป็น 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา และการขอคุ้มครองพยาน เนื่องจากฝ่ายผู้เสียหายรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
กระบวนการเยียวยาเริ่มเดินหน้า แต่ยังต้องรอพิจารณา
น.ส.เอมอร เผยว่า กระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องไว้แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของคุณป้าสมศรี ที่ถือเป็นผู้เสียหายโดยตรงในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือ ซึ่งทางกระทรวงจะเร่งดำเนินการภายในกรอบเวลาไม่เกิน 21 วัน และต้องรอเอกสารประกอบทางการแพทย์เพิ่มเติม
สำหรับคุณลุงประจักษ์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ อาจต้องรอพนักงานสอบสวนพิจารณาเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาก่อนจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการเยียวยาได้
หวั่นไม่ปลอดภัย ขอคุ้มครองพยานอย่างเร่งด่วน
ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าคือ สภาพจิตใจของทั้งคู่ โดยเฉพาะคุณลุงที่ยังอยู่ในภาวะหวาดระแวงถึงขั้นไม่ยอมให้แพทย์เจาะน้ำในปอด เพราะกลัวจะถูกลอบทำร้าย ขณะที่คุณป้าเองก็ยังคงจำภาพอุบัติเหตุได้อย่างชัดเจน และกล่าวว่า ฝ่ายคู่กรณียังชี้หน้าด่าหลังเกิดเหตุ โดยไม่แสดงท่าทีสำนึกผิดใดๆ
“ภาพรถชนแบริเออร์ยังติดตา ป้าไหว้ขอโทษไปแล้ว แต่เขายังชี้หน้า ด่าว่าปาดหน้าเขา ทั้งที่ป้าไม่รู้ว่าทำผิดอะไร” ป้าสมศรี กล่าวทั้งน้ำตา
ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ระบุว่า มีข่าวลือว่าเขาจะถูกลอบสังหาร ซึ่งทำให้คุณลุงถึงกับไม่กล้ารักษาตัวอย่างจริงจัง และปฏิเสธการรับการรักษาบางอย่าง ด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายในโรงพยาบาล
“กัน จอมพลัง” เผยเพิ่มเติมว่า ฝ่ายผู้ก่อเหตุยังไม่ยินดีเจรจาเรื่องค่ารักษาพยาบาลและการเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการกล่าวถึงว่าเคยพยายามนำเงินสด 200,000 บาทมาฝากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าตัวมองว่าไม่เหมาะสม และหากเงินหายใครจะรับผิดชอบ?
เขายืนยันว่า ตัวเองเป็นเพียงคนกลาง หากไม่อยากคุยกับเขา ก็สามารถติดต่อกับเลขาของเขาได้โดยตรง พร้อมระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ใจบุญอย่าง "คุณหนิง ปณิตา" และอีกหลายท่าน ยินดีช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของคุณลุงคุณป้า แต่ก็ยังต้องการให้ฝ่ายคู่กรณีแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ
ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ “ป้าสมศรี” ได้กล่าวว่า ไม่ต้องการอะไรนอกจากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบ ซ่อมรถ และจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เท่านั้น พร้อมวิงวอนว่า “ไม่ต้องเจรจาอะไรกับป้าแล้ว ให้เป็นหน้าที่ของลูกสาวและคุณกันจัดการเถอะ”
เรื่องนี้จึงยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าฝ่ายคู่กรณีจะออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างไร และกระทรวงยุติธรรมจะสามารถคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน














