โดนของจริง! นักร้องสาวแฉประสบการณ์ขนลุก ถูกเล่นของจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
"แอน อรดี" เผยประสบการณ์สุดหลอน! เสียงหายปริศนา จนต้องพึ่งน้ำมนต์พระอาจารย์ จากคำสาปแช่งสู่ศรัทธา
หากพูดถึงนักร้องลูกทุ่งสาวเสียงหวานมากฝีมือในยุคนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ แอน อรดี นักร้องสาวผู้มีคิวงานแน่นตลอดปี แถมยังมีเจ้าภาพจองตัวล่วงหน้ายาวไปถึงปี 2570 เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั้งในและนอกวงการ ไม่เพียงเพราะน้ำเสียงที่ไพเราะ แต่ยังรวมไปถึงบุคลิกน่ารัก เป็นกันเอง ที่ทำให้ใครได้พบเจอก็ตกหลุมรักได้ไม่ยาก
แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มและเสียงหวานบนเวทีนั้น แอนต้องเคยเผชิญกับเหตุการณ์สุดสะพรึง ที่แทบทำให้ต้องหยุดร้องเพลงอย่างถาวร! เรื่องราวที่เจ้าตัวเพิ่งออกมาเปิดใจครั้งแรกผ่านรายการ "คุยแซ่บ SHOW" ที่มีพิธีกรแม่เหล็กอย่าง หนุ่ม กรรชัย, แอฟ ทักษอร และ ชมพู่ อารยา โดยเรื่องราวนี้ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ธรรมดา แต่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่เจ้าตัวเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ “คำสาปแช่ง” และ “ของ” จากบุคคลปริศนา
แอนเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งที่ร่างกายของเธออ่อนแอ จู่ๆ ก็มีอาการเสียงหายโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งต่างจากอาการเจ็บคอธรรมดาทั่วไป เพราะในขณะที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีก็ยังปกติดี แต่พอจบการแสดงเท่านั้น เสียงกลับหายไปทันทีราวกับถูกปิดสวิตช์
“เสียงหายตอนร้องเพลงปกติเลย แต่พอลงเวทีมา ปุ๊บ ไม่มีเสียงเลย ทำเสียงไม่ได้เลยค่ะ เหมือนมันโดนอะไรบางอย่าง” แอน อรดี
เธอจึงไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบ และได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็นเพียงเส้นเสียงอักเสบ แต่แอนกลับรู้สึกว่าไม่ใช่แค่นั้น เพราะอาการที่เกิดขึ้นมีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ทั้งความรู้สึกเบลอ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ รวมถึงอาการไข้ขึ้นในช่วงเย็นของทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งถึงขั้นร้องไห้ต่อหน้าแฟนคลับแบบไม่ทราบสาเหตุ
คำสาปแช่งจากอดีต? เชื่อมโยงกับความเชื่อ
เมื่ออาการไม่ดีขึ้นแม้จะพักผ่อนและทานยา แอนจึงตัดสินใจโทรหาพระอาจารย์ที่เคารพนับถือ ซึ่งพระอาจารย์ก็ได้เชิญให้ไปที่วัดเพื่อตรวจดูด้วยจิตสัมผัส
“พระอาจารย์บอกว่า มันมาจากคำสาปแช่ง จากคนที่เราเคยทำผิดไว้ในอดีต หรือบางครั้ง เราไปสัญญา หรือทำพิธีไว้แต่ไม่ได้กลับไปทำตาม ก็อาจจะมีผลได้”
หนึ่งในสิ่งที่พระอาจารย์กล่าวถึงคือ การที่แอนเคยทำ “บายศรีไหว้ครู” ทุกวันพระ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง แต่กลับหยุดไปแบบกะทันหันโดยไม่ได้บอกกล่าว ซึ่งตามความเชื่อแล้ว อาจเป็นเหตุให้วิญญาณหรือพลังบางอย่างติดตามตัวมา
พระอาจารย์จึงให้แอนไป อาบน้ำมนต์ ดื่มน้ำมนต์ และทำพิธีขอขมาผู้มีพระคุณ รวมถึงไหว้ครูตามครรลองที่ควรเป็น หลังจากนั้นไม่นาน อาการเสียงหายของแอนก็ค่อยๆ ดีขึ้น และสามารถพูดได้ตามปกติอีกครั้ง
เรื่องราวยิ่งน่าขนลุกไปอีกเมื่อพระอาจารย์ที่ช่วยแอนได้เปิดเผยว่า ตนเองก็มีอาการคล้ายกันหลังจากทำพิธีให้แอน ราวกับสิ่งที่ตามแอนไปได้ย้ายมายังพระอาจารย์ชั่วคราว แต่สุดท้ายก็หายดีหลังจากไปพบแพทย์และทำพิธีตามความเชื่อ
เรื่องนี้ทำให้แอนเริ่มให้ความสำคัญกับ “ครู” และ “ผู้มีพระคุณ” มากยิ่งขึ้น เพราะในวงการบันเทิงและดนตรีนั้น การไหว้ครู การจ่ายค่าครู ถือเป็นธรรมเนียมสำคัญที่หลายคนยังคงยึดถือ
“เหมือนมันต้องมีค่าครู เวลาที่เราทำอะไรเกี่ยวกับศิลปะ แต่วันนั้นเราไม่ได้จ่ายค่าครู ไม่ได้ยกครูให้ท่าน เพราะเราไม่มีอะไรเลยจริงๆ”
หลังจากเหตุการณ์นั้น แอนไม่เคยลืมที่จะกลับไปที่วัดเดิม และยังคงรักษาศรัทธาในพระอาจารย์ผู้ช่วยชีวิตเธอไว้จนถึงทุกวันนี้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นบทเรียนเรื่องความเชื่อ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนคลับหลายคนที่กำลังเผชิญปัญหาในชีวิตว่า ศรัทธาและความเชื่อสามารถสร้างพลังบวกให้เราได้เสมอ แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่หากใจเราเชื่อและตั้งมั่น ก็อาจนำทางไปสู่ทางออกอย่างไม่คาดฝัน
“ตอนนั้นไม่มีแม้แต่เสียงจะพูดกับใคร แต่ตอนนี้กลับมายืนร้องเพลงได้อีกครั้ง หนูก็ขอบคุณครู ขอบคุณทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในตัวหนู”
นอกจากเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจแล้ว ผลงานล่าสุดของแอน อย่างเพลง “บังเอิญมันได้อ่ะ” ก็กลายเป็นกระแสแรงบนโลกโซเชียล มีผู้คนแชร์และนำไปคัฟเวอร์จำนวนมาก สะท้อนถึงความสามารถและพลังเสียงที่ยังคงตราตรึงใจแฟนเพลงได้ไม่เสื่อมคลาย
สรุป: เรื่องราวของ แอน อรดี ไม่ได้เป็นแค่บทสัมภาษณ์ธรรมดา แต่มันคือ บทเรียนชีวิตที่ลึกซึ้ง ผสมผสานระหว่างความเชื่อ วัฒนธรรม และการเติบโตของศิลปินคนหนึ่งที่เริ่มจากศูนย์จนกลายเป็นขวัญใจมหาชนในวันนี้ และเหนือสิ่งอื่นใด แอนยังคงยืนหยัดอยู่ได้ด้วยพลังใจ ความศรัทธา และการไม่ลืมบุญคุณคนที่เคยหยิบยื่นโอกาสให้เธอ
“สุดท้ายนี้ เรื่องทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน”















